LISTEN TO
สิทธิ์ของเด็กในออสเตรเลีย
SBS Thai
16/05/202211:27
สิทธิบางประการที่ระบุไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้แก่ การรับรองสิทธิด้านความปลอดภัย สิทธิที่จะได้รับการศึกษา และสิทธิที่จะเติบโตอย่างมีสุขภาพแข็งแรง
ศาสตราจารย์พอลลา เกอร์เบอร์ (Paula Gerber) จากคณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโมนาช (Monash University) เป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน เธอกล่าวว่าผู้ปกครองความสำคัญอย่างมากกับสิทธิของเยาวชนในการเติบโตอย่างแข็งแรง
“ออสเตรเลียมีสิทธิประโยชน์เรื่องระบบสาธารณสุขแห่งชาติ เมดิแคร์ (Medicare) และทันทีที่เด็กเกิด พวกเขาจะได้รับสิทธิ์ด้านการรักษาพยาบาล แต่ความรับผิดชอบหลักในการที่เด็กมีสุขภาพดี การพาเด็กๆ ไปพบแพทย์ และการได้รับวัคซีนนั้นเป็นของผู้ปกครองเป็นด่านแรก”
เด็กๆ มีสิทธิด้านความปลอดภัยไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน
กฎหมายในออสเตรเลียนั้นแตกต่างไปในแต่ละรัฐ กฎหมายที่บังคับใช้การรายงานด้านความปลอดภัยนั้นกำหนดให้รายงานการล่วงละเมิดที่น่าสงสัยกับหน่วยงานคุ้มครองเด็กของรัฐบาล (Child Protection Services) รวมถึง การล่วงละเมิดทางร่างกาย ทางเพศและทางอารมณ์ การละเลยและความไม่ได้รับการป้องกันจากความรุนแรงในครอบครัว ศาสตราจารย์เกอร์เบอร์อธิบาย
“กฎหมายกำหนดสิ่งที่เรียกว่า ‘หน้าที่ในการรายงาน’ กับผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ดังนั้นหากผู้เชี่ยวชาญมีเหตุผลที่เพียงพอที่เชื่อว่าเด็กกำลังถูกละเมิดหรือได้รับความรุนแรงหรือถูกละเลย พวกเขาจะต้องรายงานต่อหน่วยงานคุ้มครองเด็ก ซึ่งขึ้นกับ หน่วยงานของกระทรวงบริการมนุษย์ (Department of Human Services) บุคคลที่มีหน้าที่ในการรายงาน ได้แก่ แพทย์ พยาบาล ครู ตำรวจ และผู้ที่ทำงานในองค์กรทางศาสนา”
ศจ. เกอร์เบอร์กล่าวว่า เด็กในออสเตรเลียที่มีอายุระหว่าง 6 – 17 ปีต้องได้รับการศึกษาในโรงเรียน
ผู้ปกครองต้องให้เด็กๆ ไปโรงเรียนและโรงเรียนต้องแน่ใจว่าเด็กๆ มาเรียนที่โรงเรียน ดังนั้นจะมีการเช็คชื่อในระดับประถมศึกษา ซึ่งจะทำสองครั้งต่อวัน และทุกห้องเรียน ทุกวิชาในชั้นมัธยม หากมีการขาดเรียนโดยไม่ทราบสาเหตุเกิน 5 วันต่อปี ผู้อำนวยการโรงเรียนควรตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณครูและเด็กนักเรียนในห้องเรียน Source: Getty Images/JohnnyGreig
ออสเตรเลียไม่อนุญาตให้เด็กทำงานที่ได้รับค่าจ้างจนกว่าจะมีอายุ 15 ปี
“เรามีกฎหมายที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการให้เด็กทำงาน และกฎหมายระบุอายุที่เด็กสามารถทำงานได้เมื่ออายุ 15 ปี มีข้อยกเว้นบางประการ เช่น การส่งหนังสือพิมพ์ หรือการทำงานในวงการบันเทิง เพราะมีการถ่ายทำภาพยนต์และละครที่ต้องใช้เด็ก”
เด็กที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ไม่สามารถทำงานเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 12 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ ในช่วงเปิดเทอม
ในระหว่างปิดเทอม สามารถทำงานได้ 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ศจ. เกอร์เบอร์อธิบายว่า กฎหมายระบุอายุที่สามารถแต่งงานได้ในออสเตรเลียคือ 18 ปี
เรามีกฎหมายที่เข้มงวดมากในเรื่องการแต่งงานของเด็กในออสเตรเลีย หากเด็กถูกบังคับให้แต่งงานหรือการจัดการให้แต่งงาน มีโทษทางอาญาสูงสุดถึง 9 ปี นั่นคือโทษของการจำคุก และหากเด็กถูกพาออกนอกประเทศเพื่อจุดประสงค์ในการแต่งงาน มีโทษจำคุกสูงถึง 25 ปี
งานแต่งงานริมทะเล Source: Pexels/Lukas
แพทย์หญิงเฟท กอร์ดอน (Dr Faith Gordon) รองศาสตราจารย์และรองคณบดีการวิจัยจากวิทยาลัยนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) กล่าวว่า ออสเตรเลียได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็กในปี 1990 แต่กฎหมายนั้นแตกต่างไป
“น่าเสียดายที่ขอบเขตของกฎหมายภายในประเทศไม่อ้างอิงอนุสัญญา เนื่องจากมันเป็นระบบของรัฐบาลกลาง รัฐบาลในแต่ละรัฐและมณฑลมีกฎหมายที่แตกต่างไปในเรื่องของการคุ้มครองเด็กและความยุติธรรมต่อเยาวชน ดังนั้นมันหมายความว่าสิ่งที่เรามีเปรียบเสมือนการปะติดปะต่อกันของกฎหมายและขอบเขตทางกฎหมาย บางสิ่งอาจนำมาใช้กับเด็กหรือเยาวชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่อาจไม่ใช้กับรัฐวิกตอเรีย เป็นต้น”
ศจ.เกอร์เบอร์กล่าวว่า ออสเตรเลียควรมีกฎหมายที่กำหนดสิทธิเด็กที่ชัดเจนและความคุ้มครองที่พวกเขาควรได้รับ
ในออสเตรเลีย เด็กที่อายุเพียง 10 ปีอาจถูกจับกุม ตั้งข้อหา ขึ้นศาลและจำคุก
ศจ. กอร์ดอนกล่าวว่า อายุขั้นต่ำของอาชญากรในออสเตรเลียนั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
การวิจัยล่าสุดชี้ว่า สมองของเด็กและวัยรุ่นจะยังคงพัฒนาจนถึงอายุ 25 ปี การตั้งข้อหาทางอาญากับเด็กอายุ 10 ขวบนั้นไม่เหมาะสม และองค์การสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ออสเตรเลียเพิ่มอายุเป็นอย่างน้อย 14 ปี มีนักเคลื่อนไหว ทนาย และภาคประชาสังคมมากมายในประเทศที่ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้
ศจ. เกอร์เบอร์กล่าวว่า ปัญหาใหญ่อีกประการหนึ่งคือ การแสดงออกมากเกินไปถึงเยาวชนชาวอะบอริจินในระบบความยุติธรรมของเยาวชนและการกักขังเด็ก
“อัตราการกักขังชนพื้นเมืองนั้นมากมายมหาศาล วัยรุ่นที่เป็นชาวพื้นเมืองซึ่งมีอายุระหว่าง 10 – 17 ปี นับเป็น 6% ของประชากรทั้งหมด แต่หากคุณดูที่ศูนย์กักกันเยาวชน พวกเขานับเป็น 56% ของทั้งหมด” ศจ. เกอร์เบอร์กล่าวว่า โปรแกรมหันเหพฤติกรรมขึ้นศาลนั้นเป็นไปด้วยดี แต่ยังต้องการทรัพยากร และศจ. กอร์ดอนเห็นว่าควรมีการสนับสนุนและทรัพยากรมากขึ้น
เด็กๆ ชนพื้นเมืองยืนถือธงของชาวอะบอริจิน Source: Getty Images/Don Arnold
เด็กหลายคนในกระบวนการยุติธรรมนั้นล้วนเป็นเหยื่อ แต่พวกเขาไม่ได้รับกลไกการสนับสนุนที่เพียงพอจากชุมชน ไม่มีทรัพยากรและความช่วยเหลือในชุมชนที่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แทนที่จะให้เยาวชนถูกรวบรวมและจัดอยู่ในระบบยุติธรรม ซึ่งทำให้หลายประเด็นรุนแรงขึ้น
ศจ. กอร์ดอนกล่าวว่า ศูนย์กฎหมายชุมชนให้ความช่วยเหลือที่สำคัญแก่บางราย
“มีศูนย์กฎหมายชุมชนที่ให้บริการด้านคำแนะนำทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับรายได้ของคุณด้วย ยังมีศูนย์กฎหมายของชาวอะบอริจินด้วย ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือผู้คนทราบว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากที่ใด และมีระบบช่วยเหลือทางกฎหมายในออสเตรเลีย ที่ประชาชนสามารถยื่นขอรับเงินคืนแบบเต็มจำนวนได้ตลอด ในระบบยุติธรรม”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่