เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากต่างรัฐผู้หนึ่ง ถูกงูกัดและต่อมาเสียชีวิต ขณะกางเต็นท์พักแรมอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ การิก กูนัก บาร์ลู ในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี
เอบีซี รายงานว่า ชายวัย 68 ปีคนดังกล่าวถูกงูพันธุ์ เวสเทิร์น บราวน์ สเน็ก กัดและต่อมาเสียชีวิต โดยงูพันธุ์นี้นั้นจัดว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงเป็นอันดับ 9 ในโลก
อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตจากการถูกงูกัดในออสเตรเลียร้อยละ 60 มาจากการถูกงูพันธุ์ อีสเทิร์น บราวน์ สเน็ก กัด โดยงูพันธุ์นี้ถูกจัดว่ามีพิษร้ายแรงเป็นอันดับ 2 ในโลก
แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากการถูกงูกัดในออสเตรเลียซึ่งอยู่ที่เฉลี่ยปีละ 2 รายจะถือว่าน้อยมากแต่ประชาชนทั่วไปก็มีโอกาสที่จะได้พบเห็นหรือได้เผชิญกับงูขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันตามปกติทั่วไป และโดยเฉลี่ยมีผู้ถูกงูกัดในออสเตรเลียราว 3,000 รายในแต่ละปี
ออสเตรเลียน เรพไทล์ พาร์ก (Australian Reptile Park) ซึ่งเป็นสวนสัตว์จัดแสดงสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เตือนให้ประชาชนในออสเตรเลีย รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ตระหนักว่าขณะที่อากาศอบอุ่นขึ้น งูก็เป็นภัยที่ประชาชนในออสเตรเลียควรระมัดระวังเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมในป่า ในสวนสาธารณะ หรือแม้แต่ในสวนหลังบ้าน
คุณแดเนียล รัมซีย์ หัวหน้าแผนกสัตว์เลื้อยคลาน ของออสเตรเลียน เรพไทล์ พาร์ก แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้งูเข้ามาในสวนหลังบ้านของเรา คือการตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอ
“ควรตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอ อย่าให้ในสวนมีสิ่งของวางกองระเกะระกะ อย่าให้มีกระป๋องสังกะสีหรือกิ่งไม้วางกองเรี่ยราด หรืออย่าให้มีที่ใดที่งูจะรู้สึกปลอดภัยและหลบเข้าในอยู่ในนั้นได้” คุณรัมซีย์ กล่าวในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นไปเดินป่า หรือแม้แต่ทำสวน ก็ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ หรือไม่สวมรองเท้าเลย แต่ควรใส่รองเท้าที่จะช่วยปกป้องเท้าและข้อเท้า ใส่กางเกงขายาว และอย่าจับ หรือยกกิ่งไม้ กองไม้ โดยที่ยังไม่ได้ตรวจดูเสียก่อนว่ามีงูหลบซ่อนอยู่ไหม
ควรตัดหญ้าในสวนให้สั้นอยู่เสมอเพื่อป้องกันงู Source: Rudy and Peter Skitterians from Pixabay
คุณรัมซีย์ แนะนำว่าในกรณีที่เราอาจพบงูในสวนหลังบ้าน หรือในป่าละเมาะ ให้จำไว้ว่า งูไม่ต้องการเข้าใกล้เราอยู่แล้ว
“กรณีการถูกงูกัดส่วนใหญ่ในประเทศนี้นั้น มาจากการที่ผู้คนพยายามฆ่าหรือจับงู ดังนั้น หากคุณหลีกเลี่ยงการทำสิ่งเหล่านี้ คุณจะลดโอกาสที่จะถูกงูกัดลงไปได้มาก” คุณรัมซีย์ ระบุ
เขากล่าวต่อไปว่า “หากคุณบังเอิญพบงูที่อยู่ตามป่า งูจะไม่ไล่ตามคุณ ให้คุณเดินหนีไปในทิศทางอื่น และอย่าไปยุ่งกับงู ปกติแล้วงูไม่ต้องการยุ่งกับคุณ เพราะมันเห็นคุณเป็นสัตว์นักล่า (ที่อาจทำร้ายมัน)”
หากคุณถูกงูกัด หรือพบเห็นคนถูกงูกัด คุณรัมซีย์ ย้ำว่าต้องโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000 เพื่อเรียกรถฉุกเฉินในทันที และในระหว่างนั้น ก็ควรให้การปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง
“ให้รีบโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000 เพื่อเรียกรถฉุกเฉิน จากนั้น ให้พยายามจำกัดการเคลื่อนไหวของขาที่ถูกงูกัด และใช้ผ้าพันแผลพันบริเวณขาที่ถูกงูกัดให้แน่น เพื่อให้ส่วนนั้นเคลื่อนไหวน้อยที่สุด” คุณ รัมซีย์ หัวหน้าแผนกสัตว์เลื้อยคลาน ของออสเตรเลียน เรพไทล์ พาร์ก (Australian Reptile Park) ให้ข้อมูลสำหรับในออสเตรเลียนั้น มีคำแนะนำว่า ไม่ควรล้างพิษงูออกจากบาดแผล หรืออกจากเสื้อผ้า เนื่องจากมันอาจช่วยในการระบุชนิดของงูที่กัดได้
เมื่อถูกงูกัดต้องใช้ผ้าพันแผลพันขาที่ถูกงูกัดให้แน่นและจำกัดการเคลื่อนไหว และเรียกรถพยาบาล Source: hoangcuonghmu from Pixabay
ที่สำคัญคือ ห้ามดูดพิษออกจากแผล แต่พยายามจำกัดการเคลื่อนไหวของบริเวณที่ถูกงูกัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เป็นการดีที่จะนำตัวผู้ที่ถูกงูกัดไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องรอดูว่างูที่กัดนั้นมีพิษหรือไม่ เพราะดีกว่าที่จะรอดูอาการที่โรงพยาบาล แทนที่จะรอดูอาการอยู่ที่บ้าน จนทำให้พลาดการรักษาที่จะช่วยชีวิตผู้ถูกงูกัดให้รอดตายได้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
สุขใจกับงานดูแลผู้สูงอายุ