‘เราไม่เคยปฏิเสธเยอะเท่านี้มาก่อน’ ทำไมวีซ่านักเรียนถึงผ่านน้อยลง

อัตราการอนุมัติวีซ่านักเรียนลดลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ จากข้อมูลล่าสุดของรัฐบาล นักเรียนจากประเทศเช่น อินเดีย เนปาลและปากีสถานคือกลุ่มที่โดนผลกระทบมากที่สุด

Three young people sit in separate sandstone arches.

อัตราการอนุมัติการขอวีซ่านักเรียนลดลงเหลือประมาณร้อยละ 81 ในช่วงหกเดือนถึงเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005-06 Source: AAP

อัตราการอนุมัติวีซ่านักเรียนของออสเตรเลียลดลงอยู่ในจุดต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ

ในช่วงหกเดือนถึงเดือนธันวาคม 2023 อัตราการอนุมัติวีซ่านักเรียนอยู่ที่ 80.9 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากช่วงปี 2022-23 ที่ 86 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2021-22 ที่ 91.5 เปอร์เซ็นต์ และปี 2018-19 ก่อนการระบาดของโควิด ที่มีอัตราการอนุมัติวีซ่าอยู่ที่ 89.9 เปอร์เซ็นต์

นี่คืออัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005-06

อัตราการปฏิเสธจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยอัตราการอนุมัติวีซ่านักเรียนระดับอุดมศึกษาจากการยื่นนอกราชอาณาจักร นักเรียนจากอินเดียและเนปาลลดลงจากเดิมที่ร้อยละ 74.2 และ 65.2 ในปี 2022-23 เป็น 60.8 และ 47.8 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

“เราไม่เคยไปถึงจุดนี้มาก่อน ในแง่ของอัตราการอนุมัติ ทั้งในแง่ของอัตราร้อยละ และรวมถึงในแง่ของจำนวนสัมบูรณ์ด้วย” อาบุล ริซวี อดีตรองเลขาธิการแผนกตรวจคนเข้าเมือง กล่าว

“เราไม่เคยปฏิเสธวีซ่านักเรียนจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนเลย

เขากล่าวว่าอัตราการอนุมัติที่ลดลงนั้นเป็นไปตามที่คาดไว้ ภายหลังจากการประกาศแผนยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาลเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อลดจำนวนผู้อพยพไปยังจุดก่อนการระบาดของโควิด และส่งเสริมความสมบูรณ์ของภาคการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ

“พวกเขามุ่งไปที่นักเรียนก็เพราะนักเรียนคือกลุ่มใหญ่ที่สุดในจำนวนกลุ่มผู้อพยพ” ริซวีกล่าว

แผนการสร้างความน่าเชื่อถือที่ได้รับการประกาศภายใต้กลยุทธ์เพื่อยกระดับมาตรฐานสำหรับนักเรียนต่างชาติและผู้ให้บริการด้านการศึกษา ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้สำหรับภาษาอังกฤษและข้อกำหนดความตั้งใจเข้ามาศึกษาของนักเรียน

กระบวนการพิจารณาวีซ่านักเรียนทำงานอย่างไร?

เมื่อพูดถึงกระบวนการพิจารณาวีซ่า ริซวีอธิบายว่ารัฐบาลจะใช้ระบบที่เรียกว่า “การจัดอันดับความเสี่ยง” (risk-rating) ต่อผู้ให้บริการการศึกษาทั้งหมด

“มหาวิทยาลัยที่อันดับสูงในออสเตรเลียจะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากนักเรียนโดยส่วนใหญ่ที่พวกเขารับเข้ามามีความตั้งใจที่จะมาเข้ารับการศึกษาและยังมีมีอัตราการฉ้อโกงค่อนข้างน้อย” เขากล่าว

“ขณะที่ผู้ให้บริการทางการศึกษาอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักศึกษามากขึ้น โดยที่ปัญหาต่างๆ เช่น การฉ้อโกงและการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นพบบ่อยกว่า และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้รับคะแนนความเสี่ยงที่สูงกว่า ซึ่งหมายความว่าใบสมัครของพวกเขาจะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมากขึ้น”

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม แคลร์ โอนีล รัฐมนตรีด้านกิจการภายใน ได้ลงนาม ในคำสั่งกระทรวงเพื่อดำเนินการตามลำดับความสำคัญในการยื่นขอวีซ่าผู้ปกครองนักเรียน (subclass 590) และนักเรียนจากนอกราชอาณาจักร (subclass 500)

นี่หมายความว่านักเรียนที่ต้องการยื่นสมัครเรียนในสถาบันที่มีความเสี่ยงต่ำจะได้รับการพิจารณาก่อน
Home Affairs Minister Clare O'Neil at a press conference.
รัฐมนตรีด้านกิจการภายใน แคลร์ โอนีล กล่าวเมื่อเดือนธันวาคมว่ายุทธศาสตร์การย้ายถิ่นของรัฐบาลพรรคแรงงานคือ "การสร้างความสมบูรณ์กลับคืนมาในระบบ" Source: AAP / Mick Tsikas
ฟิล ฮันนี่วูด ประธานสมาคมนักเรียนต่างประเทศแห่งออสเตรเลีย (IEAA) กล่าวว่า หน่วยงานกิจการภายในจำเป็นต้องดำเนินการตามคำร้องขอวีซ่านักเรียนทุกรายการตามกฎหมาย

“แต่เป็นเพียงความล่าช้าเท่านั้นที่มักจะสร้างความแตกต่างว่านักเรียนจะสามารถมาเรียนที่ออสเตรเลียได้หรือไม่” เขากล่าว

วีซ่านักเรียนได้รับการอนุมัติแล้วจำนวนเท่าไหร่?

อ้างอิงจากริซวี ในเดือนธันวาคม 2023 แสดงให้เห็นว่าคำร้องขอยื่นวีซ่านักเรียนนั้นยังอยู่ในอัตราที่สูง ขณะที่อัตราการอนุมัติกลับลดลง

“คำร้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก และสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำตอนนี้คือการทำให้อยู่ภายใต้การควบคุม” เขากล่าว

“ในมุมของผม สิ่งนี้ไม่ยั่งยืน คณไม่สามารถจะปฏิเสธคำร้องจำนวนมากขนาดนี้โดยใช้กฎเกณฑ์ที่จับต้องไม่ได้”
จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงด้านกิจการภายใน พบว่ามีจำนวนยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนอยู่ที่ 282,302 ในช่วงหกเดือนถึง 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคำร้องทั้งจากภายในและนอกประเทศ จากจำนวนนี้แบ่งเป็นคำร้องในระดับอุดมศึกษา 131,878 คำร้อง(จากจำนวนผู้ยื่นเพื่อศึกษาในออสเตรเลีย) และอีก 65,470 คำร้องสำหรับการเรียนสายวิชาชีพ

ผู้ยื่นคำร้องวีซ่านักเรียนจากนอกราชอาณาจักรได้รับการอนุมัติไปทั้งสิ้น 195,934 ราย ซึ่งในจำนวนนั้นประกอบด้วยระดับอุดมศึกษาและวิชาชีพที่ 98,198 และ 33,835 ตามลำดับ

อัตราการอนุมัติวีซ่าสำหรับการเข้าเรียนในรัดบอุดมศึกษาลดลงอยู่ที่ 82.5เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงจาก ปี 2022-23 ที่มีอัตราการอนุมัติอยู่ที่ 87.5 เปอร์เซ็นต์ และ 96 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021-22 และ 94.3ในปี 2018-19

มหาวิทยาลัยที่อยู่ในเทียร์สองและสามในการจัดอันดับความเสี่ยง เข้าใจดีต่อผลกระทบของเรื่องนี้

ในจดหมายเปิดผนึกซึ่งลงนามอธิการบดี 16 คน มีรายงานว่าถูกส่งไปยัง แคลร์ โอนีลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา เจสัน แคลร์ เพื่อแสดงถึงความกังวลใจต่อกรณีนี้ ทาง สำนักข่าว SBS News ยังไม่ได้เห็นจดหมายฉบับดังกล่าว และที่ผ่านมาได้ติดต่อไปยังรัฐบมนตรีโอนีลต่อกรณีนี้แล้ว

นักเรียนจากประเทศไหนได้รับผลกระทบมากที่สุด?

ฮันนี่วูดกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะชี้ไปว่านักเรียนจากประเทศไหนถูกปฏิเสธวีซ่าเยอะที่สุด

เขากล่าวอีกว่า อัตราการอนุมัติที่ลดลงล่าสุดนั้น ส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นสัดส่วนต่อนักเรียนจากประเทศต่างๆ เช่น ปากีสถานและเนปาล เนื่องจากความท้าทายเฉพาะประเทศที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างภายใต้กลยุทธ์การย้ายถิ่นฐาน

“อย่างไรก็ตาม เราทราบดีว่าประเทศใดบ้างที่เคยถูกปฏิเสธในอดีต” เขากล่าว

อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุด ร้อยละ 60.8 ของคำร้องเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาจากนอกราชอาณาจักรของนักศึกษาชาวอินเดียที่ได้รับการอนุมัติในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งลดลงจากร้อยละ 74.2 ในปี 2022-23 และร้อยละ 84.6 ในปี 2021-22 และร้อยละ 85 ในปี 2018-19

ในส่วนอัตราการอนุมัติวีซ่าสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาจากเนปาลที่ยื่นคำร้องนอกราชอาณาจักรลดลงจากร้อยละ 65.2 ในปี 2022-2023 เหลือเพียงร้อยละ 47.8 ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา

สำหรับนักเรียนจากปากีสถาน ก็มีอัตราผ่านวีซ่าลดลงเช่นกัน จากร้อยละ 66.3 เหลือเพียงร้อยละ 62.6

ขณะที่อัตราการอนุมัติวีซ่าในนักเรียนจากจีนที่ยื่นคำร้องจากนอกราชอาณาจักรสำหรับการเข้าเรียนระดับอุดมศึกษายังคงทรงตัวที่ร้อยละ 97

อ้างอิงจาก ฮันนี่วูด ระบุว่า ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีนักศึกษาจากต่างชาติอาศัยอยู่มากที่สุด พบว่านักศึกษาจากจีนคือสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยเนปาล อินเดีย

ทั้งจีนและอินเดีย มีจำนวนประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน ขณะที่เนปาลมีประชาชนอยู่ที่ 27 บ้านคนใกล้เคียงกับออสเตรเลีย

ปัจจุบันออสเตรเลียมีนักเรียนหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากจากอนุทวีปอินเดีย ซึ่งประกอบไปด้วยบังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย มัลดีฟส์ เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา
ฮันนี่วูดกล่าวว่าเวียดนามและมาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของวีซ่า

“ผมได้ยินมาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามีนักเรียนชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับวีซ่าเช่นกัน แม้ว่าไม่ถูกปฏิเสธแต่ล่าช้า จนถึงขั้นที่พวกเขาจะไม่สามารถเข้าเรียนเทอมแรกได้ทัน” เขากล่าว

โฆษกกระทรวงด้านกิจการภายในกล่าวว่าออสเตรเลียดำเนินโครงการวีซ่านักเรียนโดย "ไม่เลือกปฏิบัติ" โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการศึกษาในการมอบการศึกษาที่มีคุณภาพแก่นักเรียนต่างชาติ

“ผู้ยื่นขอวีซ่านักเรียนจะได้รับการประเมินตามคุณสมบัติส่วนบุคคลของตน โดยเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย โดยมีข้อกำหนดสำคัญคือผู้ยื่นคำขอต้องเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเข้ามาเรียนจริง” พวกเขากล่าว

โฆษกระบุว่าอัตราการให้วีซ่านักเรียนที่ลดลงนั้นมุ่งเน้นไปที่การต่อต้านการฉ้อโกงและการสมัครที่ไม่จริงตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการตามทิศทางของรัฐมนตรีเพื่อการประมวลผลลำดับความสำคัญ
พวกเขายังตั้งอัตราการอนุมัติวีซ่านักเรียนที่ต่ำโดยสัมพันธ์กับจำนวนการตัดสินใจ (ซึ่งเท่ากับอัตราอนุมัติบวกการปฏิเสธ)

โฆษกกล่าวว่า นับตั้งแต่การเปิดพรมแดนอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด มีความพยายาม "เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" ในการขอวีซ่านักเรียนโดยใช้เอกสารหรือข้อมูลที่เป็นการฉ้อโกง และกระทรวงฯ ปฏิเสธใบสมัครใดๆ ที่มีการฉ้อโกง

ฮันนี่วูดกล่าวว่าเขาต้องการเห็นความโปร่งใสมากขึ้นในภาคการศึกษาของนักเรียนต่างชาติ และความรู้สึกของ "การฟื้นฟูความสมดุล"

“โดยทั้งหมดแล้ว สถาบันที่มีความเสี่ยงระดับหนึ่งอาจได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการอนุมัติจะถูกปิด หรือลดลงอย่างมากเกินไปเมื่อพูดถึงการอนุมัติวีซ่าสำหรับผู้ให้บริการทางการศึกษารายอื่น” เขากล่าว


Share
Published 29 February 2024 1:36pm
By Emma Brancatisano
Presented by Warich Noochouy
Source: SBS


Share this with family and friends