กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
"นี่คือคนที่อยู่ในจุดที่มืดบอดที่สุดของชีวิต และกำลังต้องการความช่วยเหลือ การที่ไม่มีใครโทรกลับ เพื่อให้คำตอบกับคำขอนั้น มันรู้สึกสิ้นหวังที่เจ็บปวด แล้วตอนนี้พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน หากว่านี่คือที่ที่ควรไปขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครตอบกลับ แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป"
การเปิดเผยของ ของหัวหน้าของนิตยสาร Impact Economics แองเจลา แจ็กสัน ที่เป็นผู้เขียนรายงานฉบับล่าสุด ที่เปิดเผยสถานการณ์วิกฤตคนไร้บ้าน ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างในออสเตรเลีย และความยากลำบากในการเข้าถึงความช่วยเหลือจากบริการดังกล่าว
ข้อมูลจากรายงานสำรวจบริการช่วยเหลือคนไร้บ้าน 23 แห่งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า เป็นเวลากว่า200 ชั่วโมง ที่ศูนย์ให้ความช่วยเหลือเหล่านี้ต้องปิดให้บริการ และคิดเป็น 325 ชั่วโมงของสายที่โทรมาแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับ และมีอีเมลด่วนที่ส่งมากว่า 660 ฉบับ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบกลับได้
ซีอีโอขององค์กร แองกลิแคร์ ออสเตรเลีย (Anglicare Victoria) พอล แมคโดนัลด์ กล่าวว่าสาเหตุของปัญหาดังกล่าว มาจากความสามารถในการให้บริการไม่เพียงพอต่อความต้องการความช่วยเหลือ
"ความต้องการความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่จำนวนและประเภทของผู้คนที่แตกต่างกัน มันเหมือนกับการเปรียบเทียบอุปสงค์กับอุปทานเหมือนกระดานหกที่น้ำหนักข้างหนึ่งหนักกว่าอีกข้างหนึ่งมาก"
"เราเห็นกลุ่มประชากรใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่มสาวที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือไม่สามารถเข้าสู่ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยได้ กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูก ๆ หรือกลุ่มเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวไม่สามารถย้ายไปอาศัยบ้านพักพิงได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน"
อ่านเพิ่มเติม
คนไทยต้องดิ้นรนแค่ไหนในวิกฤตเศรษฐกิจออสเตรเลีย
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้หมายความว่าครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่กำลังมองหาที่พักฉุกเฉิน ไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือจำนวนมาก คิดเป็นในห้าวันจะมีหนึ่งวันที่ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ในขณะที่คนที่ไม่มีลูกจะถูกปฏิเสธความช่วยเหลือทุกๆ ในสองวัน ผู้เยาว์ที่อาศัยในบ้านฉุกเฉินโดยลำพังจะถูกปฏิเสธความช่วยเหลือหนึ่งคนในทุก ๆ เก้าวัน
ในขณะที่ผู้ที่ได้รับการตอบกลับความช่วยเหลือ คุณ แจ็กสัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าจะช่วยใครดี
"มีที่อยู่อาศัยระยะยาวไม่เพียงพอที่จะให้พวกเขาเข้าไปอยู่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในสถานบริการที่พักฉุกเฉินนานขึ้น ซึ่งหมายความว่ามีที่พักฉุกเฉินน้อยลง ดังนั้นมันเป็นสถานการณ์ที่เมื่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือโทรมา เราจะได้ยินเจ้าหน้าที่พูดว่า คุณมีลูกแต่คุณมีรถใช่ไหม เราต้องขอโทษจริงๆ คุณคงต้องนอนในรถ เพราะเรามีคนที่มีเด็กแต่ไม่มีรถ”
มันค่อนข้างยากที่จะหาเหตุผลมาเข้าข้างประเทศที่ดูเหมือนร่ำรวย แต่มีผู้คนตกอยู่ในสถานการณ์ที่หน่วยงานบริการคนไร้บ้านต้องเลือกระหว่างครอบครัวที่มีและไม่มีรถยนต์หัวหน้าของนิตยสาร Impact Economics แองเจลา แจ็กสัน
รายงานระบุว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นคือ ความกดดันจากสถานการณ์การเช่าที่อยู่อาศัย ผู้ที่เสี่ยงต่อการไม่มีที่อยู่อาศัย มีอัตราเพิ่มขึ้นทั่วประเทศถึงร้อยละ 63 คิดเป็นประมาณสามล้านคน ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากจำนวนที่อยู่อาศัยให้เช่าน้อยลง และราคาแพงขึ้น ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเช่าที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนได้
ซีอีโอ หน่วยงานบริการ คนไร้บ้านในออสเตรเลีย เคท โคลวิน กล่าวว่า แค่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่สามารถผลักดันให้ผู้คนตกอยู่ในสถานการณ์หมิ่นเหม่ต่อการเป็นคนไร้บ้าน
"มีสถานการณ์ที่ผลักดันให้ผู้คนมีความเสี่ยงในการเป็นคนไร้บ้าน เช่น สูญเสียรายได้บางส่วน ตกงาน หรือประสบความรุนแรงในครอบครัว และต้องออกจากบ้านที่อาศัยอยู่"
รายงานให้คำแนะนำว่าควรมีการสนับสนุนความช่วยเหลือในการเช่า และการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ราคาไม่แพงมากขึ้น เป็นแนวทางแก้ไขวิกฤตที่อยู่อาศัย แต่ คุณ โคลวินกล่าวว่ารัฐบาลน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ เพื่อลดแรงกดดันด้านค่าเช่า
"ต้นตอของปัญหาในตลาดการเช่า คือเราไม่มีที่อยู่อาศัยให้เช่าราคาถูกอย่างเพียงพอ ซึ่งส่งผล ให้เกิดปัญหา 2 ประการ ประการแรกคือมีการแข่งขันดุเดือดสำหรับตลาดบ้านเช่าราคาถูก ซึ่งมีไม่กี่แห่งและมันทำให้ราคาแพงขึ้น ดังนั้นมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถเช่าได้ และประการที่สองคือ ค่าเช่าที่แพงเรื่อยๆ"
สิ่งที่เราต้องการคือทางออกสำหรับปัญหานี้ รัฐบาลต้องสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกมากขึ้น ต้องลงทุนสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมมากขึ้นหัวหน้าของนิตยสาร Impact Economics แองเจลา แจ็กสัน
การจัดทำรายงานเกี่ยวกับคนไร้บ้านนี้มีขึ้น ในขณะที่รัฐบาลกลางกำลังพยายามเสนอนโยบายที่อยู่อาศัยที่ค้างคามานาน ผ่านทางรัฐสภาอีกครั้ง ในช่วงปักษ์สุดท้ายของปี
พรรคแรงงานได้พยายามจะผ่านร่างกฎหมาย โครงการเพื่อความเสมอภาค โดยจะอนุญาตให้ผู้ซื้อบ้านรายแรก วามารถวางเงินมัดจำน้อยลง
และพยายามจัดทำโครงการสร้างเพื่อเช่า โดยจะมีการเสนอมาตรการจูงใจทางภาษีให้กับนักพัฒนาเพื่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าเหล่านี้
ผู้เขียนรายงาน แองเจลา แจ็กสัน กล่าวว่ามาตรการเหล่านี้อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ และในขณะเดียวกัน หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ ที่เป็นด่านหน้าจำเป็นต้องได้รับงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในปัจจุบัน
"เราเห็นว่างบประมาณสำหรับการบริการดูแลคนไร้บ้าน ถูกถอดออกไปในช่วงหลังโควิด การสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมมีความสำคัญ แต่ในหลายกรณีเป็นเพียงการสร้างแทนที่ บ้านมีอยู่แทนที่จะสร้างเพิ่ม เช่นสถานการณ์ในรัฐวิกตอเรียที่มีแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยสาธารณะอย่างต่อเนื่อง และจะต้องมีการช่วยเหลือควบคู่ไปกับการให้บริการความช่วยเหลือไร้บ้านให้เพียงพอต่อความต้องการ"
____________________________________________________________________________________________________________
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่