ประเด็นสำคัญในข่าว
- รัฐบาลวางแผนที่จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อยาที่รัฐบาลอุดหนุนในโครงการ PBS ไว้ใช้ได้เป็นเวลา 2 เดือน โดยใช้ใบสั่งยาเพียงฉบับเดียว
- ภายใต้นโยบายนี้ จะมียาทั่วไปหลายร้อยรายการสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังที่จะมีราคาถูกลง
- คาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 กันยายนนี้ จะทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึงปีละ 180 ดอลลาร์
ชาวออสเตรเลียนับล้านคนที่มีภาวะเจ็บป่วยเรื้อรัง จะพบว่าการเข้าถึงยาชนิดต่าง ๆ มีราคาถูกลง ภายใต้โครงการใหม่ซึ่งจะรวมอยู่ในร่างงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลสหพันธรัฐเดือนหน้า
โดยรัฐบาลวางแผนที่จะอนุญาตให้ประชาชนซื้อยาที่รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในโครงการสิทธิประโยชน์ทางเวชภัณฑ์ (Pharmaceutical Benefits Scheme หรือ PBS) สำหรับใช้เป็นเวลา 2 เดือนภายในใบสั่งยาเดียว แทนที่จะซื้อโดยใช้ใบสั่งยา 2 ใบแยกต่างหาก
จากนโยบายดังกล่าว หมายความว่าชาวออสเตรเลียประมาณ 6 ล้านคนจะจ่ายค่ายาน้อยลง และลดเวลาเดินทางไปมาระหว่างแพทย์และร้านขายยา โดยโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน อาจช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายจากความจำเป็นที่ลดลงในการไปหาแพทย์จีพีเพื่อขอรับยาทั่วไปที่พวกเขาต้องการ
ส่วนผลกระทบต่อการคลังของประเทศจากโครงการดังกล่าว จะได้รับการเปิดเผยในการยื่นร่างงบประมาณแผ่นดินโดย จิม ชาล์เมอส์ รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียในวันที่ 9 พ.ค.นี้
การเข้าถึงยาทั่วไปหลายร้อยชนิดจะมีราคาถูกลงผ่านนโยบายนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่ผู้ป่วยอาการเรื้อรังซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายกับยาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มียามากกว่า 320 ชนิดในโครงการ PBS สำหรับภาวะอาการเรื้อรัง อย่างเช่น โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลในเลือด โรคโครห์น (การอักเสบในระบบทางเดินอาหาร) และความดันโลหิตสูง
ผลกระทบทางการเงินในการทำให้ยานับร้อยรายการราคาถูกลงสำหรับชาวออสเตรเลีย จะได้รับการเปิดเผยในการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินในรัฐบาลสหพันธรัฐ โดย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย 9 พ.ค.นี้ Source: AAP / Jono Searle
ในตอนแรก คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาโครงการสิทธิประโยชน์ทางเวชภัณฑ์ (The Pharmaceutical Benefits Advisory Committee) ลอยตัวแนวคิดนี้ไว้เมื่อปี 2018 ขณะที่มีการสอบสวนถึงความปลอดภัยทางคลินิกในการอนุญาตให้ยาในโครงการ PBS สำหรับผู้ป่วยเรื้อรังถูกสั่งจ่ายได้ในปริมาณมากขึ้น ซึ่งต่อมา คณะกรรมาธิการ ฯ ได้แนะนำให้เปลี่ยนแปลงกำหนดสำหรับใบสั่งยาแบบเติมยาจาก 1 เดือนเป็น 2 เดือน สำหรับยาทั่วไปในโครงการดังกล่าว
แต่ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว กฎระเบียบเรื่องการจ่ายยาของออสเตรเลียก็ยังคงยืดหยุ่นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยที่นิวซีแลนด์อนุญาตให้แพทย์ออกใบสั่งยาสำหรับใช้งานได้สูงสุด 90 วัน และ 100 วันสำหรับแคนาดา
ปัญหาการขาดแคลนยา
อย่างไรก็ดี เทรนต์ ทูมีย์ (Trent Twomey) ประธานสมาคมเภสัชกรรมแห่งออสเตรเลีย (Pharmacy Guild of Australia) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนยาสำหรับผู้ป่วยได้
“ผมสนับสนุนการเยียวยาและมาตรการลดค่าครองชีพ แต่โชคไม่ดีที่สิ่งนี้กลับเป็นเรื่องหลอกลวงตา” คุณทูมีย์ กล่าวกับโทรทัศน์เอบีซีในวันนี้ (26 เม.ย.)
คุณทูมีย์กล่าวอีกว่า มียามากกว่า 470 ชนิดในออสเตรเลียที่อยู่ในขั้นขาดแคลนวิกฤต หรือไม่มีโดยสิ้นเชิง พร้อมระบุว่ามียาร้อยละ 40ในรายการสำหรับผู้ป่วยเรื้อรังที่กำลังประสบกับภาวะขาดแคลนในสต๊อก
“รัฐบาลต้องหยุดว้าวุ่นกับประกาศที่ไม่มีความชัดเจนในเช้าวันนี้ เกี่ยวกับสัญญาก่อนการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินที่ว่าเราจะช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพอย่างไร” คุณทูมีย์ กล่าว
“จะต้องทำให้เรื่องพื้นฐานถูกต้องเสียก่อน นั้นก็คือการทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะสามารถรับยาได้อย่างน้อยคนละ 1 กล่อง”
มาร์ค บัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า มาตรการในส่วนของค่าครองชีพนั้น จะแก้ไขปัญหาที่ชาวออสเตรเลียประวิงเวลา หรือดำเนินชีวิตโดยไม่ใช้ยาที่จำเป็นสำหรับพวกเขา
“ทุกปี ชาวออสเตรเลียเกือบล้านคนถูกบังคับให้ประวิงเวลา หรือดำเนินชีวิตโดยไม่มียาที่แพทย์บอกว่ามันมีความจำเป็นสำหรับสุขภาพของพวกเขา” คุณบัตเลอร์ กล่าว
“นโยบายค่ายาที่มีราคาถูกลงนี้เป็นสิ่งที่ปลอดภัย ดีต่อเงินในกระเป๋าของชาวออสเตรเลีย และที่สำคัญก็คือ มันดีต่อสุขภาพของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม แพทย์จะยังสามารถเลือกที่จะออกใบสั่งยาสำหรับใช้เป็นเวลา 1 เดือนได้ ขณะที่รัฐบาลยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ทำให้ความต้องการยาเพิ่มขึ้น หรือทำให้เกิดการขาดแคลนยา
“เรากำลังเรียกร้องไปยังรัฐบาลสหพันธรัฐให้พิจารณาอีกครั้ง...” ประธานสมาคมเภสัชกรรมแห่งออสเตรเลียกล่าว และเสริมว่า ทางเลือกที่ดีกว่าคือการลดราคาที่ประชาชนต้องจ่ายในส่วนของยาที่อยู่ในโครงการ PBS จาก 30 ดอลลาร์เป็น 19 ดอลลาร์
เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะถึงการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดินครั้งที่ 2 ของรัฐบาลภายใต้การนำของ แอนโทนี อัลบานิซี รัฐมนตรีเงาด้านการคลัง แองกัส เทเลอร์ เรียกร้องให้ จิม ชาล์เมอส์ รัฐมนตรีการคลัง วางแนวทางในการทำให้งบประมาณแผ่นดินกลับมาอยู่ในระดับเกินดุลได้อีกครั้ง โดยระบุว่าควรเก็บภาษีสินค้าโภคภัณฑ์และภาษีลาภลอยเพื่อรับมือกับสภาวะขาดดุล
“หากรัฐบาลไม่สามารถทำให้งบประมาณเกินดุลได้ ด้วยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงในปัจจุบัน และเศรษฐกิจที่แข็งแรงซึ่งพรรครัฐบาลผสมได้มอบให้ แล้วเมื่อไหร่ที่รัฐบาลจะทำให้งบประมาณเกินดุลได้”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย มุ่งที่จะซึมซับรายได้ส่วนใหญ่จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูง แต่ไม่ทำให้งบประมาณแผ่นดินอยู่ในระดับเกินดุล
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจ จาก เอสบีเอส ไทย
รักอย่างเดียวไม่พอ การรับสัตว์มาเลี้ยงในออสเตรเลียต้องทำอย่างไรบ้าง