ฤดูร้อนที่มาเยือนเพิ่มความหวาดกลัวในเรื่องไฟป่า รัฐวิกตอเรียและรัฐทาสเมเนียประกาศห้ามจุดไฟอย่างสิ้นเชิง (Total fire bans) ในหลายบริเวณ
คาดปรอทอุณหภูมิจะพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียสปลายๆ ทั่วรัฐวิกตอเรียในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. อาจพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียสที่มิวดูรา (Mildura) ในแถบตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐ
ประกาศห้ามจุดไฟโดยสิ้นเชิงในเมือง มัลลี (Mallee) วิมเมร่า (Wimmera) และแถบนอร์เทิร์น คันทรี่ โดยทั้งสามเขตนี้มีระดับความอันตรายอยู่ที่ระดับรุนแรง (Severe)
นายเจสัน เฮฟเฟอร์นัน ประธานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในเขตภูมิภาคของรัฐวิกตอเรียมีความกังวลกับกลุ่มนักท่องเที่ยวแคมป์ปิ้งในเขตภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย (Regional Victoria) และเกษตรกรที่ต้องทำงานเก็บเกี่ยวพีชผลท่ามกลางความร้อน
“เราจะไม่อนุญาตให้มีการก่อไฟในป่าในเขตดังกล่าวตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม และเราขอเตือนไม่ให้ประชาชนจุดไฟก่อนจะตกดึกหรือในเขตอื่นในรัฐวิกตอเรีย” นายเจสันกล่าว
“ประชาชนที่ก่อไฟในระหว่างแคมป์ปิ้งในช่วงนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าดับไฟให้เรียบร้อยเพื่อเลี่ยงการปะทุของไฟ
“สภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในขณะนี้จะช่วยให้การเก็บเกี่ยวสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามผมขอกำชับประชาชนที่กำลังทำการเก็บเกี่ยวให้ระมัดระวังและเตรียมแผนป้องกันอันตรายไว้ล่วงหน้า”
ระดับอันตรายจากไฟป่าอยู่ในระดับสูงมาก (Very high) ในแถบเหนือของภาคกลาง (North Central) ตะวันตกเฉียงใต้ (South West) ภาคกลาง (Central) และตะวันออกเฉียงเหนือ (North East) ระดับอันตรายของไฟป่าอยู่ในระดับสูงในแถบกิปส์แลนด์ (Gippsland)
ปรากฎการณ์ลา นีนา ที่พัดผ่านแถบตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ไฟป่าในรัฐที่มีความเสี่ยงของไฟป่าสูงอย่างรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ในฤดูกาลนี้
แต่กระแสลมเหนือและลมตะวันตกเฉียงเหนือจะพัดผ่าน ตามด้วยกระแสลมตะวันตกและกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งจะทำให้ลดอุณหภูมิลง คาดการณ์สภาวะแห้งแล้งอาจมีพายุฝนฟ้าคะนองในบางแห่ง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงควรเตรียมพร้อม
กระแสลมเหล่านี้จะนำลมร้อนพัดผ่านรัฐแทสเมเนีย ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมกราคม 10-15 องศาเซลเซียส
คาดเมืองนิว นอร์โฟล์ค (New Norfolk) และริชมอนด์ (Richmond) จะมีอุณหูมิสูงที่สุดที่ 37 องศาเซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิคาดการณ์สูงที่สุดของเมืองโฮบาร์ท (Hobart) 2 องศาเมืองหลวงของรัฐแทสแมเนียเป็นหนึ่งใน 12 เขตการปกครองที่มีการห้ามจุดไฟอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันจันทร์ที่ 11 ม.ค. เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในบริเวณที่มีความเสี่ยงของไฟป่าสูงหากไม่มีความจำเป็น
Hobart is expecting temperatures well above average. Source: MACQ 01 HOTEL
หน่วยดับเพลิงรัฐแทสเมเนียได้เตรียมการณ์ล่วงหน้าด้วยการเตรียมอุปกรณ์ เช่น ระเบิดน้ำสำหรับทิ้งน้ำดับไฟหลายลูก
“วิธีนี้จะเป็นวิธีการต่อสู้ในขั้นแรกของเรา และเรายังมีทีมปฏิบัติการที่เตรียมพร้อมที่จะจัดการกับไฟป่าเมื่อมีไฟป่าเกิดขึ้น” นายเอียน บาว์นดส์ รักษาการหัวหน้าเขตภูมิภาคกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม
ลมที่พัดด้วยความเร็ว 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะทำให้สภาวะอากาศร้อนที่เอื้อต่อการเกิดไฟป่ายุ่งยากขึ้น และอาจมีพายุฝนฟ้าคะนองในแถบตอนใต้ของรัฐแทสเมเนียที่อาจมีฝนเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่มีฝนตกเลย
นายลุค จอห์นสตัน นักอุตุนิยมวิทยาเผยว่าสภาพอากาศจะเพิ่มระดับความอันตรายของไฟป่าให้อยู่ในระดับรุนแรง (Severe) ในแถบตะวันออกเฉียงใต้และตอนเหนือของเดอร์เวนท์ วัลเล่ย์ (Derwent Valley) และระดับสูงมาก (Very high) ในส่วนใหญ่ของบริเวณอื่นๆ ในรัฐ
อากาศที่ร้อนระอุในรัฐแทสเมเนียและแถบตอนใต้ของรัฐวิกตอเรียจะบรรเทาลงในระยะสั้นๆ ในวันอังคารที่ 12 มกราคมก่อนที่ระดับปรอทอุณหภูมิจะไต่สูงขึ้นอีกครั้งในวันพุธที่ 13 มกราคม