กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
Private nanny: งานดีที่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิ
SBS Thai
07/07/202217:24
คุณ ธัญญา ยันต์พิเศษผู้ที่คลุกคลีกับสายงานเลี้ยงเด็กมากว่า 10 ปีเปิดเผยกับ เอสบีเอสไทยว่าหลังจากเธอเรียนจบ Diploma of Children Service หรือ ปัจจุบันเรียกว่า Diploma of Early Childhood Education เธอเคยทำงานใน สถานเลี้ยงเด็ก (Childcare centre) เป็นเวลา 7ปี แต่เธอตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวเพราะมีครอบครัวมาชวนและเธอเห็นว่าได้ดูแลเด็กจำนวนน้อยลงและสามารถเลือกทำงานในวันที่เราต้องการได้เธอจึงเลือกเปลี่ยนสายงาน และตอนนี้เธอก็ทำงานนี้มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว
หน้าที่ของ Private nanny ต้องทำอะไรบ้าง
คุณธัญญา อธิบายว่าหน้าที่หลักของอาชีพนี้คือการดูแลเด็กและทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กแต่รายละเอียดว่าเราต้องทำอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับการตกลงกับครอบครัว ซึ่งหน้าที่ที่เราทำก็ควรที่จะต้องสอดคล้องกับรายได้ที่เราได้รับ
“ส่วนตัวธัญญาจะดูแลในส่วนที่เกี่ยวกับเด็กเท่านั้น อาจจะทำความสะอาดหลังจากเด็กทานข้าวหรือทำกิจกรรมเสร็จแต่จะไม่ทำความสะอาดบ้าน ถ้าครอบครัวไหนอยากให้เราทำความสะอาดบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วยก็ต้องตกลงค่าจ้างกับครอบครัวให้เหมาะสม”
ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ได้รับ
คุณธัญญาเปิดเผยว่าการทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวนี้มีรายได้ค่อนข้างใช้ได้ โดยที่คนที่ไม่มีประสบการณ์ก็ทำได้
“รายได้เริ่มต้นสำหรับคนที่ไม่เคยทำงานนี้มาก่อนส่วนมากจะเริ่มต้นที่ 27 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ส่วนสวัสดิการอื่นๆ เช่น Superannuation หรือ เงินชดเชยเมื่อป่วย (sick leave) จะขึ้นอยู่กับการตกลงกับครอบครัวนั้นๆ ส่วนใหญ่ครอบครัวจะต้องการให้เรามี ABN เพื่อที่จะได้สะดวกในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เราใช้ในระหว่างพาเด็กออกไปทำกิจกรรมข้างนอก”
ประสบการณ์และวุฒิการศึกษาจำเป็นไหม
คุณธัญญาชี้ว่างานพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้องหรือเคยมีประสบการณ์ทำงานในสถานเลี้ยงเด็ก (Childcare Centre) หรือเคยทำงานเกี่ยวกับเด็กมาก่อนก็ได้แต่ต้องมีเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครงาน
“จริงๆ แล้วงานนี้ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิหรือมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาก่อน บางคนเคยทำงานอย่างอื่นก็มาสมัครได้ แต่ต้องใช้เอกสารสำคัญในการสมัครเช่น ใบขับขี่ Working with children check First Aid และ Police Check ซึ่งครอบครัวจะขอดูก่อนการจ้างงาน”
ระดับภาษาอังกฤษสำคัญแค่ไหนในการทำงาน
คุณธัญญา เปิดเผยว่าระดับภาษาอังกฤษจำเป็นพอสมควร ต้องสามารถพูดคุยสื่อสารในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเด็กและสามารถจัดกิจกรรมหรือทำให้เด็กสนุกสนานได้ แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระดับเหมือนเจ้าของภาษา
“สายงานนี้มีคนจากหลากหลายเชื้อชาติมาทำ ซึ่งระดับภาษาก็ไม่จำเป็นต้องเป๊ะแต่อยู่ในระดับที่สื่อสารกับครอบครัวและ Entertain เด็กได้ และจริงๆเราสามารถใช้การที่เราพูดได้หลายภาษามาเป็นจุดเด่นของเราในการสอนเพลงหรือสอนภาษาไทยให้เด็กได้ด้วย”
ข้อดีข้อเสียของงานนี้
คุณธัญญาชี้ว่างานดีมีข้อดีคือเป็นงานที่ดูแลเด็กจำนวนน้อยและเป็นงานที่มีตลาดรองรับตลอด ส่วนข้อเสียคือความไม่สะดวกในการลางานเป็นระยะเวลานานๆ หรือ การที่ได้ครอบครัวที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา
“งานนี้เราดูแลเด็กน้อยทำให้มีความใกล้ชิดกับเด็กและครอบครัวและเป็นงานที่หางานได้เรื่อยๆ ส่วนข้อเสียคือ ถ้าเราอยากไปพักผ่อนเป็นระยะเวลานานครอบครัวก็ต้องหาทางหาคนมาทำงานแทนเรา หรือถ้าเราได้ครอบครัวที่คุยกันแล้วไม่เข้าใจก็ทำให้การเกิดความลำบากในการทำงาน”
การหางานนี้ทำอย่างไร
คุณธัญญาอธิบายว่ามี 2 ช่องทางหลักๆ ที่สามารถหางานพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวได้คือ
1 หางานผ่านเอเจนซี (Agency) ซึ่งจะดูแลในเรื่องการสมัครงานและสัญญาต่างๆ
2 หางานผ่าน Social media เช่น Facebook
“การหางานผ่านเอเจนซี เราไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแต่ต้องมีเอกสารที่เขาต้องการ แต่การหางานในเฟสบุ๊กก็มีหลายกลุ่มมาก เช่นในเมลเบิร์นก็จะมีกลุ่ม Babysitter Melbourne” ที่เราสามารถไปโพสต์ว่าเราว่างวันไหน มีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง ซึ่งก็จะมีครอบครัวติดต่อมาหาเรา”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่