กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
การฟอกสีครั้งใหญ่ในแนวปะการัง เกรท แบริเออร์ รีฟ
SBS Thai
23/05/202207:39
เสียงผืนน้ำอันสงบเงียบในแนวปะการัง เกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) แต่ใต้ผิวน้ำนั้น ปะการังกำลังต้องเผชิญปัญหาของการฟอกสีครั้งใหญ่อีกครั้ง ครั้งนี้กินเวลาหลายเดือนแล้ว
จากการรายงานชิ้นใหม่ของกรมอุทยานทะเล (Marine Park Authority) ที่สำรวจแนวปะการัง เกรท แบริเออร์ รีฟ ด็อกเตอร์ เดวิด วอเชนเฟลด์ (Dr David Wachenfeld) กล่าวว่าหลักฐานที่พบนั้นน่ากลัว
“ผมคิดว่า สามารถพูดได้ว่า ร่องรอยของผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศในแนวประการัง เกรท แบริเออร์ รีฟ นั้นชัดเจนมาก”
นักวิทยาศาสตร์เริ่มออกคำเตือนเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม เมื่อครั้งอุณหภูมิของแนวปะการังพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
คลื่นความร้อนที่มีถึงสามครั้งตลอดฤดูร้อนจนถึงปลายเดือนมีนาคม การสำรวจทางอากาศเห็นความเสียหายชัดเจน จากการสำรวจแนวปะการังกว่า 700 แห่ง 91 เปอร์เซ็นต์ประสบกับการฟอกสี
ด็อกเตอร์วอเชนเฟลด์กล่าวว่า เหตุการณ์ล่าสุดเป็นปรากฎการณ์สิ่งแวดล้อมที่รุนแรงของแนวปะการัง
ความจริงที่ชัดเจนว่า เราได้เห็นการฟอกสีถึง 4 ครั้ง ในเวลา 7 ปี สะท้อนความจริงว่าโลกนั้นร้อนขึ้น 1.2 องศากว่าที่เคยเป็น ก่อนยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม
การฟอกสีเกิดขึ้นเมื่อปะการังเจอแรงกดดันจากอุณหภูมิของน้ำที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย
ถึงแม้ว่าปะการังส่วนใหญ่จะรอดพ้นได้ ความจริงจากเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นหลังจากสภาพอากาศลานีนา (La Nina) ซึ่งโดยปกตินำความเย็นเข้ามา ทำให้เกิดความกังวลครั้งใหญ่
“นอกเหนือจากปรากฏการณ์ลานีนาในฤดูร้อนที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่เราเห็นเหตุการณ์การฟอกสีของประการังครั้งใหญ่ และเหตุการณ์นี้ทำให้เรามุ่งความสนใจไปที่ความจริงที่ว่าโลกนั้นกำลังร้อนขึ้น และคลื่นความร้อนจากทะเลนั้นเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เคยเป็น” แผนที่ที่ตีพิมพ์พร้อมกับผลการรายงานระบุรายละเอียดถึงการฟอกสีที่รุนแรง บริเวณแหลม ทริบิวเลชัน (Cape Tribulation) และวิทซันเดย์ส (Whitsundays) บริเวณที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด
ภาพถ่ายมุมสูงของเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) Source: Unsplash/Manny Moreno
ด็อกเตอร์ไซมอน แบรดชอว์ (Dr Simon Bradshaw) ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยของสภาสภาพภูมิอากาศ (Climate Council Research) ระบุว่า หากไม่มีการดำเนินการ แนวปะการังอันโด่งดังนี้จะตกอยู่ในความเสี่ยง
“เห็นได้ชัดว่าควรให้โอกาสปะการังได้สู้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและหลายสาขาอาชีพนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ ต้องอาศัยการดำเนินการที่แข็งขันในการจัดการกับภัยคุกคามอันดับหนึ่งของเกรท แบริเออร์ รีฟ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ”
เหตุการณ์ปะการังฟอกสีครั้งใหญ่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1998
นับจากนั้น มีการฟอกสีครั้งใหญ่อีก 5 ครั้ง โดย 4 ครั้งเกิดขึ้นในปี 2016 ด็อกเตอร์แบรดชอว์กล่าวว่าความหวังในอนาคตดูเลือนราง
หลักวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า หากเราปล่อยให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการแก้ไข เราอาจเห็นการฟอกสีแบบนี้ทุกปี หลังจากปี 2044 อีกนัยหนึ่งคือเราอาจสูญเสียเกรท แบริเออร์ รีฟ และแนวปะการังเขตร้อนเกือบทั้งหมดทั่วโลก
ปลาและปะการังในเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) Source: Unsplash/Giorgia Doglioni
มีความเสี่ยงมากมายที่นี่ และเป็นที่แน่ชัดว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่เข้าใจความเสี่ยงนี้ และหวังให้ใครก็ตามที่ได้จัดตั้งรัฐบาลจัดการกับเรื่องนี้มากกว่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าแนวปะการังจะได้รับการคุ้มครอง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์กรที่รับผิดชอบการรายงานปฏิเสธว่าจงใจเผยแพร่การรายงานล่าช้าจนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นการแทรกแซงทางการเมือง จากนั้นก็เผยแพร่ในวันอังคารที่ 17 พฤษภาคมอย่างฉับพลัน
ด็อกเตอร์วอเชนเฟลด์กล่าวว่า ต้องใช้เวลาอีก 12 เดือน ก่อนที่จะสามารถประเมินความเสียหายของปะการังในระยะยาวได้
“คำถามสำคัญเมื่อการฟอกสีครั้งใหญ่สิ้นสุดลงในทุกครั้งคือ ปะการังสามารถรอดได้มากแค่ไหน และตายไปมากแค่ไหน นั่นเป็นคำถามที่เรายังคงหาคำตอบอยู่ตอนนี้ในเกรท แบริเออร์ รีฟ ยังคงมีปะการังที่ฟอกสีอยู่ และพวกมันอาจฟื้นฟู รอดตาย หรือพวกมันอาจตายได้”
ยังคงมีความหวังว่าแนวปะการังจะใช้เวลาในช่วงฤดูหนาวนี้ในการฟื้นฟู ก่อนที่หน้าร้อนจะมาถึงอีกครั้ง
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
READ MORE
ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแม้โลกเผชิญโควิด