ประเด็นสำคัญ
- เบาะนั่งสำหรับเด็กในรถยนต์ต้องได้มาตรฐานของออสเตรเลีย
- กฎหมายเรื่องเบาะนิรภัยสำหรับเด็กในรถแท็กซี่ รถเช่าร่วม และรถเช่าอื่นๆ แตกต่างไปตามรัฐและมณฑล
- 5 วิธีทดสอบเบาะนิรภัยของเด็กก่อนออกเดินทาง
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
กฎหมายว่าด้วยการใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กบนรถยนต์กำหนดให้ใช้เบาะนิรภัยตามอายุและส่วนสูงของเด็ก
หลายครอบครัวมักสับสนเมื่อต้องเปลี่ยนเบาะนิรภัยหรือเมื่อหยุดใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็ก
ศาสตราจารย์วอริก ทีก (Warwick Teague) ผู้อำนวยการแผนกการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเด็กในพระราชูปถัมภ์ (Royal Children’s Hospital) ที่เมืองเมลเบิร์นกล่าวว่าเป็นความสับสนที่พบได้บ่อย
“มีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ถูกกฎหมายและสิ่งที่ควรปฏิบัติ ความแตกต่างนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและการตัดสินใจโดยไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน เด็กๆ ในออสเตรเลียหลายคนอาจเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยระดับความปลอดภัยที่ต่ำกว่าที่ควร"
เราต้องการให้เด็กๆ และครอบครัวเดินทางโดยรถยนต์อย่างปลอดภัย ใช้เบาะนิรภัยที่เหมาะสม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดศาสตราจารย์ทีกกล่าว
ศาสตราจารย์วอริก ทีก จากโรงพยาบาลรอยัล ชิลเดรน ที่เมืองเมลเบิร์น Credit: The Royal Children's Hospital Melbourne
“สิ่งสำคัญคือความพอดี ซึ่งหมายถึงส่วนสูง อายุ และสัดส่วนของร่างกายรวมกัน เด็กบางคนมีลำตัวยาวแต่มีขาสั้นกว่า เด็กบางคนมีขายาวแต่ลำตัวสั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยของการหาเบาะนิรภัยให้พอดีกับเด็ก”
ตาม เครื่องหมายกำหนดตำแหน่งของไหล่เป็นตัวแปรในการตัดสินใจว่าเด็กโตเกินเบาะที่นั่งในปัจจุบันหรือไม่
ควรเปลี่ยนเบาะนิรภัยเมื่อเด็กโตเกินเครื่องหมายนี้
ควรสังเกตว่าเด็กลำตัวพอดีกับเบาะนิรภัยหรือไม่ ใช้เบาะนิรภัยให้เหมาะสมกับตัวเด็ก และเปลี่ยนเบาะนิรภัยเมื่อมันไม่พอดีกับตัวเด็กแล้วศาสตราจารย์ทีกแนะนำ
กฎหมายว่าด้วยการใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กที่ออสเตรเลีย Credit: ChildCarSeats
การหันเบาะนิรภัยไปด้านหน้ารถจะให้ผลลัพธ์อีกรูปแบบหนึ่ง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ศีรษะจะถูกเหวี่ยงไปด้านหน้าก่อน
"จมูกของเด็กอาจจะแตะกับอก มันจะงอและหักไปอีกด้านหนึ่ง นั่นอาจเป็นช่วงเวลาของความเป็นความตาย และมีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง”
ศาสตราจารย์ทีกแนะนำว่าควรหันเบาะนิรภัยไปทางด้านหลังรถแม้จะเกินกำหนด 6 เดือน
“ผู้ปกครองควรทราบว่าเมื่อลำตัวของเด็กไม่พอดีกับเบาะนิรภัยแบบหันหน้าไปทางด้านหลังรถอีกต่อไป ยังคงสามารถซื้อเบาะนิรภัยที่หันหน้าไปด้านหลังรถ ที่ปรับเปลี่ยนตามการเติบโตของเด็กได้ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก แม้จะมีราคาแพง แทนการใช้เบาะนิรภัยแบบหันหน้าไปด้านหน้ารถที่มีสายรัดหลายจุด แม้ว่าเด็กจะมีอายุ 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน และ 15 เดือน เรายังควรใช้เบาะนิรภัยแบบหันหน้าไปด้านหลังรถตราบเท่าที่มันพอดีกับตัวเด็ก”
คุณเบอร์นาร์ด คาร์ลอน (Bernard Carlon) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของศูนย์ความปลอดภัยทางรถยนต์ (Centre for Road Safety) เน้นถึงปัญหาของการติดตั้งเบาะนิรภัยที่ไม่พอดีกับเด็ก ซึ่งนับเป็น 2 ใน 3 สาเหตุของการใช้เบาะนิรภัยอย่างไม่ถูกต้องที่ออสเตรเลีย
ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือใช้บริการติดตั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเด็ก
“ทั่วออสเตรเลีย มีศูนย์ติดตั้งเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์มีกว่า 300 แห่ง รัฐบาลท้องถิ่นมีโครงการมากมายที่ให้บริการในภาษาอื่น
สำหรับชุมชนที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เรายังมีบริการดูแลให้ความช่วยเหลือในการซื้อเบาะนิรภัย หากมีข้อจำกัดทางการเงิน”
สิ่งสำคัญคือเบาะนิรภัยสำหรับเด็กควรได้มาตรฐานความปลอดภัยของออสเตรเลีย เบาะนิรภัยที่ซื้อมาจากต่างประเทศอาจไม่ตรงกับระเบียบเรื่องความปลอดภัยกับที่ออสเตรเลีย
ผมแนะนำให้หาเบาะนิรภัยสำหรับเด็กที่ออกแบบตามมาตรฐานของออสเตรเลียคุณคาร์ลอนแนะนำ
"ตามสถานะทางการเงินของคุณ คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับเบาะนิรภัยทางเว็บไซต์ของเรา ระดับดาว (star rating) คือคะแนนของการป้องกันและความยากง่ายของการใช้งาน ซึ่งผ่านการทดสอบของเราแล้ว”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สิทธิ์ของเด็กในออสเตรเลีย
กฎหมายว่าด้วยการใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กสำหรับรถแท็กซี่ รถแชร์ร่วม และรถเช่าแตกต่างไปตามแต่ละรัฐและมณฑล ควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจถึงกฎที่บังคับใช้ในบริเวณที่คุณอยู่
“เมื่อคุณจองรถ ควรแจ้งผู้ให้บริการทราบว่าคุณต้องการเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก หากคุณจะใช้เบาะนิรภัยของคุณเอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันพอดีกับที่นั่ง ไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยรถแบบไหน จะใช้บริการรถแชร์ร่วมหรือรถแท็กซี่ หรือรถเช่า หรือแม้แต่รถของครอบครัว ของเพื่อน หรือของผู้ดูแลเด็กคนอื่น"
ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีเบาะนิรภัยสำหรับเด็กที่เหมาะสมและติดตั้งอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม เด็กๆ มักโตเกินเบาะนิรภัย
ศาสตราจารย์ทีกย้ำว่าควรตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ก่อนเปลี่ยนแปลง
“มี 5 วิธีทดสอบ ข้อแรกเด็กต้องสามารถนั่งโดยให้หลังพิงพนักพิงได้ ข้อสองคือเข่าต้องงอไปที่นั่งด้านหน้าได้สบาย ข้อสามคือเข็มขัดนิรภัยต้องสามารถคาดต่ำพาดต้นขาได้ ข้อสี่คือสายสะพายต้องพาดไหล่ ตรงกลางของไหล่ได้ ข้อห้าคือเราต้องทำตามทั้ง 4 ข้อนี้ตลอดการเดินทาง”
ควรตรวจสอบความพอดีของเบาะนิรภัยของเด็กทุกครั้งก่อนออกเดินทาง Credit: MoMo Productions/Getty Images
“มันไม่ใช่ว่าจะติดตั้งแล้วลืมไปได้เลย เราต้องปรับเบาะนิรภัยเสมอ มันยุ่งยากแต่เป็นสิ่งที่เราควรทำ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ เราจะรู้ว่าเราได้ทำให้เด็กปลอดภัยแล้วแต่ต้น จากนั้นความปลอดภัยของเด็กจะขึ้นอยู่กับหลักฟิสิกส์และแรงของอุบัติเหตุ หากเราจัดให้เด็กอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ปลอดภัย ความเสี่ยงและโอกาสที่จะได้รับการบาดเจ็บรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้น”
เราไม่สามารถควบคุมเวลาของอุบัติเหตุได้ แต่เราสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็กๆ ได้ ด้วยการเลือกสิ่งที่ปลอดภัย เช่น เบาะนิรภัยสำหรับเด็กที่ถูกต้อง ตรงตามกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ ตรวจสอบความพอดีและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เราสามารถลดความเสี่ยงและปกป้องเด็กๆ ได้ หากเกิดอุบัติเหตุ
แหล่งข้อมูลจากกรมขนส่งของแต่ละรัฐและมณฑล:
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
วิธีรับมือกับความเจ็บป่วยจากศูนย์รับเลี้ยงเด็ก