จากการสืบสวนของ ชอยซ์ (Choice) หน่วยงานสนับสนุนผู้บริโภคไม่แสวงผลกำไร ระบุว่า ห้างเคมาร์ท (Kmart) บันนิงส์ (Bunnings) และเดอะกู๊ดกายส์ (The Good Guys) กำลังใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า โดยบ่อยครั้งผู้มาจับจ่ายซื้อของไม่รู้
หน่วยงานดังกล่าวได้สอบถามห้างค้าปลีกรายใหญ่ในออสเตรเลีย 25 แห่งว่าพวกเขาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะวิเคราะห์ภาพจากกล้องวิดีโอเพื่อระบุลักษณะจำเพาะบนใบหน้าของแต่ละบุคคล หรือที่รู้จักกันว่า “เฟซปรินท์ (Faceprint)”
ชอยซ์ ยังได้วิเคราะห์นโยบายความเป็นส่วนตัวของห้างค้าปลีกต่าง ๆ และอ้างว่าห้างเคมาร์ท (Kmart) บันนิงส์ (Bunnings) และเดอะกู๊ดกายส์ (The Good Guys) คือผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในออสเตรเลียเพียง 3 แห่งที่เก็บข้อมูลชีวภาพจากลูกค้าที่มาจับจ่าย
ในแถลงการณ์ถึงเอสบีเอส นิวส์ ไซมอน แม็กโดเวลล์ (Simon McDowell) ห้วหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของห้างบันนิงส์ กล่าวว่า เทคโนโลยีดังกล่าวถูกใช้เพียงอย่างเดียว “เพื่อทำให้ทีมงานและลูกค้าปลอดภัย และป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายภายในห้างของเรา”
ในส่วนหนึ่งของการสืบสวน พนักงานของชอยซ์ได้เดินทางไปที่ห้างจำนวนหนึ่ง และระบุว่ามีบางแห่งที่แสดงป้ายบริเวณทางเข้าซึ่งเปิดเผยว่ามีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เช่น ป้ายบริเวณทางเข้าของห้างเคมาร์ท ซึ่งระบุว่า “ห้างนี้มีกล้องวงจรปิดครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีจดจำใบหน้า”
แต่ เคท โบเวอร์ (Kate Bower) ผู้สนับสนุนด้านข้อมูลผู้บริโภคจากชอยซ์ กล่าวว่า ป้ายเหล่านี้มีขนาดเล็ก ไม่เป็นที่สังเกต ซึ่งผู้มาจับจ่ายส่วนมากจะพลาดไป
การสืบสวนของชอยซ์ยังระบุอีกว่า “การเก็บข้อมูลชีวภาพในลักษณะนี้อาจเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายความเป็นส่วนตัว (Privacy Act)”
ชาวออสเตรเลียรู้สึกสบายใจกับเรื่องนี้ไหม
การศึกษาวิจัยของชอยซ์ เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มสนับสนุนได้จัดทำแบบสำรวจผู้คนมากกว่า 1,000 คน เพื่อวัดว่าผู้จับจ่ายในออสเตรเลียเข้าใจแนวคิดและความแพร่หลายของเทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้ดีเพียงใด เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา
“ผลลัพธ์ชี้ว่าผู้คนส่วนมากอยู่ในความมืด มากกว่า 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาไม่รู้ว่าห้างค้าปลีกต่าง ๆ กำลังใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า” รายงานของชอยซ์ ระบุ
“การขาดความตระหนักรู้ไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะไม่มีความกังวล ... และ 78% (ของผู้ตอบแบบสอบถาม) แสดงความกังวลเกี่ยวกับที่เก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยของข้อมูลพิมพ์ใบหน้า”
“และเกือบ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม (65%) กังวลว่าห้างที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในกำลังสร้างประวัติโดยรวมของลูกค้าซึ่งอาจเป็นอันตราย”
จากรายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามนี้บางส่วนได้อธิบายถึงเทคโนโลยีนี้ว่า “น่าขนลุกและรุกล้ำ” ขณะที่คนอื่น ๆ ระบุว่า “ไม่จำเป็นและอันตราย” และไม่ต้องการที่จะเข้าไปในห้างที่ใช้เทคโนโลยีนี้
แล้วทำไมต้องใช้เทคโนโลยีนี้
คุณแม็กโดเวลล์ จากห้างบันนิงส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ห้างบันนิงส์รู้สึกว่าการอธิบายลักษณะของเทคโนโลยีดังกล่าวของชอยซ์นั้น “คลาดเคลื่อน”
เขาเสริมว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้พบเห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนปฏิสัมพันธ์ที่ท้าทายซึ่งทีมของเราต้องรับมือภายในห้าง และเทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเราป้องกันการข่มเหงที่เกิดขึ้นซ้ำ และพฤติกรรมข่มขู่ต่อพนักงานและลูกค้าของเรา” คุณแม็กโดเวลล์ ระบุในแถลงการณ์
“มีการควบคุมที่รัดกุมในส่วนของการใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งจะสามารถเข้าถึงได้โดยทีมที่ได้รับการฝึกเป็นพิเศษ เทคโนโลยีนี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการตลาด การติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค และภาพของเด็ก ๆ นั้นไม่เคยได้รับการบันทึกทะเบียนลงในระบบ”
เอสบีเอส นิวส์ ยังได้ติดต่อไปยังห้างเคมาร์ท และเดอะกู๊ดกายส์ เพื่อสอบถามความเห็นต่อเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ผู้ว่าแบงก์ชาติออสฯ ชี้ความเสี่ยงต่ำ ศก.ถดถอย เตือนดอกเบี้ยขึ้นอีก