กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกดดันทางด้านการเงิน โดยเฉพาะภาคส่วนอุตสาหกรรมการจัดส่งอาหารและพัสดุ และผู้ให้บริการแชร์ไรด์ (shareride) หรือการร่วมเดินทางประสบความลำบากหนักกว่าผู้คนส่วนใหญ่
คุณอลิสซา อับดุลวาฮิบ (Alyssa Abbdulwahib) มาจากมาเลเซียและเธอขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อส่งอาหารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
คุณอลิสซากล่าวว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้เธอต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม
“เมื่อปีที่แล้วฉันทำงาน 3 วัน หยุด 1 วันและทำงานต่อ ตอนนี้ฉันทำงาน 7 วัน ต้องทำงาน 1 เดือน 2 เดือน ถึงหยุดได้ 1 วัน”
ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง
ผู้หญิงไทยคนขับรถอูเบอร์
SBS Thai
08/11/202113:02
คุณอลิสซาเป็นหนึ่งในแรงงานต่างชาติอีกจำนวนมากที่กำลังลำบากกับการหาเลี้ยงชีพในภาคส่วนเศรษฐกิจของผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือกิ๊ก อิโคโนมี (Gig Economy)
วุฒิสมาชิกพรรคแรงงานแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ โทนี เชลดอน (Tony Sheldon) กล่าวถึงความจริงที่ว่าภาคส่วนนี้พึ่งพาแรงงานที่เพิ่งมาถึง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
บ่อยครั้งผู้อพยพหรือแรงงานต่างชาติได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง
"และผมคิดว่าเป็นชั้นที่สามด้วยซ้ำ เรามีสถานการณ์ในระบบเศรษฐกิจขณะนี้ที่คนทำงานในกิ๊ก อิโคโนมีถูกปฏิบัติเหมือนเป็นหยาดเหงื่อแรงงานให้ลุง แซม (Uncle Sam*) เพื่อทำเงินดอลลาร์ให้แก่ประเทศที่อยู่ห่างไกล ในขณะที่เอารัดเอาเปรียบบริษัทขนส่งที่ทำงานหนักและแรงงานที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้”
*ในที่นี้หมายถึงสหรัฐอเมริกา
ผู้นำสหภาพแรงงานด้านการขนส่ง (Transport Workers Union) และตัวแทนของกลุ่มผู้ประกอบการอิสระวิ่งเต้นเรียกร้องในรัฐสภาเพื่อผลักดันให้มีการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคส่วนนี้
สถาบันแม็กเคล (McKell) เผยแพร่ผลการสำรวจแรงงานในภาคส่วนการขนส่ง 1,000 คน พบว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานกลุ่มนี้ต้องการสภาวะการทำงานที่ดีขึ้น ต้องการการคุ้มครองที่มากขึ้นเพื่อรักษางานของพวกเขา
ผลการสำรวจยังพบว่า 76 เปอร์เซ็นต์รู้สึกว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างน้อยจากงานที่ทำ และ 65 เปอร์เซ็นต์กังวลว่าจะไม่มีรายได้ขณะที่ป่วยหรือบาดเจ็บ
และเกือบครึ่งรู้สึกกลัวที่จะถูกยกเลิกหรือระงับบัญชี ซึ่งการพึ่งพาแอปและอัลกอริทึม (algorithms) เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมนี้
เลขาธิการสหภาพแรงงานขนส่ง ไมเคิล เคน กล่าวว่าคนงานได้รับผลกระทบจากการที่ต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้
“มันลดทอนความเป็นมนุษย์ บางครั้งระบบอัลกอริทึมตัดขาดคนงานออกจากแอปโดยไม่มีคำอธิบาย และบางครั้งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อกลับไปอยู่ในแอปใหม่ และด่านแรกที่รับสายโทรศัพท์ของพวกเขาคือคอมพิวเตอร์ แรงงานต้องคุยกับบอท (bot) เพื่อพยายามกลับมาทำงานและดำรงชีวิตได้เหมือนปกติ”
แอปพลิเคชันอูเบอร์บนมือถือ Source: AAP, EPA / AAP/EPA/WILL OLIVER
อูเบอร์กล่าวกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า เชื่อว่าสามารถปรับค่าจ้างและสภาวะการทำงานได้ โดยจะคุ้มครองเสรีภาพให้แรงงานสามารถเลือกเวลาทำงานได้
โดยกล่าวในแถลงการณ์ดังนี้
“ความยืดหยุ่นและสภาวะการทำงานที่ดีขึ้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ และหากเป็นไปด้วยการณ์อื่นนับว่าเป็นความเสียหายต่อบุคคลากรซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด แรงงานในภาคส่วนนี้ การมีอิสระสามารถเลือกเวลาและวิธีการทำงานเป็นรากฐานที่สำคัญของกิ๊ก อิโคโนมี”
การที่เดลิเวอรูถอนตัวจากออสเตรเลียหมายความว่ามีคู่แข่งรายใหญ่น้อยลงในภาคส่วนนี้ และนั่นทำให้หลายคนที่ต้องออกไปหาเลี้ยงชีพตามท้องถนนต้องลำบากมากขึ้น
สำหรับคุณอลิสซา มันหมายความว่าเธอต้องทำงานหลายชั่วโมงมากขึ้น ต้องทำงานกับหลายแอปเพื่อหารายได้ให้พอเพียง และเพื่อให้แน่ใจว่ารายได้ของเธอได้รับการคุ้มครอง โดยที่เธอจะไม่ถูกตัดขาดออกจากแพลทฟอร์มโดยระบบอัลกอริทึมที่อยู่เหนือการควบคุมของเธอ
“สองวันกับอูเบอร์ วันอื่น เวลาที่ฉันทำงานเสร็จ ฉันทำกับดอร์แดช (Doordash) และเมนูล็อก (Menulog) เพราะสภาวะเงินเฟ้อ ราคาทุกอย่างสูงขึ้น เราต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ ดังนั้นเราต้องทำงานหลายชั่วโมงมากขึ้นเพื่อใช้ชีวิตที่นี่”
เมื่อปีที่ผ่านมา อูเบอร์และดอร์แดชลงนามในข้อตกลงกับสหภาพแรงงานขนส่งเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานอิสระเพื่อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานค่าแรงสำหรับแรงงานในภาคส่วนกิ๊ก อิโคโนมี
ผลการวิจัยล่าสุดนี้เผยแพร่ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังจากอูเบอร์เริ่มแคมเปญโฆษณาที่ขัดกับเสียงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะอนุญาตให้คณะกรรมาธิการผู้ตรวจการเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรม (Fair Work Commission) สามารถกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสภาวะการทำงานสำหรับแรงงานในภาคส่วนนี้ได้
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อดีตคนส่งโฮมเดลิเวอรูยื่นฟ้องปมค่าจ้างต่ำกว่ากฎหมายเกินครึ่ง
