คำแนะนำที่เผยแพร่ออกมาหลังการประชุมผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ระบุว่า อีกไม่นานนี้ ชาวออสเตรเลียที่อายุ 16 ปีขึ้นไปจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่สามจึงจะถือว่าได้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
ในสัปดาห์นี้กลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI) ได้ปรับปรุงคำแนะนำของกลุ่ม โดยระบุว่า ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มกระตุ้นแล้ว จะถือว่ามีสถานะวัคซีนที่ "up to date" หรือได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่สองไปแล้วเกิน 6 เดือนและยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ช็อต) จะถือว่ามีสถานะวัคซีนที่ "overdue" หรือมีวัคซีนที่ควรต้องฉีดค้างอยู่
คำแนะนำที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่นี้จาก ATAGI จะมีเริ่มผลบังคับใช้ในปลายเดือนมีนาคม
ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนกระตุ้นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่สองไปแล้ว 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม จะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐและมณฑลว่าจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่
นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศนั้นจะต้องได้รับวัคซีนสองเข็มเพื่อเดินทางเข้าออสเตรเลียเมื่อพรมแดนระหว่างประเทศเปิดในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้
นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า แม้ว่าข้อกำหนดในการฉีดวัคซีนจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรับฟังผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
“ความเป็นจริงก็คือ สถานการณ์เปลี่ยนไป คำแนะนำทางการแพทย์ก็เปลี่ยนตาม” เขาบอกกับไนน์ เนตเวิร์ก ในวันศุกร์ (11 ก.พ.)
"นั่นคือความเป็นจริงเกี่ยวกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เมื่อพวกเขาเรียนรู้มากขึ้น เนื่องจากมีการศึกษาเพิ่มเติมและกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น พวกเขาจะตัดสินใจทำทุกอย่างที่จะให้เราปลอดภัยที่สุด และนั่นคือคำแนะนำที่เราจะปฏิบัติตาม"
นายริดชาร์ด มาร์ลส์ รองหัวหน้าพรรคแรงงาน กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ช็อต) นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง
“เห็นได้ชัดเจนว่า มันมีความสำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ และนั่นคือหลักฐานที่เราเห็นจากทั่วโลก” นายมาร์ลส์ กล่าว
"สำหรับผมแล้ว มันสมเหตุสมผลดีที่คุณจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหากคุณจะทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ แต่ประเด็นพื้นฐานในที่นี้คือ ผู้คนจำเป็นต้องออกไปรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น"
ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี มุขมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของมณฑล เห็นพ้องต้องกันระหว่างการประชุมร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีเพียงเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะถูกกำหนดอย่างครอบคลุมให้ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
ในภาคการดูแลผู้สูงอายุนั้น มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า 500 รายในปีนี้
รัฐบาลสหพันธรัฐได้ส่งกองกำลังเฉพาะกิจไปช่วยบรรเทาความกดดันในภาคส่วนนี้ และจ่ายโบนัสให้กับพนักงานดูแลผู้สูงอายุ ขณะที่พนักงานที่ทำงานด้านนี้ร้องขอให้มีการขึ้นค่าจ้างร้อยละ 25
ดร.แนนซี แบ็กซ์เตอร์ นักระบาดวิทยาคลินิก (Clinical epidemiologist) กล่าวว่าคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นสมเหตุสมผลดี
“ฉันคิดว่าในอีกหลายปีต่อจากนี้ เมื่อผู้คนได้รับวัคซีนโควิด-19 เป็นครั้งแรก พวกเขาก็จะคิดว่า ความจริงแล้วนี่เป็นวัคซีนสามโดส คือคุณจำเป็นต้องฉีดสามเข็มจึงจะถือว่าได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว” เธอบอกกับเอบีซี
“มีแนวโน้มมากกว่าที่เราจะเผชิญกับเชื้อสายพันธุ์อื่น … ดังนั้นฉันจึงคิดว่ามันสำคัญที่ภาษาของเราในตอนนี้ควรเริ่มสะท้อนว่า เรายังไม่กลับมาเป็นปกติ”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียอนุมัติบูสเตอร์ช็อตให้เด็กวัยรุ่น
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
พนักงานดูแลผู้สูงอายุที่พูดได้หลายภาษากำลังขาด