นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศชั้นนำของออสเตรเลีย ต่างเตือนให้ออสเตรเลียเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ด้านสภาพอากาศที่รุนแรงสุดโด่ง ที่คาดว่าจะเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อเนื่อง
ออสเตรเลียได้ประสบสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ในฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียควรเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
จากรายงานด้านสภาพภูมิอากาศที่มีการเปิดเผยออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) นักวิจัยจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและซีเอสไออาร์โอ (CSIRO) ยืนยันว่าสภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียนั้นยังคงร้อนขึ้นต่อเนื่อง
มีคำเตือนให้ชาวออสเตรเลียเตรียมรับมือสภาพอากาศที่สุดโต่ง
ขณะนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศเพิ่มขึ้น 1.44 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ปี 1910 และปีที่แล้วเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกข้อมูลมา
ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียที่มีความเสี่ยงเกิดไฟป่าสูงนั้น สภาพภูมิอากาศกำลังแห้งมากขึ้น โดยปริมาณฝนตกในฤดูที่อากาศเย็นระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคมยังคงลดลงต่อเนื่อง
ดร.คาร์ล บราแกนซา ผู้จัดการด้านบริการพยากรณ์สภาพแวดล้อมด้านภูมิอากาศ ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า การผสมผสานระหว่างความร้อนและความแห้ง เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ฤดูการไฟป่าเลวร้ายมากขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สภาพอากาศที่ก่อให้เกิดไฟป่า” ดร.คาร์ล บราแกนซา กล่าว
“สิ่งที่เราเห็นโดยทั่วไปคือ ทั่วออสเตรเลีย โดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้ เราจะมีฤดูไฟป่าที่ยาวนานขึ้น มีอากาศที่เสี่ยงเกิดไฟป่าเกิดบ่อยขึ้นตลอดฤดูกาล และวันที่มีอากาศเสี่ยงเกิดไฟป่านั้นมีความรุนแรงมากขึ้น”แม้ว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดไฟป่าอย่างเลวร้ายในพื้นทางใต้และทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียในฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ ดร.บราแกนซา กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียจะมีความเสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมในฤดูร้อนปีนี้
Climate scientists say flooding will be the thing to watch out for over coming months. Source: AAP
“แตกต่างจากเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งเรามีภาวะความแห้งแล้งที่รุนแรงและมีปัจจัยธรรมชาติที่ก่อให้เกิดสภาพอากาศที่ร้อนยิ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อนและทำให้เกิดสภาพอากาศที่เสี่ยงต่อไฟป่ามากขึ้น แต่ขณะนี้ เรามีปรากฎการณ์ลานีญา (La Niña) ในมหาสมุทรแปซิฟิก” ดร.คาร์ล บราแกนซา กล่าว
เขาอธิบายต่อไปว่าปรากฎการณ์ลานีญา (La Niña) โดยทั่วไปแล้วมักเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ฝนตกหนักและภาวะน้ำท่วมทั่วประเทศออสเตรเลีย
“เหตุการณ์จากลานีญาครั้งสำคัญล่าสุดในปี 2010-2011 ก่อให้เกิดฝนตกหนักในปริมาณมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วออสเตรเลียและเกิดพายุไซโคลนยาซี (Yasi)”
“เรายังรู้ด้วยว่าระหว่างปรากฎการณ์ลานีญา เรามักจะเห็นพายุไซโคลนจำนวนมากขึ้นพัดขึ้นฝั่งในพื้นที่ของออสเตรเลีย”
“ดังนั้น เราได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุกการณ์รุนแรงเท่าใดนัก แต่นี่จะขึ้นอยู่กับว่าอุณหภูมิพื้นผิวทะเลนั้นอุ่นขึ้นมากเพียงใดทั่วออสเตรเลียในฤดูใบไม้ผลิ ตามปกติแล้ว อุณหภูมิพื้นผิวทะเลจะก่อให้เกิดความชื้นและเป็นเชื้อเพลิงแต่สภาพอากาศที่ก่อตัวขึ้นเหนือประเทศออสเตรเลีย” ดร.คาร์ล บราแกนซา ผู้จัดการด้านบริการพยากรณ์สภาพแวดล้อมด้านภูมิอากาศ ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา กล่าว
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
กรณีติดเชื้อในแอดิเลดขยายวงขณะ 5 รัฐออกข้อจำกัดคนจาก SA