สิ่งที่ควรรู้ในการจัดงานฌาปนกิจที่ออสเตรเลีย

Close up of coffin

รูปโลงศพ Source: Getty Images/Kris Loertscher/EyeEm

การเป็นผู้อพยพมักต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและไม่คาดฝัน หนึ่งในเรื่องของความไม่แน่นอนคือเมื่อต้องสูญเสียเพื่อนหรือคนรัก เอสบีเอสไทยมีรายละเอียดว่าการจัดงานฌาปนกิจในออสเตรเลียต้องทำอย่างไรบ้าง


กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
what-you-need-know-when-organising-funeral-australia image

สิ่งที่ควรรู้ในการจัดงานฌาปนกิจที่ออสเตรเลีย

SBS Thai

27/06/202212:57
ผู้อพยพใหม่อาจต้องเผชิญสถานการณ์ของการสูญเสียคนที่รักแบบไม่ทันตั้งตัว

เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น สมาชิกในครอบครัวมักจะตกใจ เศร้าโศก และไม่ทราบว่าต้องทำอะไรต่อไป สำหรับหลายท่านอาจไม่มีประสบการณ์มาก่อน

คุณแมททิว คูริอะโคส (Mathew Kuriakose) กล่าวว่า เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวของเขาเสียชีวิตเมื่อไม่กี่ปีก่อน พวกเขาไม่ทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง

“มีคนเสียชีวิตในครอบครัวของพี่เขยผม ลูกชายของเขาเสียชีวิตหลังคลอด 3 วัน เพราะหัวใจผิดปกติ เราไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง"
Culture
การทำพิธีของศาสนาคริสต์ Source: Getty Images/RubberBall Productions
การจัดงานฌาปนกิจในออสเตรเลียนั้นค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยที่อินเดีย ที่ที่ครอบครัวของคุณคูริอะโคสจากมา

เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือติดต่อผู้จัดงานฌาปนกิจ คุณสก็อตต์ ดันคอมบ์ (Scott Duncombe) ผู้อำนวยการของซิดนีย์ ฟิวเนอรัลส์ โค (Sydney Funerals Co.)  กล่าว

“เมื่อมีคนเสียชีวิต สมาชิกในครอบครัวมักจะตกใจ เศร้าโศก และสับสนว่าต้องทำอะไร เพราะไม่บ่อยนักที่จะต้องจัดงานศพ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง สิ่งสำคัญที่สุดคือติดต่อผู้จัดงานศพ (Funeral Director) เพราะพวกเขามีความรู้ เข้าใจทุกคนและกระบวนการที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการศพในออสเตรเลียหรือส่งไปต่างประเทศ”

สิ่งสำคัญคืออย่ารีบร้อน เพราะนี่เป็นเวลาของความไม่แน่นอนและท้าทาย คุณดันคอมบ์กล่าว

“การให้เวลาต่อสมาชิกครอบครัวเพื่อตั้งสตินั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อมีคนเสียชีวิต เพราะบ่อยครั้งที่พวกเขาจะเครียด เศร้าใจ และตกใจ พวกเขาจะยังไม่สามารถตัดสินใจได้ทันที หลายครั้งที่เราต้องดูแลคนที่เรารักก่อน และจะนัดเจอพวกเขาอีกสองสามวันถัดมา จากนั้นงานศพจะถูกจัดขึ้น 5-10 วัน หลังจากที่มีการเสียชีวิต”
ผู้จัดงานฌาปนกิจจะดูแลเรื่องเอกสารทั้งหมดในการจัดงานศพ พวกเขาทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานทะเบียนราษฏร์ (Births, Deaths and Marriages Registry) และสามารถช่วยในการจดมรณบัตร

คุณอามิต ปาเดียร์ (Amit Padhiar) รักษาการณ์นายทะเบียนที่สำนักทะเบียนราษฏร์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อธิบาย

“หน้าที่ของสำนักทะเบียนราษฏร์ทั่วประเทศที่เกี่ยวกับการเสียชีวิต ประการแรกคือให้แน่ใจว่าเราจดทะเบียนการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในรัฐหรือมณฑลของเรา ขั้นตอนนี้มักทำผ่านผู้จัดงานฌาปนกิจที่เราทำงานด้วยอย่างใกล้ชิด พวกเขาจะให้ข้อมูลที่จำเป็นกับเราเพื่อขึ้นทะเบียนมรณบัตร”

ใบมรณบัตรถือเป็นเอกสารจดบันทึกว่ามีคนเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ และยังเป็นหลักฐานพิสูจน์ความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิตอีกด้วย ใบมรณบัตรช่วยครอบครัวเรื่องกระบวนการทางเอกสารหลังจากมีผู้เสียชีวิต

งานฌาปนกิจจะถูกจัดขึ้นหลังจากมีการออกใบมรณบัตรและกระบวนการอื่นๆ เสร็จสิ้น

บางกรณีอาจต้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลนั้น เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ (Coroner) จะเป็นผู้ดำเนินการ

คุณแจ็คกี ฮอว์กินส์ (Jacqui Hawkins) รองผู้อำนวยการการชันสูตรศพในรัฐวิกตอเรียอธิบายสามสิ่งที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพทำ

“เราสืบสวนการเสียชีวิตที่ไม่คาดคิดและไม่ทราบสาเหตุ ได้แก่ การฆาตกรรม อุบัติเหตุบนท้องถนน การฆ่าตัวตาย และการใช้ยาเกินขนาด และนั่นนับเป็นประมาณ 7,000 รายต่อปีในวิกตอเรีย และหน้าที่หลักสามอย่างของเราคือ ระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต สาเหตุของการเสียชีวิต และสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต”
Family at grave
ครอบครัวมาเยี่ยมหลุมฝังศพ Source: Getty Images/Phillippe Lissac
เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ระยะเวลาในการจัดงานศพอาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับการทดสอบต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพต้องทำเพื่อระบุสาเหตุของการเสียชีวิต

คุณคูริอะโคสกล่าวว่า เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายในการจัดงานฌาปนกิจ มันอาจมีราคาสูง

“ครอบครัวผู้อพยพใหม่อาจไม่มีเงินมากพอในการจัดงานศพ ผมต้องหาข้อมูลบริษัทจัดงานศพสองสามแห่ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง พวกเขาจะแนะนำว่า นี่คือขั้นตอนนะ คุณต้องถามว่า งานศพจะถูกจัดอย่างไร พวกเขาให้บริการอะไรบ้าง”

ผู้จัดงานฌาปนกิจจะประสานงานกับสมาชิกครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องทำในการจัดงานฌาปนกิจ พวกเขาจะช่วยจัดงานที่เหมาะสมและราคาย่อมเยาแก่ครอบครัว

คุณดันคอมบ์อธิบายถึงประเภทของงานฌาปนกิจว่า
มีการฝังศพ การเผาศพ มีหลายประเภท และขึ้นอยู่กับครอบครัวว่าพวกเขาอยากจะเลือกอะไรสำหรับคนที่พวกเขารัก หรือวัฒนธรรม ประเพณีของพวกเขาในการจัดงานศพ
Piggy bank
กระปุกออมสินเพื่องานฌาปนกิจ Source: Getty Images/Peter Dazaeley
สิ่งสำคัญคือคุณต้องสอบถามผู้จัดงานฌาปนกิจหลายๆ เจ้าและเลือกเจ้าที่สามารถให้บริการตามความต้องการเรื่องวัฒนธรรมและศาสนาของครอบครัวของคุณมากที่สุด คุณดันคอมบ์กล่าว

“การสามารถช่วยจัดงานตามหลักวัฒนธรรมตามที่พวกเขาปฏิบัติในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขานั้นเป็นส่วนที่งดงามของสิ่งที่เราทำหรือวิธีที่เราทำเช่นกัน ไม่ใช่ว่าผู้จัดงานศพทุกแห่งจะทำทุกอย่าง บางเจ้าเชี่ยวชาญกับบางวัฒนธรรม บางเจ้าอาจไม่มีทักษะหรือความสามารถในการจัดเช่นกัน”

ตัวอย่างเช่น ตามหลักกฎหมายในการจัดงานฌาปนกิจแบบอิสลาม งานฌาปนกิจต้องจัดทันทีหลังจากที่มีผู้เสียชีวิต และต้องฝังศพให้เร็วที่สุด

ครอบครัวสามารถติดต่อองค์กรอิสลามท้องถิ่นหรือผู้จัดงานฌาปนกิจที่เชี่ยวชาญในการให้บริการจัดงานฌาปนกิจแบบมุสลิม

คุณฮอว์กินส์ รองผู้อำนวยการการชันสูตรศพในรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพต้องเข้ามามีส่วนร่วม จะมีหลายมาตรการในการช่วยเหลือชุมชนพหุวัฒนธรรม รวมถึงการพบจิตแพทย์

“ทุกครอบครัวจะได้รับโบรชัวร์ที่เรียกว่า ‘เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ (What happens now)’ ซึ่งจะอธิบายขั้นตอนของเราด้วยศัพท์ภาษาอังกฤษแบบง่าย สามารถหาเอกสารนี้และเอกสารอื่นๆ ของเราได้จากเว็บไซต์ของศาลชันสูตรพลิกศพ (Coroner’s Court) มีบางเอกสารได้รับการแปลไว้ 15 ภาษาที่มักใช้อย่างแพร่หลาย”
Japanese funeral scene
การจัดงานฌาปนกิจของญี่ปุ่น Source: Getty Images/Arrow
นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า ขึ้นอยู่กับวีซ่าของผู้เสียชีวิตด้วย

จะต้องเตรียมเอกสารที่-เกี่ยวข้องเพื่อส่งให้สถานฑูตของประเทศเกิดของผู้เสียชีวิต

คุณดันคอมบ์กล่าวว่า ผู้จัดงานฌาปนกิจจะทำงานกับหลายหน่วยงานเพื่อให้แน่ใจว่ามีการดำเนินการอย่างเหมาะสม

“เมื่อมีผู้เสียชีวิต จะต้องมีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และแน่นอนการส่งศพหรือเถ้าถ่านกลับประเทศต้องได้รับการอนุมัติก่อน หากมีการเผาศพหรือฝังศพที่นี่ กระบวนการขออนุมัตินั้นไม่จำเป็นและผู้จัดงานศพจะบอกกล่าวกับสถานฑูตเช่นนั้น หากครอบครัวเลือกหรือไม่สามารถจ่ายค่าขนส่งศพกลับบ้านได้ พวกเขาอาจอยู่ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าทำงาน ครอบครัวจะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหลังจากการฝังศพหรือเผาศพ”

หลังจากเกิดเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต สิ่งสำคัญคือการแจ้งข้อมูลแก่องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยรับแจ้งการเสียชีวิตแห่งออสเตรเลีย (Australian Death Notification Services - DNS) มีบริการช่วยแจ้งเรื่องกับหลายองค์กรในการเกิดเหตุเสียชีวิต คุณปาเดียร์กล่าว
นี่คือบริการฟรีของรัฐบาลที่ช่วยให้สามารถแจ้งการเสียชีวิตกับหลายๆ องค์กรด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์เดียว
บางหน่วยงานที่เป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอส ได้แก่ ธนาคาร บริษัทโทรคมนาคม สาธารณูปโภค ประกันภัย และหน่วยงานรัฐต่างๆ

แพลตฟอร์มนี้ยังมีข้อมูลที่แปลไว้ 50 ภาษาอีกด้วย

หาข้อมูลบริการฟรีของหน่วยรับแจ้งการเสียชีวิตแห่งออสเตรเลียได้


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share