หนทางสำหรับเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวที่เป็นผู้อพยพในออสเตรเลีย

Services say the lockdown measures are placing women at increased risk.

ผู้หญิงยืนอยู่ในความมืดที่บ้าน Source: Press Association

ความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศเป็นปัญหาใหญ่ด้านสุขภาพและการเป็นอยู่ในออสเตรเลีย สิ่งนี้เกิดขึ้นกับหลายคน และผู้อพยพเพศหญิงต้องเผชิญอุปสรรคหลายอย่างเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

สถิติระบุว่าประชาชนออสเตรเลียหลายคนตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงด้วยน้ำมือของคนในครอบครัว

ผู้หญิง 1 ใน 6 คนและผู้ชาย 1 ใน 18 คนประสบความรุนแรงทางร่างกายและความรุนแรงทางเพศโดยคู่ครอง

ดร. นาดา อิบราฮิม (Dr. Nada Ibrahim) ผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงในครอบครัวจากศูนย์คุ้มครองเด็ก (Centre for Child Protection) แห่งมหาวิทยาลัยเซาท์ ออสเตรเลีย (University of South Australia) กล่าวว่าความรุนแรงในครอบครัวมีหลายรูปแบบ

“ปัญหาเรื่องความรุนแรงในครอบครัวเป็นคำที่ใช้เรียกความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวทุกประเภท รวมถึงคู่ครองและคู่นอนด้วย ยังหมายถึงการทารุณกรรมเด็ก การละเมิดผู้สูงอายุ การทารุณกรรมระหว่างพี่น้อง รูปแบบความรุนแรงใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในบ้าน”
เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศส่วนมากเป็นผู้หญิง

เมื่อเราพูดถึงความรุนแรง มันไม่ใช่แค่ทางภายภาพ ความรุนแรงเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ได้แก่ ความรุนแรงทางร่างกาย การควบคุมทางการเงิน การคุกคาม หรือการบังคับควบคุม

ดร. อิบราฮิมกล่าวว่าหลายคนไม่ทราบว่าความรุนแรงอาจเป็นการแสดงออกโดยไม่ได้ตั้งใจหรือมีหลายวิธี
ในบางวัฒนธรรมอาจไม่ระบุถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากการทำร้ายร่างกายว่าเป็นความรุนแรงในครอบครัว
"พวกเขาอาจระบุว่าความรุนแรงทางร่างกายไม่เป็นที่ยอมรับในชุมชนเนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่ได้ระบุถึงสิ่งอื่นๆ เช่น การใช้วาจาเพื่อทำร้ายจิตใจ การใช้จิตวิทยา การควบคุมการเงิน หรือการใช้วิธีทางสังคม”

บางกรณี ความเชื่อทางศาสนาหรือแรงกดดันจากครอบครัวอาจเพิ่มความซับซ้อนให้กับสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวได้

หน่วยงานความรุนแรงในครอบครัวบางหน่วยงานอาจไม่สามารถจัดการกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้ แต่ยังมีบางองค์กรเช่น เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงในครอบครัวสำหรับชุมชนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ

คุณอนุ คริชนัน (Anu Krishnan) ผู้อำนวยการคัลเจอร์บริลล์ (Kulturebrille) บริษัทที่ให้คำปรึกษาเรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่าง เธอเตือนว่าบางครั้งความกดดันเนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว

“ชุมชนผู้อพยพมีความเครียดเรื่องการใช้ชีวิตในวัฒนธรรมใหม่ ปัญหาเรื่องการหางานและโอกาสในการทำงานมักเป็นความท้าทายเรื่องภาพลักษณ์ของแต่ละเพศ และการประสบกับวัฒนธรรมใหม่ที่เสรีกว่า ซึ่งแตกต่างไปในประเทศบ้านเกิด”
คุณคริชนันย้ำว่า การป้องกันความรุนแรงในครอบครัวนั้นจะได้ผลก็ต่อเมื่อทั้งชุมชนมีส่วนร่วม
ต้องมีการสนับสนุนอย่างมากให้ผู้หญิงกล้าหรือมั่นใจพอที่จะขอความช่วยเหลือ ต้องมีโครงการรณรงค์จากชุมชน
"เพื่อให้สมาชิกชุมชนคนอื่นๆ มีส่วนร่วมและช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งจากชุมชน บ่อยครั้งผู้หญิงไม่ขอความช่วยเหลือเพราะมีความละอายใจที่จะพูดถึงความรุนแรงของคู่นอนของเธอ เราต้องขจัดความอับอายนั้นออกไป และบอกพวกเขาว่ามันโอเคที่จะพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาจะไม่ถูกตำหนิ”

คุณคริชนันกล่าวว่าผู้หญิงที่เป็นผู้อพยพประสบกับอุปสรรคเมื่อพวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือ พวกเธอมักรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ทราบว่าควรไปที่ไหน

“พวกเขากลัวที่จะรายงาน และหากพวกเขารายงานแล้วพวกเขาจะไปที่ไหน? พวกเขาไม่ชินกับการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์เฉพาะสำหรับสตรี พวกเขามีภาพสถานสงเคราะห์ที่ไม่ดี ผู้หญิงหลายคนมีปัญหาเรื่องวีซ่า พวกเขาอาจพึ่งพาเรื่องค่าครองชีพจากคู่ครอง บางครั้งพวกเขาไม่สามารถพาลูกย้ายออกมาได้”
A woman with her mouth covered by someone's hand behind her
ผู้หญิงถูกเอามือปิดปากจากด้านหลัง Credit: Pexels/Anete Lusina
คุณเวนดี้ ลอบไวน์ (Wendy Lobwein) เป็นผู้จัดการโครงการป้องกันความรุนแรงต่อสตรี (Prevention of Violence Against Women Program) องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพย้ายถิ่นที่เพิ่งมาถึงให้ตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลีย

เธอกล่าวว่าสิ่งสำคัญคือผู้ชายควรเข้าร่วมโครงการรณรงค์เหล่านี้ด้วย

“ผู้ชายสามารถมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความสัมพันธ์ที่เคารพกันละกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง และมีทัศนคติที่ให้เกียรติต่อผู้หญิง รวมถึงแสดงทัศนคติกับสถานการณ์ที่ทำให้ความรุนแรงต่อสตรีเป็นเรื่องเล็กน้อย”

มีหลายบริการช่วยเหลือผู้อพยพที่เป็นผู้หญิงที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว

หลายองค์กรทำงานร่วมกับล่ามเพื่อให้ความช่วยเหลือในทุกภาษา

หากคุณประสบกับเหตุความรุนแรง คุณยังสามารถรายงานกับแพทย์รักษาโรคทั่วไป (GP) ซึ่งสามารถให้คำแนะนำและส่งต่อไปยังบริการที่เกี่ยวข้องได้

แต่หากคุณตกอยู่ในอันตราย คุณลอบไวน์กล่าวว่าอย่าลังเลที่จะโทรเบอร์ฉุกเฉิน 000

“ฉันรู้ว่าผู้หญิงหลายคนกลัวการที่ให้ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาคิดว่าจะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขา แต่ตำรวจถูกฝึกฝนมาให้รับมือในการทำงานให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการยุติความสัมพันธ์หรือยุติการแต่งงาน ดังนั้น โปรดโทรหา ศูนย์ ศูนย์ ศูนย์”

บริการให้ความช่วยเหลือ:

  • หากคุณหรือบุคคลอื่นตกอยู่ในอันตราย โทรสายด่วนฉุกเฉิน 000
  • บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวหรือการประทุษร้ายทางเพศ (1800RESPECT) โทร 1800 737 732 หรือ 
  • บริการให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพจิต 24 ชั่วโมง (Beyond Blue) 1300 224 636 หรือ
  • ติดต่อบริการล่ามโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (TIS) โทร 131 450
ซีรีส์เรื่อง Safe Home เป็นละครเรื่องราวเบื้องหลังความรุนแรงในครอบครัว สามารถรับชมได้ทางช่อง SBS และ นะคะ

แหล่งบริการช่วยเหลือสำหรับเหยื่อความรุนแรง:

อ่านหรือฟังเรื่องการตั้งถิ่นฐานและการย้ายถิ่นฐานในออสเตรเลียได้อีก


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share