คุณ พงษ์พีระ เธียไพรัตน์ หรือ คุณพง คนไทยที่เป็นครูวิชาชีพในรัฐนิวเซาท์เวลส์มา 4 ปี เปิดเผยเส้นทางการเป็นครูที่ออสเตรเลียว่าเขามีความสนใจในอาชีพนี้ป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อย้ายมาออสเตรเลียก็ศึกษาว่ามีทักษะแรงงานประเภทใดที่เขาจะสามารถสมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของออสเตรเลียได้บ้างและอาชีพครูก็เป็นหนึ่งในสาขาอาชีพนั้น
“ผมอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ เมื่อได้มาที่ออสเตรเลียก็ดูว่ามันมีอาชีพไหนที่เป็น PR ได้ แล้วมันก็มีอาชีพที่เราอยากเป็นอยู่แล้ว ก็เลยลองสมัครเรียนดู”
คุณพงเปิดเผยว่าหากคุณจบปริญญาตรีสาขาใดมาแล้วก็ได้ก็สามารถมาเรียนต่อปริญญาโท สาขาการสอนเพื่อที่จะมาเป็นครูในออสเตรเลียได้ อย่างไรก็ตามคุณจะต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนตามที่มหาวิทยาลัยต้องการแล้วจึงสมัครเรียนได้ เขาแบ่งปันประสบการณ์ว่า
“ผมมี ป.ตรีจากเมืองไทยมาแล้ว ผมจบรัฐศาสตร์ เค้าบอกว่าเรียนจบสาขาอะไรมาก็ได้แล้วเรียนต่อ Master ได้เลย ใช้เวลาเรียนแค่ 2ปี ถ้าไม่ใช่คนที่เกิดที่นี่หรือมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ต้องสอบไอเอลส์ (IELTS) หรือสอบ(วัดระดับภาษา) ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ยอมรับ สำหรับไอเอลส์ก็จะเป็นแบบ Academic ให้ได้ overall 7.5 เป็นอย่างน้อย ด้าน speaking, listening ต้องได้ 8 ส่วน reading writing ต้องได้ 7 ขึ้นไป”
“เมื่อสอบผ่าน คุณสมบัติผ่าน ก็มีการสอบจิตวิทยาการเป็นครูซึ่งไม่มีผิดไม่มีถูกแต่จะดูว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นครูไหม ถ้าผ่านก็เข้ารียนต่อได้”
สาขาอาชีพครูเป็นหนึ่งในวีซ่าทักษะแรงงานที่เป็นที่ต้องการของออสเตรเลีย Source: Getty / Getty Images
คุณพงเล่าว่าการเรียนครูในออสเตรเลียยากมากเพราะต้องเรียนไปฝึกงานไปตลอดระยะเวลาการศึกษา 2 ปีเต็ม
“การเรียนการสอนมันก็ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยด้วย แต่ของผมคือหนักมาก เข้าไป 2 อาทิตย์แรกคือสอบสอนเลย แล้วทุกคนก็งงว่าคือยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการสอนเลยก็สอบสอนแล้ว แล้วก็มีไปฝึกงานตามโรงเรียนต่างๆ ทุกเทอมจนกระทั่งเทอมสุดท้าย”
คุณพงเปิดเผยว่าการสอบ (Literacy Numeracy Test for Initial Teacher Education Students) ซึ่งเป็นการสอบวัดทักษะความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษที่นักศึกษาวิชาชีพครูในออสเตรเลียต้องสอบให้ผ่านก่อนจบการศึกษาเป็นอีกหนึ่งด่านสำคัญ คุณจะมีโอกาสสอบซ่อมได้ทั้งหมด 3 ครั้งและถ้าไม่ผ่านคุณจะไม่สามารถเรียนต่อจนจบการศึกษาได้
ทุกคนต้องสอบ (LANTITE) ข้อสอบเทียบเท่ากับข้อสอบเด็ก ม.3 ที่นี่ ก็จะมีการคิดเปอร์เซนต์ อ่านแผนที่ คำนวนต่างๆ ส่วนภาษาอังกฤษก็จะมีให้เราอ่านงานเด็กแล้วคอมเมนท์ว่าควรแก้ตรงไหน มีตรงไหนผิด ถ้าสอบไม่ผ่านเขาก็ไม่ให้จบเลย ใน 1ปีสอบได้ 4 ครั้ง ถ้าครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาไม่ผ่านคือไม่ได้เรียนต่อ
ขั้นตอนเมื่อจบการศึกษาแล้วคือการขึ้นทะเบียนเป็นครูวิชาชีพกับองค์กรที่กำกับดูแลครูของรัฐนั้นๆ และเมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จก็สมัครงานและสอนได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกฎของรัฐนั้นๆ ด้วย
“อย่างวิกตอเรีย(เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จ)ก็สอนได้เลย แต่ของนิวเซาท์เวลส์ขึ้นทะเบียนเสร็จ ถ้าจะสอนโรงเรียนรัฐบาลต้องไปสัมภาษณ์กับกระทรวงอีกรอบหนึ่ง เพื่อให้เขาคัดกรองอีกรอบ”
คุณพง เปิดเผยว่า หากคุณต้องการย้ายรัฐก็สามารถเทียบโอนคุณวุฒิได้ แต่อาจจะต้องทำการสมัครใบประกอบวิชาชีพของรัฐนั้นๆ ใหม่อีกครั้ง
“ผมย้ายจากวิกตอเรียมานิวเซาท์เวลส์ คือเค้าจะให้ยื่นเอกสารเหมือนที่เรา register ใหม่ ยื่นผลการเรียน police check ของทุกประเทศที่เราเคยไปอยู่มา มี recommendation ว่าเราทำงานที่ไหนมาบ้าง ก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าที่เค้าจะ approve transition ตรงนี้เสร็จ”
คุณพง ชี้ว่าการจบครูที่ไทยและมีประสบการณ์การเป็นครูมาแล้วสามารถยื่นเอกสารเพื่อมาสอนที่ออสเตรเลียได้ แต่หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาขององค์กรครูในแต่ละรัฐ
ในทางทฤษฏีคือคุณสามารถย้ายมาสอนที่นี่ได้ คือ ที่ วิกตอเรียเค้าก็รับครูต่างชาติอยู่แล้ว เค้าให้เรายื่นเทียบวุฒิจากประเทศไทยมาได้ ว่าเราจบครูมา มีชั่วโมงการฝึกสอนตามที่เค้าต้องการหรือเปล่า แต่มันก็ขึ้นกับว่าเค้าจะรับที่เรายื่นไหม
ส่วนความแตกต่างระหว่างการเป็นครูที่ไทยและออสเตรเลียนั้นอาจมีความแตกต่างกันในแง่ของหลักสูตรและหน้าที่หลักของครู ซึ่งคุณพง เล่าว่าออสเตรเลียนั้นจะเน้นหนักไปในเรื่องของผลลัพธ์ทางการศึกษา การประเมินผล และรายงานผลเป็นหลัก แต่ข้อดีคือครูคือมีหน้าที่สอนอย่างเดียวไม่ต้องทำเอกสารอย่างอื่น
“ผมเองไม่เคยเป็นครูที่ไทย แต่มีเพื่อนหลายคนเป็นครูอยู่ ก็คิดว่าในเรื่องการสอนคงไม่แตกต่างกันนักแต่ที่ไม่เหมือนกันน่าจะเป็นเรื่องหลักสูตร learning outcomes ต่างๆ การทำ assessment ตลอดเวลาว่าเด็กเรียนรู้ที่เราสอนไปไหม เราต้องทำอะไรต่อ การบันทึกผลการสอน report ตลอดกับที่บ้านเด็ก แล้วที่ต่างกันอีกอย่างหนึ่งคือครูที่ไทยต้องทำ admin ด้วย ซึ่งที่นี่หน้าที่ครูคือสอนอย่างเดียว”
การจบวุฒิครูที่ไทยและมีประสบการณ์การเป็นครูมาแล้วสามารถยื่นเอกสารเพื่อมาสอนที่ออสเตรเลียได้ แต่หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาขององค์กรครูในแต่ละรัฐ Source: AAP
การขาดแคลนครูในประเทศออสเตรเลียมีปัจจัยหลายประการไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีหน้ารับผิดชอบในเรื่องการสอนที่หนัก เวลาวางแผนการสอนไม่พอ ค่าตอบแทนที่ยังเป็นที่ไม่น่าพอใจ คุณพงให้ความเห็นว่ารัฐบาลต้องเห็นความสำคัญของอาชีพนี้และการให้ค่าตอบแทนต้องสมน้ำสมเนื้อกับปริมาณงานและหน้าที่รับผิดชอบ
“น่าจะเป็นเพราะการที่ครูลาออกเยอะเพราะความเครียด ใน 3 ปีที่ผ่านมาครูลาออกเกือบ 50 เปอร์เซนต์ ต้องมีการลดชั่วโมงทำงาน ให้ PD planning time APT เพิ่ม คนชอบมองว่าเรามีวันหยุดเยอะ แต่มันไม่พอกับการทำ planning ที่ต้องอัปเดตตลอดเวลา ทำ report ก็ไม่เสร็จสักทีอยากได้เวลาเพิ่ม”
“ค่าตอบแทนต้องเพิ่ม เพราะมันเพิ่มไม่เท่ากับเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ อย่างค่าเช่าบ้าน บางทีเพิ่มเกือบร้อยเปอร์เซนต์ แต่เงินเดือนขึ้น 3-5 เปอร์เซนต์ มันไม่ไหว”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
หลักสูตรช่วยเหลือผู้อพยพที่มีวุฒิครูให้ทำงานได้ในออสเตรเลีย
เรื่องที่น่าสนใจ
คนไทยต้องดิ้นรนแค่ไหนในวิกฤตเศรษฐกิจออสเตรเลีย