ประเด็นสำคัญ
- ในออสเตรเลีย ผู้หญิง 6 คนถูกสังหารโดยคนที่พวกเธอรู้จักในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
- กระบอกเสียง บริการสนับสนุน และนักการเมืองต่างกล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังตกอยู่ในวิกฤตความรุนแรงในครอบครัว
- ออสเตรเลียกำลังทำอะไรบ้างเพื่อป้องกันความรุนแรงในครอบครัว และที่ทำอยู่เพียงพอหรือไม่?
บทความนี้มีการกล่าวถึงความรุนแรงในครอบครัว
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในออสเตรเลียมีผู้หญิง 6 คนถูกสังหาร โดยเชื่อว่าถูกกระทำโดยคนรักหรือคนที่พวกเธอรู้จัก
พวกเธอมีอายุต่างกันและอาศัยอยู่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่ทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว
กลุ่มผู้เป็นกระบอกเสียง สมาชิกรัฐสภา และบริการช่วยเหลือในด้านนี้ต่างกล่าวว่า นี่เป็นวิกฤตระดับชาติ และกำลังเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดหาทรัพยากรให้มากขึ้น และดำเนินการแทรกแซงแต่เนิ่น ๆ
นี่คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับวิกฤตความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงบนฐานของเพศสภาพ (gender-based violence) ในออสเตรเลีย
กรณีล่าสุดมีอะไรบ้าง?
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม มีผู้พบศพของคริสตัล มาร์แชล วัย 38 ปี หลังเหตุเพลิงไหม้บ้านที่ย่านอัลดินกา บีช ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ต่อมาชายวัย 48 ปีถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมและวางเพลิง
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ตำรวจถูกเรียกไปยังพื้นที่บรูซในเอซีที หลังได้รับแจ้งว่าผู้หญิงคนหนึ่งมีบาดแผลถูกแทง เธอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สามีของเธอได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล และต่อมาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม มีการพบศพของลิลี เจมส์ โค้ชโปโลน้ำวัย 21 ปี ของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง เธอมีแผลบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะ และถูกพบในห้องน้ำของโรงยิมในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในซิดนีย์ มีการตามหาตัวโค้ชคนหนึ่งของโรงเรียนเดียวกันเพื่อสอบปากคำ และมีรายงานว่าเขามีความสัมพันธ์กับเธอในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม อนาลีน โลกี โอเอซิส ถูกพบหมดสติในบ้านหลังหนึ่งในเบ็นดิโก และต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นชายคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับเธอถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ตำรวจพบศพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คาดว่าอยู่ในวัย 60 ปีกว่า หลังจากได้รับแจ้งให้ไปยังบ้านหลังหนึ่งในย่านมัสเวลล์บรุก (Muswellbrook) เนื่องจากมีผู้เป็นห่วงสวัสดิภาพของเธอ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหญิงอีกคนหนึ่งถูกควบคุมตัว หลังจากมีผู้แจ้งว่าเธอมีพฤติกรรมคุ้มดีคุ้มร้าย
ในวันเดียวกันนั้น มีการพบศพของอลิซ แมกชีรา ทนายความวัย 34 ปี ที่รีสอร์ท คราวน์ ทาวเวอร์ ในเพิร์ท ชายคนหนึ่งซึ่งที่เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับหญิงผู้นี้ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
ออสเตรเลียมีอัตราเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวเท่าใด?
สถิติที่แน่นอนของจำนวนผู้หญิงในแต่ละปีที่ถูกสังหารเพราะความรุนแรงนั้นยากที่จะระบุได้ เนื่องจากมีการสืบสวนและการดำเนินคดีที่ดำเนินอยู่
แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การใช้ความรุนแรง การข่มเหงทางจิตใจ และการข่มเหงทางการเงิน ยังคงพบได้บ่อยในออสเตรเลีย
1 ใน 4 เคยถูกทารุณกรรมทางจิตใจ ในขณะที่ 1 ใน 6 เคยถูกทารุณกรรมทางการเงิน
ผู้หญิงชาวพื้นเมืองของออสเตรเลีย รวมทั้งผู้หญิงจากชุมชนผู้ย้ายถิ่นฐานและผู้ลี้ภัยประสบกับความรุนแรงในครอบครัวในระดับที่สูงกว่าผู้หญิงทั่วไป
คุณ ราชา อับบาส ประธานกรรมการบริหารของอินทัช (InTouch) ศูนย์หลากวัฒนธรรมด้านการต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว กล่าวว่า ผู้หญิงที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐานและผู้ลี้ภัยเผชิญกับอุปสรรคในการระบุชี้ถึงความรุนแรงในครอบครัวและการเข้าถึงความช่วยเหลือ รวมถึงการขาดความเข้าใจหรือมีความกลัวต่อการบังคับใช้กฎหมายและระบบของออสเตรเลีย รวมทั้งมีอุปสรรคทางภาษา และความโดดเดี่ยวทางสังคม
“บ่อยครั้งที่สถานะวีซ่าชั่วคราวของพวกเธอถูกคู่ครองใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุม และพวกเธอส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์มีบัตรเมดิแคร์ (Medicare) ไม่มีสิทธิ์ได้รับบริการประกันสังคม บริการที่อยู่อาศัย หรือสิทธิ์ในการทำงาน” คุณอับบาส กล่าว
“สำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องตระหนักถึงความท้าทายหลายประการที่ผู้หญิงที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐานและผู้ลี้ภัยต้องเผชิญเมื่อรับมือกับความรุนแรงในครอบครัว”
คุณอับบาสกล่าวว่า ความซับซ้อนเหล่านี้จึงทำให้เรื่องนี้ต้อง "ได้รับความเอาใจใส่ในทันที" และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงร่วมกันในระดับชุมชน
“เราจำเป็นต้องให้การสนับสนุนผู้คนในฐานะมนุษย์ ไม่ใช่ตามสถานะวีซ่าของพวกเธอ” คุณอับบาสกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันครอบครัวศึกษาแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Family Studies) เผยแพร่งานวิจัยฉบับใหม่ ซึ่งพบว่าเกือบ 3 ใน 10 ของผู้ที่มีอายุ 18-19 ปี เคยประสบกับความรุนแรงจากคู่ครองในช่วงปีที่ผ่านมา
ในช่วง 12 เดือนก่อนการสำรวจ ร้อยละ 25 เคยถูกล่วงทารุณกรรมทางจิตใจ ร้อยละ 12 เคยถูกทำร้ายร่างกาย และร้อยละ 8 เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจากคนรักหรือผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพวกเธอ
ร้อยละ 29 เคยมีประสบเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างน้อยหนึ่งรูปแบบจากคนรักหรือผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพวกเธอ
ผู้หญิงมักเป็นเหยื่อของความรุนแรงจากคู่ครองมากกว่าผู้ชาย Source: SBS
“ฉันบอกได้ว่าจำนวนของเหตุความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศที่มีการแจ้งตำรวจนั้นอาจเป็นเพียงส่วนน้อยของกรณีที่เกิดขึ้นจริงซึ่งซ่อนเร้นอยู่” คุณแดเนียลกล่าว
“เรารู้จากเครือข่ายด้านที่พักพิงเพื่อหลบภัยของเราว่า ผู้หญิงจำนวนมากเลือกที่จะไม่แจ้งตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พวกเธอต้องเผชิญ ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะเหตุผลหลายประการ ดังนั้นในแง่ของสิ่งที่เราเห็น ฉันจึงคิดว่ามีการรายงานต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างแน่นอน”
มีการดำเนินการอะไรบ้างเพื่อแก้ไขเรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิงในออสเตรเลีย?
ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว รัฐบาลออสเตรเลีย พร้อมด้วยรัฐและมณฑลต่าง ๆ ร่วมกันออกแผนระดับชาติเพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก ระหว่างปี 2022-2032
กรอบนโยบายแห่งชาติดังกล่าวกำหนดพันธกรณีในการป้องกัน การแทรกแซงแต่เนิ่น ๆ การตอบสนอง การฟื้นฟูและการเยียวยาสำหรับระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
ในเดือนสิงหาคม อแมนดา ริชเวิร์ท รัฐมนตรีด้านบริการสังคม ได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการฉบับแรกภายใต้กรอบการทำงานดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเป้าหมายการลดจำนวนเหยื่อผู้หญิงที่ถูกคู่ครองฆาตกรรมลงให้ได้ 25 เปอร์เซ็นต์
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 2.3 พันล้านดอลลาร์ในร่างงบประมาณเดือนตุลาคมและพฤษภาคมสำหรับดำเนินการตามแผนแห่งชาตินี้และสำหรับความคิดริเริ่มด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ของผู้หญิง
แต่การลงทุนนี้ได้ผลจริงหรือ?
คุณแดเนียลกล่าวว่า แม้แผนต่าง ๆ จะเป็นก้าวย่างในเชิงบวก แต่ความรุนแรงในครอบครัวไม่ควรถูกปล่อยไว้ให้รัฐบาลต่าง ๆ ต้องแก้ไข
เธอเรียกสถานการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “วิกฤตระดับชาติ” และ “ปัญหาของทั้งสังคมโดยรวม”
“จะต้องมีการดำเนินการที่พุ่งเป้าไปยังทุกแง่มุมของสังคมอย่างแท้จริง” คุณแดเนียลกล่าว
“สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือระบบการตอบสนองและรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น การป้องกันและการให้การศึกษา ซึ่งรวมทั้งการตอบกลับที่มีความหมายและการช่วยเหลือเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากความรุนแรง”
คุณแดเนียลกล่าวว่า ระบบการตอบสนองควรรวมไปถึงการนำผู้กระทำผิดมาแสดงความรับผิดชอบ ทางเลือกด้านที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและราคาไม่แพงเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่เดินออกจากความสัมพันธ์ที่รุนแรง และการปฏิรูปกฎหมายที่สะท้อนถึงธรรมชาติของความรุนแรงในครอบครัวและการบังคับควบคุม
คุณแพตตี คินเนอร์สลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Our Watch ผู้นำระดับประเทศในการป้องกันขั้นต้นด้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและต่อลูกๆ ของพวกเธอ กล่าวว่าความไม่เท่าเทียมทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง
เธอกล่าวว่าในขณะที่การสำรวจแสดงให้เห็นทัศนคติที่ดีขึ้น แต่การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงของทั้งสังคมโดยรวม
“ความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นทุกวัน ในทุกชุมชน ทั่วออสเตรเลีย” คุณแพตตี คินเนอร์สลี กล่าว
“เพื่อให้ผู้หญิงปลอดภัย พวกเธอจะต้องเท่าเทียม และนี่คือวิธีที่เราสามารถหยุดยั้งความรุนแรงต่อผู้หญิงได้ก่อนที่มันจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ”
คุณ คินเนอร์สลีกล่าวว่าการให้การศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ที่มีความเคารพซึ่งกันและกันควรได้รับการสอนในโรงเรียน ผู้ปกครองควรพูดคุยกับเด็ก ๆ ที่บ้าน และเด็กผู้ชายและผู้ชายควรมีส่วนร่วมในด้าน "วิถีทางการเป็นผู้ชายที่เป็นไปในแง่บวกมากขึ้นและที่ดีต่อตนเองและคนรอบข้างมากขึ้น"
เธอเชื่อว่าการป้องกันขั้นต้นสามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผู้คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้
“การเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมที่ผลักดันให้เกิดความรุนแรงต่อผู้หญิงนั้นต้องใช้เวลา แต่หากเราลงทุนในการป้องกันต่อไปและดำเนินการเพื่อการเปลี่ยนแปลงต่อไป เราก็จะสามารถทำให้ออสเตรเลียปราศจากการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงได้”
- รายงานเพิ่มเติมโดย AAP
หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ให้โทรศัพท์ติดต่อ 1800RESPECT ที่ 1800 737 732 หรือไปที่ 1800RESPECT.org.au
ในกรณีฉุกเฉิน ให้โทรศัพท์ติดต่อ 000
ผู้หญิงที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐานและผู้ลี้ภัยที่กำลังประสบความรุนแรงในครอบครัว สามารถติดต่อ InTouch ศูนย์หลากวัฒนธรรมเพื่อต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวได้ที่ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 755 988 หรือไปที่ intouch.org.au
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นักสังคมสงเคราะห์คนไทยและการทำงานเพื่อช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว
