Key Points
- ในออสเตรเลียคุณสามารถขอขึ้นเงินเดือนได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่คุณเชื่อว่าคุณสมควรได้รับ
- คุณสามารถขอให้สหภาพแรงงานหรือเพื่อนที่ทำงานช่วยเตรียมคำขอขึ้นเงินเดือนของคุณ
- การเตรียมตัวที่ดี เช่น การขอคำแนะนำ เตรียมข้อมูล วางแผนการเจาจา เป็นสิ่งสำคัญ
กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
โดยทั่วไปแล้วสัญญาจ้างงานจะระบุลำดับเวลาในการขึ้นเงินเดือน นับเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนผลงานประจำปี อย่างไรก็ตามกฎเรื่องการขึ้นเงินเดือนจะแตกต่างไปตามสถานที่ทำงาน
พนักงานสามารถเจรจาขอขึ้นเงินเดือนได้ตลอดเวลา
คุณซูซาน ยัง (Suzanne Young) ศาสตราจารย์ด้านการจัดการจากมหาวิทยาลัย ลา โทรบ (La Trobe University) อธิบายว่าช่วงเวลาใดถือว่าดีที่สุดในการพูดคุยกับเจ้านายของคุณ
“ฉันแนะนำว่าควรทำก่อนสิ้นปีการเงิน ซึ่งปกติสิ้นสุดภายในวันที่ 30 มิถุนายน นั่นเป็นเวลากำหนดงบประมาณและการเงินของปีหน้า ดังนั้นประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมเป็นเวลาที่คุณสามารถขอพูดคุยเพื่อหารือเรื่องการขึ้นเงินเดือน เพื่อให้รวมอยู่ในงบประมาณของปีถัดไป”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
#32 การต่อรองเงินเดือน | ความช่วยเหลือเรื่องกฎหมายฟรีในออสเตรเลีย
สัญญาจ้างมักมีรายละเอียดการขึ้นเงินเดือนและลำดับเวลา Credit: djgunner/Getty Images
สถานที่ทำงานในออสเตรเลียส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ระบบ แฟร์ เวิร์ก (Fair Work System) กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานระดับประเทศ รวมถึงอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนดเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมและสาขาอาชีพ
พนักงานมีสิทธิได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามที่คณะกรรมการแฟร์เวิร์ก (Fair Work Commission) ตัดสิน จากการเจรจาของสหภาพแรงงาน
สถานที่ทำงานที่มีข้อตกลงขององค์กร (Enterprise agreement) ยังมีระเบียบการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำขององค์กรตามกฎหมายด้วย ข้อตกลงนี้เป็นการเจรจาระหว่างตัวแทนของพนักงานและนายจ้าง
ศาสตราจารย์ยังกล่าวว่า ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบว่าคุณได้รับการคุ้มครองเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำตามสายอาชีพหรือข้อตกลงขององค์กรหรือไม่
และคุณสามารถเจรจาขอขึ้นค่าแรงเพิ่มจากอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่คุณได้รับอยู่ได้เสมอ
“คุณสามารถเจรจาขอขึ้นค่าแรงที่สูงกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำเฉพาะสาขาอาชีพของคุณ สูงกว่าที่ระบุไว้เดิมในสัญญาว่าจ้าง สูงกว่าข้อตกลงขององค์กร หรือขอเจรจาเปลี่ยนการจัดประเภทการทำงาน หากคุณรู้สึกว่ากำลังทำงานมากกว่าที่ระบุไว้ในหน้าที่การทำงาน สิ่งนี้อาจทำให้ได้รับการขึ้นเงินเดือนได้”
คุณคาเรน เกทลีย์ (Karen Gately) ผู้เชี่ยวชาญด้านฝ่ายบุคคลกล่าวว่าหลายคนรู้สึกไม่สบายใจที่จะขอขึ้นเงินเดือนหรือขอเลื่อนตำแหน่ง
พนักงานที่มีภูมิหลังจากวัฒนธรรมที่แตกต่างไปอาจมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องไม่สุภาพและก้าวล่วงอำนาจของบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งอาวุโสกว่า
แต่สิ่งสำคัญคือ หากคุณเชื่อว่าการขึ้นเงินเดือนเป็นเรื่องจำเป็น เป็นสิ่งถูกต้อง หรือเป็นสิ่งที่ควรได้รับ คุณควรพูดเรื่องนี้
“นายจ้างบางคนไม่ต้องการให้เงินเพิ่มและจะปฏิเสธ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคำขอเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล หากคุณรู้สึกว่าคุณควรได้รับเงินเดือนเพิ่มจากการทำงานของคุณ นั่นเป็นเรื่องที่ควรจะขอ นายจ้างส่วนใหญ่จะตกลง นายจ้างบางคนอาจไม่ตกลง"
แต่การทราบถึงวัฒนธรรมการทำงานในออสเตรเลียเรื่องนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่คุณขอเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
บางสถานที่ทำงานอาจไม่มีความโปร่งใสเรื่องเงินเดือน ซึ่งอาจเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำกับพนักงาน Credit: Klaus Vedfelt/Getty Images
แต่มักจะมีวัฒนธรรมเรื่องความลับของเงินเดือนภายในสำนักงาน ซึ่งมักกระทบกับพนักงานที่มีอายุน้อย พนักงานเพศหญิงและชนกลุ่มน้อย
“คุณอาจพบความเหลื่อมล้ำและความไม่โปร่งใสเรื่องเงินเดือน ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือควรพูดคุยกับกลุ่มคนที่คุณรู้สึกสบายใจด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่คุณทำได้คือหากมีสหภาพแรงงานสาขาอาชีพของคุณ คุณสามารถถามพวกเขาได้เช่นกัน เพราะพวกเขาจะทราบเรื่องค่าแรงในสถานที่ทำงานของอาชีพคุณ”
คุณมิเชล โอนีล (Michele O’Neil) ประธานสหภาพแรงงานแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า ตัวแทนจากสหภาพแรงงานสามารถช่วยในการให้ข้อมูลเรื่องเงินเดือนพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งที่เทียบเคียงกับคุณได้ ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการต่อรองการขอขึ้นเงินเดือน
และอาจเป็นเจรจาที่ดีกว่า หากทำในฐานะสมาชิกสหภาพแรงงานหรือเจรจาร่วมกับคนงานอื่นๆ
หากที่ทำงานของคุณไม่มีการตกลงมาก่อน การเจรจาร่วมกับคนงานคนอื่นๆ ในสหภาพนับเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการขอขึ้นค่าจ้าง
"มักจะเป็นเรื่องยากกว่าหากเจรจาแต่เพียงผู้เดียว จากหลักฐานแสดงให้เห็นว่าสมาชิกสหภาพแรงงานในออสเตรเลียจะได้รับเงินมากกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพแรงงานโดยเฉลี่ย $312 ต่อสัปดาห์”
ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบว่าคุณได้รับการคุ้มครองตามอัตราค่าจ้างเฉพาะสาขาอาชีพหรือตามข้อตกลงขององค์กรหรือไม่ Credit: AnVr/Getty Images
“การเตรียมตัวให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ และสหภาพแรงงานสามารถช่วยคุณเตรียมตัวได้ ลองคิดถึงแง่มุมในการเจรจา ตัวอย่างเช่น คุณได้รับการขึ้นเงินเดือนครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? งานของคุณเปลี่ยนไปอย่างไร? คุณมีความรับผิดชอบมากขึ้นหรือไม่? คุณทำงานหลายชั่วโมงมากขึ้น งานหนักขึ้น หรือคุณมีทักษะอะไรใหม่ๆ หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานเพื่อขอขึ้นเงินเดือน หากคุณกำลังจะเจรจาในนามของคุณเอง ศาสตราจารย์ยังแนะนำให้เน้นที่คุณประโยชน์ของคุณ
ควรจะเน้นไปที่การพูดถึงงานที่ประสบความสำเร็จของคุณ เพื่อเป็นหลักฐาน
"คุณสามารถแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้นได้หรือไม่? คุณสามารถทำเงินหรือลูกค้าใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่?”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
'แฟร์เวิร์ก' ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย 5.75% แต่จะพอหรือไม่
พนักงานและพนักงานที่กำลังจะเริ่มทำงานมีสิทธิที่จะบอกหรือไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องเงินเดือนของพวกเขา Credit: goc/Getty Images
แต่ไม่จำเป็นต้องคิดมากเกินไปกับเรื่องนี้
“การพูดคุยมักเป็นแบบตัวต่อตัว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับบุคคลที่คุณจะพูดคุยด้วย หากผู้จัดการของคุณทำงานในสำนักงานเป็นประจำ คุณอาจเคาะประตูและถามว่าตอนนี้สะดวกที่จะคุยด้วยไหม? การขอนัดหมายเพื่อพูดคุยอาจเหมาะกว่า และฉันคิดว่าการไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นปัญหาในใจของคุณจะช่วยได้จริงๆ”
ศาสตราจารย์ยังกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือควรรักษาทัศนคติให้เป็นมืออาชีพเมื่อคุณยื่นเรื่องขอขึ้นเงินเดือน
สิ่งสำคัญคืออย่าใช้อารมณ์ และใช้หลักฐานเพื่อสนับสนุนคำขอของคุณ
"แทนที่จะพูดว่า ‘ฉันทำงานหนักนะ หรือค่าครองชีพสูงนะ’ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณมีหลักฐานและเสนอหลักฐานนั้นในลักษณะจริงจัง เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณทำงานได้ดีและทำงานหนักเพื่อองค์กร”
Pay rise conversations happen always take place in one-one chats. Credit: kate_sept2004/Getty Images
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
‘แฟร์เวิร์ก’ ปกป้องลูกจ้างแจ้งถูกเอาเปรียบ ไม่ต้องกลัวถูกถอนวีซ่า
