หนุ่มฮ่องกงฟ้องนายจ้างไม่จ่ายค่าแรงตามกฎหมาย ได้เงินย้อนหลังกว่า 3แสนเหรียญฯ

หนุ่มฮ่องกงและเพื่อนร่วมงานได้ค่าจ้างย้อนหลัง สามแสนกว่าเหรียญ หลังฟ้องแฟร์เวิร์กเหตุนายจ้างไม่จ่ายเงินตามกฎหมาย ด้านนายจ้างและกรรมการของบริษัทคนหนึ่งถูกศาลสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน $558,190

Mr. Wong  talks to FWO.jpg

Migrant worker talks to FWO, helps workmates get more than $350,000 in back-pay. Source: Getty / Asadnz/iStockphot /Fair Work Ombudsman

เมื่อเร็วๆ นี้ทางแฟร์เวิร์ก (Fair Work Ombudsman) ได้เปิดเผยว่า นาย ชิ ยู เอิน หว่อง (Shi Yuen Wong) ชาวฮ่องกง ซึ่งถือวีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (“working holiday visa) ทำงานด้านการเก็บและบรรจุในคลังสินค้าแห่งหนึ่งในซิดนีย์ ที่ต่อมาเขาตัดสินใจเข้าแจ้งเรื่องกับทางแฟร์เวิร์กเมื่อมีความรู้สึกว่าค่าจ้างของเขาไม่ถูกต้อง

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเดินทางมาต่างประเทศ และนี่เป็นงานแรกของผม” เขากล่าวผ่านล่าม “โดยพื้นฐานแล้ว ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรในออสเตรเลีย ผมไม่เคยทราบว่ามีการใช้อัตราค่าจ้างการทำงานล่วงเวลา(โอที)”
Mr Wong 2.jpg
Shi Yuen Wong was a working holiday visa holder picking and packing in a Sydney warehouse when he had a feeling his pay wasn’t right. Supplied by Fair Work Ombudsman
หลังจากที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดกันเรื่องค่าจ้าง นายหว่องจึงได้ค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ Fair Work Ombudsman ในตอนนั้นเขาทำงานที่ Winit (AU) Trade Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทของฮ่องกงที่ให้บริการด้านคลังสินค้าและการกระจายสินค้าในซิดนีย์ตะวันตก สำหรับสินค้าที่ซื้อขายทางออนไลน์ รวมถึงอีเบย์

หลังจากอ่านข้อมูลที่ www.fairwork.gov.au “ผมเรียนรู้ว่า แท้จริงแล้วผมมีสิทธิ์หลายอย่างในขณะที่ผมกำลังทำงานอยู่ในออสเตรเลีย” นายหว่องพูด “ผมไม่เคยทราบว่า หาก [พนักงานการจัดเก็บและคลังสินค้า] ทำงานวันเสาร์และวันอาทิตย์ คุณมีสิทธิ์ได้รับเงินมากขึ้น”
เขาได้แจ้งข้อกังวลของเขากับนายจ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ค่าจ้างของเขาได้รับการปรับปรุงใด ๆ

นายหว่อง หนุ่มสัญชาติฮ่องกงที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างจำกัด ไม่รู้สึกย่อท้อ เขาได้ทำการรวบรวมข้อมูลของเพื่อนร่วมงานที่ Winit จำนวน 20 คน เมื่อรวบรวมหลักฐานการจ่ายค้างต่ำกว่าที่ควรได้รับแล้ว เขาจึงติดต่อและร้องขอความช่วยเหลือจาก Fair Work Ombudsman
Australia Post delivery centre
Employees are seen at work at Australia Post’s Sunshine West Parcel Delivery Centre, in Melbourne. Source: AAP
“มีผู้คนจำนวนมากที่เชื่อว่าพวกเขาควรได้รับค่าจ้างมากขึ้นสำหรับการทำงานล่วงเวลา แต่หลายคนกลัวที่จะติดต่อ Fair Work Ombudsman”
ผมไม่กลัว ผมเชื่อว่าออสเตรเลียเป็นสังคมที่มีกฎระเบียบ
นายหว่องกล่าว
ในท้ายที่สุดทางแฟร์เวิร์กได้มีการสั่งจ่ายคืนเงินค้างจ้างเต็มจำนวนให้แก่แรงงานข้ามชาติจำนวน 30 คนที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรเป็นจำนวนเงิน $368,684

ซึ่งรวมถึงเงินค้างจ่ายสำหรับตัวนายหว่องเองด้วย $13,000
Fair Work Ombudsman ได้ดำเนิคดีเรื่องนี้ในศาล โดยทางนายจ้างและกรรมการของบริษัทคนหนึ่งถูกศาลสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน $558,190

นายหว่องกล่าวว่า “มันไม่ใช่เรื่องเงินหรือความยุติธรรม แต่เป็นเรื่องของการได้รับสิทธิประโยชน์ที่ถูกต้องและการได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม นั่นเป็นส่วนที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุด ”

นอกจากนี้ศาลยังพบอีกว่าบริษัทจ่ายให้พนักงานต่ำกว่าที่ควรทั้ง ๆ ที่รู้กฎหมายนี้ดีอยุ่แล้ว และรู้ว่าควรจะต้องจ่ายค่าจ้างในอัตราพิเศษสำหรับการทำงานล่วงเวลา วันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์
เป็นเรื่องจงใจทำแน่นอน
นายหว่องพูด
ด้านแอนนา บูธ (Anna Booth) เจ้าหน้าที่ของแฟร์เวิร์ก กล่าวสนับสนุนให้แรงงานข้ามชาติทำในสิ่งที่นายหว่องได้ทำไปแล้ว และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิทธิของพวกเขา และขอให้ออกมาขอความช่วยเหลือ หากจำเป็น
Flexible working becoming the norm
Source: AAP
“แรงงานข้ามชาติมีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างคนอื่น ๆ ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสิทธิที่ต้องได้รับถึงแม้ว่าคุณเป็นผู้ทำผิดเงื่อนไขของวีซ่า เราขอสนับสนุนให้แรงงานข้ามชาติติดต่อขอข้อมูลและความช่วยเหลือได้จากเรา” บูธ กล่าว

“การให้ความคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและเปราะบางเป็นความสำคัญอย่างหนึ่งที่ แฟร์เวิร์กยึดถือ แรงงานอย่างนายหว่องที่มาขอความช่วยเหลือจากเรามีบทบาทสำคัญ ทำให้เราสามารถทำให้นายจ้างต้องแสดงความรับผิดชอบได้”
โปรดพึงระลึกว่า นายจ้างของคุณไม่สามารถดำเนินการกระทำใดๆ ที่เป็นผลร้ายต่อคุณได้ รวมถึงการไล่คุณออกจากงาน หากคุณมาขอความช่วยเหลือจากแฟร์เวิร์กเพราะกฎหมายคุ้มครองคุณ
บูธกล่าว
แฟร์เวิร์กระบุว่า หากคณะกรรมธิการ ฯ ได้ระบุชี้ หรือได้รับรายงานกรณีเอารัดเอาเปรียบในสถานประกอบการของคุณ คุณจะได้รับการประเมินคุณสมบัติเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานกิจการภายในของออสเตรเลีย หากคุณมีสิทธิ์ แฟร์เวิร์กฯ จะขออนุญาตคุณเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะส่งต่อกรณีของคุณไปยังหน่วยงานกิจการภายใน

หากคุณปฏิบัติตามเงื่อนไขในกระบวนการ Assurance Protocol และไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ทำให้วีซ่าของคุณถูกยกเลิก หน่วยงานกิจการภายในของออสเตรเลียจะส่งจดหมายถึงคุณ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าวีซ่าของคุณจะไม่ถูกยกเลิก
วีซ่าของคุณจะไม่ถูกยกเลิก หากคุณปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
  • คุณได้ขอรับคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากแฟร์เวิร์ก และกำลังช่วยเหลือในกระบวนการไต่สวนของแฟร์เวิร์ก
  • คุณไม่มีเหตุผลอื่นในที่จะทำให้วีซ่าต้องถูกยกเลิก เช่น เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ความประพฤติ สุขภาพ หรือการฉ้อฉล
  • คุณได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขวีซ่าของคุณในอนาคต
Assurance Protocol จะครอบคลุมผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่อนุญาตให้ทำงานในออสเตรเลียดังต่อไปนี้
  • Student visa (subclass 500 series visas)
  • Working Holiday Maker visa (subclass 417)
  • Work and Holiday visa (subclass 462)
  • Temporary Work (Skilled) visa (subclass 457)
  • Temporary Skill Shortage (TSS) visa (subclass 482)
  • Temporary Work (International Relations) visa (subclass 403)
ส่วนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่ไม่มีการอนุญาตทำงานแนบมากับวีซ่า หน่วยงานกิจการภายในของออสเตรเลียจะพิจารณาตามสมควรในแต่ละกรณี

ปัจจุบันตลาดแรงงานออสเตรเลียประกอบด้วยแรงงานข้ามชาติประมาณร้อยละเจ็ด แต่กระนั้นพวกเขายังมีเรื่องร้องเรียนด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการบังคับใช้กฎหมายอยู่ใน Fair Work Ombudsman เป็นจำนวนมาก ซึ่งตามข้อมูลพบว่ามีเพียงร้อยละ 17 ของกรณีพิพาทที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และอีกประมาณร้อยละ 20 ของการได้รับเรื่องร้องเรียนนิรนาม ขณะที่การฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งหมดที่เริ่มต้นในปี 2022-23 มีอยู่ร้อยละ 15

ด้านแฟร์เวิร์กได้ส่งเรื่องฟ้องศาลมาแล้ว 138 คดีเกี่ยวกับแรงงานผู้ถือวีซ่า และมีคำสั่งศาลลงโทษปรับเงินราว 15 ล้านดอลลาร์ ตลอดช่วงปีงบประมาณหกปีจนถึงเดือนมิถุนายนค.ศ. 2023

นายจ้างและลูกจ้างสามารถไปที่เว็บไซต์ของแฟร์เวิร์ก (www.fairwork.gov.au) หรือโทรไปที่สายข้อมูลที่หมายเลข 13 13 94 สำหรับคำแนะนำและความช่วยเหลือฟรีเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในสถานประกอบการ สำหรับบริการล่ามโทรไปที่หมายเลข 13 14 50


Share
Published 14 February 2024 5:14pm
Updated 15 February 2024 10:05am
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS

Share this with family and friends