อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย เป็นหนึ่งในประเทศล่าสุดที่ยืนยันกรณีโรคฝีดาษลิง ทำให้จำนวนประเทศที่รายงานพบโรคนี้เพิ่มขึ้น 15 ประเทศ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อนี้ในอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี โปรตุเกส สเปน และสวีเดน รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย ทำให้เกิดความหวั่นเกรงว่าไวรัสฝีดาษลิงอาจกำลังแพร่ระบาด
เมื่อวันเสาร์ (21 พ.ค.) องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับรายงานการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ซึ่งได้รับยืนยันจากห้องแล็บแล้ว 92 ราย และมีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อนี้แล้ว 28 รายในหลายประเทศที่โรคฝีดาษลิงไม่ใช่โรคเฉพาะถิ่น
ประเทศอังกฤษกำลังเผชิญกับการพบผู้ป่วยรายวันจากการติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงที่พบได้ยากนี้ โดยผู้ติดเชื้อเหล่านี้ไม่มีความเชื่อมโยงกับการเดินทางไปยังแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โรคฝีดาษลิงเป็นเป็นโรคเฉพาะถิ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.)
สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) กล่าวว่า จะมีการแถลงจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดในวันจันทร์ หลังจากยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 รายในวันศุกร์ (20 พ.ค.)
เมื่อถูกถามว่ากำลังมีการระบาดของเชื้อนี้ในชุมชนในอังกฤษหรือไม่ นาง ซูซาน ฮอปกินส์ หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของ UKHSA กล่าวว่า "ใช่แน่นอน"
“เรากำลังพบกรณีการติดเชื้อ ที่ไม่มีรายติดต่อกับบุคคลใดทีมาจากแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเราเคยพบเห็นก่อนหน้านี้ในประเทศนี้” เธอบอกกับสถานีโทรทัศน์บีบีซี "เราตรวจพบกรณีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน"
แต่นางฮอปกินส์ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานข่าวว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก แต่กล่าวว่าการระบาดของเชื้อไวรัสฝีดาษลิงกำลังกระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง ในหมู่ชาวเกย์หรือชายรักร่วมสองเพศ (bisexual men)
“ความเสี่ยงของประชากรทั่วไปยังคงต่ำมากในขณะนี้ และฉันคิดว่าผู้คนจำเป็นต้องตื่นตัวต่อเรื่องนี้” นางฮอปกินส์ กล่าว และเสริมว่าสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่แล้ว อาการของโรคจะ “ค่อนข้างไม่รุนแรง”
การพบผู้ป่วยรายแรกในอังกฤษถูกเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยเป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย โรคนี้ยังแพร่กระจายในยุโรปและอเมริกาเหนือด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ หน่วยงานด้านโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) กล่าวว่ารายงานข่าวส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฝีดาษลิงนั้นแฝงการเหยียดเชื้อชาติและความเกลียดหรือกลัวผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเตือนถึงว่าการรายงานข่าวเช่นนั้นจะซ้ำเติมให้เกิดความรู้สึกเป็นตราบาป (stigma) และบ่อนทำลายการตอบสนองต่อการระบาดที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น
UNAIDS กล่าวว่า พบจำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง "ในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ" ในหมู่ชายชาวเกย์ ชายรักร่วมสองเพศ (ไบเซ็กชวล) และชายอื่น ๆ ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
แต่การแพร่เชื้อนั้นมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้มากที่สุดจากการสัมผัสทางร่างกายอย่างใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง และเชื้อไวรัสชนิดนี้ส่งผลกระทบได้ต่อทุกคน รายงานระบุ
อาการของโรคฝีดาษลิงได้แก่ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย และมีผื่นคล้ายอีสุกอีใสที่มือและใบหน้า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการติดเชื้อฝีดาษาลิงในมนุษย์หลายพันรายในพื้นที่บางส่วนของแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก แต่การติดเชื้อนี้พบได้ยากในยุโรปและอเมริกาเหนือ
อิสราเอลยืนยันกรณีแรกของโรคฝีดาษลิงในวันเสาร์
โฆษกของโรงพยาบาลอิชิลอฟ (Ichilov) ในเทลอาวีฟ บอกกับเอเอฟพีว่า ชายวัย 30 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับมาจากยุโรปตะวันตกพร้อมอาการฝีดาษของลิง และได้พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกสำหรับเชื้อไวรัสฝีดาษลิง
ขณะที่ในประเทศออสเตรีย เมื่อวันอาทิตย์หน่วยงานสาธารณสุขของกรุงเวียนนา ยืนยันการพบกรณีแรกของโรคฝีดาษลิงในออสเตรีย หลังจากก่อนหน้านี้รายงานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าต้องสงสัยจะติดเชื้อนี้
ในวันเสาร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสวิสเซอร์แลนด์ยังรายงานกรณีแรกของโรคฝีดาษลิงในบุคคลหนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐเบิร์น แต่ได้สัมผัสเชื้อขณะที่อยู่ในต่างประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง 2 รายในออสเตรเลีย โดยพบในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียรัฐละ 1 ราย หลังมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งในหลายประเทศในยุโรป ชายผู้ติดเชื้อทั้งสองรายนี้เพิ่งเดินทางกลับจากยุโรป
หน่วยงานด้านสุขภาพกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใดเกี่ยวกับกรณีการพบผู้ติดเชื้อทั้งสองรายนั้ แต่ให้ประชาชนเฝ้าระวังและสังเกตอาการของตนหากคุณเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ กรณีดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก แต่ให้เฝ้าระวังอาการหากคุณเพิ่งกลับจากต่างประเทศ
โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับแผลที่ผิวหนังและละอองฝอยขนาดใหญ่ (droplets) ของบุคคลที่ติดเชื้อ เช่นเดียวกับการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น เครื่องนอน (ที่นอน ผ้าปูที่นอน หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม) และผ้าเช็ดตัว
อาการต่างๆ ของโรค ได้แก่ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองบวม หนาวสั่น อ่อนเพลีย และมีผื่นคล้ายอีสุกอีใสที่มือและใบหน้า ซึ่งมักอาการดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์
ยังไม่มีการรักษาโรคนี้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่พบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษหรือฝีดาษ (smallpox) มีประสิทธิภาพราวร้อยละ 85 ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดา จะบอกความแตกต่างได้อย่างไร