อัปเดตวีซ่าเกษตร 2024 สรุปแรงงานไทยยังมีความหวังหรือไม่

Vietnam joins the Australian Agriculture Visa Program

ออสเตรเลียได้เริ่มหารือประเทศในอาเซียนเพื่อเข้าร่วมโครงการวีซ่าเกษตรออสเตรเลีย Credit: Department of Agriculture, Water and the Environment.

วีซ่าเกษตรออสเตรเลีย คือหนึ่งในประเด็นที่คนไทยจำนวนมากให้ความสนใจมาเป็นเวลานานหลายปี ในโอกาสเยือนออสเตรเลียของกระทรวงแรงงานไทย เอสบีเอสไทยได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านรัฐมนตรีเพื่อติดตามอัปเดตความคืบหน้าเรื่องนี้ว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน สรุปแล้วคนไทยจะได้วีซ่าตัวนี้หรือไม่


ประเด็นสำคัญ
  • ออสเตรเลียยังไม่ได้ให้ประเทศไทยหรือแรงงานภาคเกษตรจากประเทศไทยเข้ามาทำงาน
  • หากทางการออสเตรเลียยังไม่เปิดให้การเข้ามาทำงานอย่างถาวร อาจจะเริ่มโครงการนำร่องแบบฤดูกาลเก็บเกี่ยว
  • ได้มีการเจรจาทั้งที่ดาร์วินและเมลเบิร์น กรณีเรื่องภาษา หากทำงานในภาคส่วนนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนทักษะภาษาอังกฤษสูงขนาดนั้น
คลิก ▶ ด้านบนเพื่อสัมภาษณ์ฉบับเต็ม

เนื่องในโอกาสที่กระทรวงแรงงานไทยพร้อมคณะได้เดินทางเยือนเครือรัฐออสเตรเลียในระหว่างวันที่ 16 – 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เอสบีเอสไทยได้มีโอกาสพูดคุยกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่ออัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยทางรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไทยเผยว่า ขณะนี้ ออสเตรเลียยังไม่ได้ให้ประเทศไทยหรือแรงงานภาคเกษตรจากประเทศไทยเข้ามาทำงานในออสเตรเลีย

Phipat Ratchakitprakarn, Minister of Labour of Thailand.jpg
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเอสบีเอสไทย / Source: Supplied
LISTEN TO
Thai Agriculture visa  image

อัปเดตวีซ่าเกษตร 2024 สรุปแรงงานไทยยังมีความหวังหรือไม่

SBS Thai

22/02/202415:18
“ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้น สำหรับกระทรวงแรงงานที่จะพยายาม ประสานและขอให้ทางการ ช่วยรับคนไทยนอกเหนือจาก อาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตร อาทิ อาชีพที่เกี่ยวกับความชำนาญของช่าง ทำสำคัญอีกอาชีพคือแรงงานประมง ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้คุยที่ดาร์วินบอกว่ามีความต้องการ แรงงานประมงมาทำงานในออสเตรเลีย เพราะแรงงานประมงของคนไทยค่อนข้างขยัน และเก่ง”

นายพิพัฒน์ เผยว่าในการเยือนออสเตรเลียครั้งนี้ทางกระทรวงแรงงานพร้อมคณะได้เดินทางไปที่เมืองดาร์วิน และได้พบผู้ประกอบการคนไทย คุณตู่ เจ้าของสวนมะม่วง 7,000 ไร่ เป็นสวนมะม่วงที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่เป็นของคนไทย เป็นความน่าชื่นชม เป็นความสามารถของคนไทยที่มาสร้างสวนมะม่วง 7,000 ไร่ ไม่ใช่เรื่องง่าย คุณตู่ก็พายามที่จะนำเข้าแรงงานไทยมาทำงาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว สิงหาคม-ตุลาคม น่าจะมีการใช้แรงงานเก็บผลไม้ทั้งดาร์วินเกือย 2,000 คน โดยสวนคุณตู่เองน่าจะอยู่ที่ราว 200 คน
ซึ่งผมคิดว่าอันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เราจะนำแรงงานที่กลับมาจากอิสราเอล มาทำงานในออสเตรเลียเป็นการทดแทน
นายพิพัฒน์ กล่าว

สานต่อนโยบายวีซ่าเกษตรจากรัฐบาลที่แล้ว

นายพิพัฒน์ ระบุว่า ในครั้งที่แล้ว เราไม่ได้ลงนามใน MOU ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการ แต่มีการเปลี่ยนรัฐบาลเสียก่อน คราวนี้ท่านนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ตั้งใจว่าจะมาหารือในเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งเราจะสานต่อจากนโยบายเก่า และอาจมีการเติมเข้าไปใหม่ โดยเพิ่มสาขาอาชีพในการเข้ามาทำงานในออสเตรเลีย และที่สำคัญมีการหารือกันว่า ถ้าหากทางการออสเตรเลียยังไม่เปิดให้การเข้ามาทำงานอย่างถาวร อาจจะเป็นการเข้ามาทำงานแบบฤดูกาลเก็บเกี่ยว อาจจะสองเดือนสามเดือน ในแต่ละชนิดของผลไม้
New agriculture visa for overseas farm workers
วีซ่าเกษตรกรรมใหม่สำหรับคนงานในฟาร์มจากต่างประเทศ Source: AAP

“ซึ่งผมคิดว่าคนไทยเราก็มีความเชี่ยวชาญในผลไม้แต่ละชนิด โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย มีไร่องุ่นเยอะ คนไทยที่ทำงานที่อิสราเอลมีความชำนาญในการเก็บเกี่ยวไร่องุ่น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าโครงการแบบเฉพาะฤดูกาล อาจจะเป็นโครงการนำร่องได้” รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไทยกล่าว

ซึ่งโครงการทดลองนี้ได้หารือกับทางผู้ประกอบการไทยในดาร์วิน เขาบอกว่าพร้อมที่จะรับ เข้ามาสักสองถึงสามเดือน เพื่อเก็บเกี่ยวผลไม้ แล้วเดินทางกลับ
นายพิพัฒน์ กล่าว

จำนวนแรงงานภาคเกษตรที่คาดไว้ว่าจะเข้ามาที่ออสเตรเลีย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรามีแรงงานกลับมาจากอิสราเอลราว 9,000 คน แต่เราไม่ได้หวังว่าจะส่งมาออสเตรเลียทั้งหมด คาดว่าจะส่งมาที่นี่ราว 2,000 คน น่าจะเป็นตัวเลขที่ทางรัฐบาลไทยพอใจมากๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือค่าตอบแทนของออสเตรเลียนั้นค่อนข้างสูง ซึ่งผมคิดว่า ถึงแม้ในหนึ่งปีเราจะมาทำงานแค่ 6 เดือน หรือ สามถึงสี่เดือน ก็อาจจะมีรายได้เพียงพอที่จะกลับไปเลี้ยงดูครอบครัว

“เหมือนอย่างที่เรามีการส่งคนไปไปเก็บเบอร์รี่ในสแกนดิเนเวีย ทั้งฟินแลนด์ ทั้งสวีเดน เป็นระยะเวลาสามเดือนเช่นกัน ดังนั้นหากเราเก็บจากทางโน้นเสร็จ โยกมาทางนี้ ปีหนึ่งเราได้ 6 เดือน ผมคิดว่า คนงานด้านเกษตรก็จะอยู่ได้”
vine farm
Source: Pixabay

โอกาสความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงแบบ G2G จะสำเร็จ

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่เปิดให้เราเข้ามา ต้องฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ท่านนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาประชุมอาเซียนซึ่งมีออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพการประชุม หวังว่านายกฯจะได้เจรจาทวิภาคี กับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ถึงแม้เราจะไม่ได้แบบถาวร ก็ขอเป็นแบบฤดูกาลก่อนก็ยังดี ซึ่งผมมั่นใจว่าแรงงานเกษตรของไทยสามารถทำได้

ถ้าหากว่าโครงการเริ่มต้นเป็นแบบฤดูกาล ในดาร์วิน โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการไทยซึ่งพร้อมที่จะรับอยู่แล้ว เพียงแต่ขอรัฐบาลออสเตรเลีย ยอมเปิดโครงการให้เราทดลองเท่านั้นเอง
นายพิพัฒน์ กล่าว

ระดับภาษาอังกฤษ ความท้าทายของแรงงานเกษตรไทย

นายพิพัฒน์ เผยถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องของภาษาที่ได้หารือกับทางเอกอัคราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยที่ระบุว่ามีการเพิ่มระดับคะแนนภาษาจาก 4.5 ขึ้นเป็น 6 ของไอเอล การมาเยือนออสเตรเลียครั้งนี้ ผมได้มีการเจรจาทั้งที่ดาร์วินและเมลเบิร์น เราขอว่า กรณีเรื่องภาษา หากทำงานในภาคส่วนนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนทักษะภาษาอังกฤษสูงขนาดนั้น จะขอลดจากระดับ 6 มาที่ระดับ 3 ได้หรือไม่

เพราะแรงงานภาคส่วนนี้ไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานเทคนิค หรืองานที่จำเป็นต้องใช้ภาษามาก เพียงแค่สื่อสารว่าการเก็บเป็นอย่างไร โดยเฉพาะโครงการนำร่องเราพยายาม เอาแรงงานมาแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะสวนที่เป็นของคนไทย

“แน่นอนการสื่อสารภาษาอังกฤษจำเป็นต้องรู้บ้าง เพื่อดำรงชีวิตประจำวัน ส่วนการทำงานการใช้ภาษาเชิงเทคนิคก็ไม่มาก ก็เชื่อว่าถ้าหากเป็นระดับ 3 คนไทยเราก็อาจจะผ่านได้ โดยเฉพาะแรงงานในอิสราเอล ทักษะภาษาเบื้องก็ดีอยู่พอสมควรแล้ว”

โอกาสของแรงงานทักษะอื่นๆ ที่ขาดแคลนในออสเตรเลีย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แรงงานไทยเรามีทักษะในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะออสเตรเลียที่มีโครงการก่อสร้าง อู่ต่อเรือ ผมคิดว่าแรงงานช่างเชื่อม ช่างกระจก โดยเฉพาะช่างยนต์ ซึ่งตรงนี้มีการหารือว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะส่งแรงงานที่มีทักษะเชี่ยวชาญเหล่านี้เข้ามา ซึ่งแน่นอนว่างานทักษะเหล่านี้ เราก็ต้องยกระดับทางภาษาในระดับ 4.5 ถึง 6 ตามที่รัฐบาลออสเตรเลียต้องการ

“เราต้องเตรียมความพร้อมโดยให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาแรงงานให้ตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ หวังว่าทางรัฐบาลออสเตรเลียจะเปิดให้แรงงานไทยเข้ามาทำงานที่นี่ นอกเหนือจากหมู่เกาะ ที่ปัจจุบันเปิดรับอยู่แล้ว”

ระวังการหลอกลวงมาทำงานเกษตร

ด้านสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงวีซ่าเกษตรเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนปีที่แล้วว่ากรณีมีบุคคลและองค์กรบางกลุ่มที่กล่าวอ้างว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าทางการเกษตรของออสเตรเลียที่กำลังมีแผนดำเนินการอยู่นั้น
ทางสถานเอกอัครราชทูตขอแจ้งว่าในขณะนี้ไม่มีการออกวีซ่าทางการเกษตรของออสเตรเลียให้แก่ผู้ใด ขอให้ท่านโปรดใช้ความระมัดระวังอย่าหลงเชื่อการโฆษณาจากองค์กรหรือบุคคลใดที่อ้างว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการออกวีซ่านี้ได้

ด้านกระทรวงแรงงานยืนยันว่าหากใครพบการหลอกลวงที่ไทยสามารถแจ้งเรื่องไปได้ที่ 1506


Share