สถาบันออสเตรเลีย (Australia Institute) ได้ศึกษาข้อมูลด้านสภาพอากาศของเมืองต่าง ๆ ของออสเตรเลียในรอบ 20 ปี จากสำนักอุตุนิยมวิทยา (Bureau of Meteorology) เพื่อเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยจากการศึกษา พบว่า อุณหภูมิของฤดูร้อนออสเตรเลียยาวนานกว่าค่ามาตรฐานเป็นเวลา 31 วัน ขณะที่อุณหภูมิของฤดูหนาวสั้นกว่าค่ามาตรฐานเป็นเวลา 23 วัน
จากการศึกษาดังกล่าว ทำให้บรรดาเหล่านักคิดออกมาส่งเสียงถึงรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีความให้ใส่ใจกับนโยบายแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงไปกว่านี้
นายริชีย์ เมอร์เซียน (Richie Merzian) ผู้อำนวยการสถาบันภูมิอากาศและพลังงาน สถาบันออสเตรเลีย กล่าวว่า จำนวนวันอากาศร้อนที่เพิ่มขึ้นนั้นสร้างความเสี่ยงให้กับสาธารณะ และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
“เป้าหมายของนโยบายลดการปล่อยมลพิษของรัฐบาลออสเตรเลียในปัจจุบันนั้น อิงอยู่กับการเพิ่มอุณภูมิเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงระหว่าง 3 – 4 องศาเซลเซียสนั้น ทำให้ชาวออสเตรเลียเผชิญกับฤดูร้อนที่ยาวนานขึ้น และผลกระทบที่จะตามมาอย่างใหญ่หลวง” นายเมเซียนกล่าว
เมื่อปี 2005 รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียตกลงภายใต้สนธิสัญญาปารีส ซึ่งตั้งเป้าเพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 26 – 28 ภายในปี 2030 นอกจากนี้ ในข้อตกลงของสนธิสัญญาดังกล่าวยังได้ระบุถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero emissions) ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 21
ขณะที่พรรคแรงงานได้ให้คำมั่นที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 แต่เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยว่า เป้าหมายในปี 2030 จะมีความมุ่งมั่นสูงกว่าที่สนธิสัญญาปารีสได้กำหนดไว้หรือไม่
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ความเข้าใจผิดๆ ในการกินไอศกรีมเพื่อดับร้อน