รัฐบาลภายใต้นายกรัฐมนตรีอัลบานีซี ได้แถลงร่างงบประมาณฉบับแรกของพวกเขา โดยมุ่งเน้นการลดการใช้จ่าย ขณะที่พยายามควบคุมไม่ให้ค่าครองชีพที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเลวร้ายไปกว่านี้
“นี่เป็นร่างงบประมาณที่รับผิดชอบ ซึ่งเหมาะสมกับช่วงเวลานี้และเตรียมเราให้พร้อมสำหรับอนาคต” นาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของรัฐบาลสหพันธรัฐ กล่าว
นายชาลเมอร์สกล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับแนวโน้มของเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกครั้งที่สามในรอบ 15 ปี
“คราวนี้ไม่ใช่วิกฤตทางการเงินหรือการระบาดใหญ่ของเชื้อโรค แต่เป็นสงครามที่ผลักดันให้ราคาสิ่งต่างๆ สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นทั้งที่นี่และทั่วโลก และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอีกครั้ง” นายชาลเมอร์สกล่าว
"สถานการณ์ในคราวนี้จำเป็นต้องรับมืออย่างแตกต่างออกไป"
นายชาลเมอร์สกล่าวว่า ร่างงบประมาณฉบับนี้ทำตามสัญญาที่พรรคให้ไว้ในการเลือกตั้ง ซึ่งรวมทั้งบริการดูแลเด็กที่ถูกลง การลางานโดยได้รับค่าจ้างเพื่อดูแลบุตรแรกเกิดที่ลาได้มากขึ้น การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น ยาที่ถูกกว่า และมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้ประชาชนสามารถลงเรียนในสถาบันเทฟ (TAFE) ได้โดยไม่เสียค่าเล่าเรียน และเพิ่มโควตานักศึกษามหาวิทยาลัยที่สามารถได้รับการช่วยเหลือค่าเล่าเรียนจากรัฐบาล
จะมีการให้วีซ่าแรงงานทักษะจากต่างประเทศมากขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานสำหรับธุรกิจต่างๆ โดยจำนวนวีซ่าที่จะให้แก่แรงงานทักษะจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 79,600 คน เป็น 142,400 คน
นอกจากนี้ จะมีการริเริ่มวีซ่าตัวใหม่ ชื่อวีซ่า แปซิฟิก เอ็นเก็จเมนต์ วีซ่า (Pacific Engagement Visa) โดยจะให้วีซ่าสูงสุด 3,000 คนในปีหน้าสำหรับชาวเกาะแปซิฟิกและติมอร์-เลสเต ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากโควต้าที่มีอยู่แล้ว 195,000 คน โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการถาวร
ได้มีการประกาศข้อตกลงการเคหะแห่งชาติ (Housing Accord) ซึ่งภายใต้ข้อตกลงนี้นั้น รัฐบาล นักลงทุน และภาคอุตสาหกรรมจะร่วมมือกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบ้านใหม่ 1 ล้านหลังภายใน 5 ปีนับจากปี 2024
นอกจากนี้ จะมีเงินทุน 75.1 ล้านดอลลาร์ถูกจัดสรรให้สำหรับการลงประชามติเกี่ยวกับคณะที่ปรึกษาชาวพื้นเมืองถาวรประจำรัฐสภา ที่เรียกกันว่า First Nations Voice to Parliament โดยจะระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ และจัดงบประมาณอีก 5.8 ล้านดอลลาร์สำหรับการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระมาคาร์ราตา (Makarrata Commission)
ข่าวดีมีอะไรบ้าง?
อัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลดีต่อรัฐบาล ซึ่งจะได้รับเงินภาษีเพิ่มมากขึ้น
การขาดดุลงบประมาณของปีการเงิน 2022-2023 ขณะนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 36,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม ที่ 78,000 ล้านดอลลาร์
รัฐบาลระบุว่า รัฐบาลสามารถทำให้การขาดดุลงบประมาณน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้วยการนำเงินที่ได้จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและจากการจ้างงาน กลับเข้าสู่งบประมาณ แทนที่จะนำเงินเหล่านั้นไปใช้จ่าย
แม้ว่าหนี้จะยังแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ข่าวร้ายคืออะไร?
ผลกระทบแง่ลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อสูง แรงกดดันด้านค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น คาดว่าจะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจในออสเตรเลียลงเหลือ 1.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023/24
อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะสูงสุดในปีนี้ก่อนจะแตะระดับราว 3.5 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนมิถุนายน 2024
การว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 เปอร์เซ็นต์ภายในไตรมาสเดือนมิถุนายน ปี 2024
หนี้ภาครัฐบาลโดยรวมของออสเตรเลียคาดว่าจะเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีหน้า และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น
ในขณะเดียวกัน การขาดดุลงบประมาณน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ในปีนี้ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปัจจัยอื่นๆ แต่จะมากกว่าที่คาดการณ์สำหรับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อันเนื่องมาจากการจ่ายดอกเบี้ยที่สูง (ซึ่งเป็นการใช้จ่ายประเภทที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด) และความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มพิเศษสำหรับโครงการทางสังคมต่างๆ เช่น โครงการประกันความทุพพลภาพแห่งชาติ (NDIS)
การเติบโตของค่าจ้างจะเกิดขึ้นเมื่อไร?
เงินเฟ้อคือศัตรูตัวฉกาจ ซึ่งกำลังผลักดันราคาสิ่งต่างๆ ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ค่าจ้างจะตามทัน
คาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดที่ 7.75 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะแตะระดับ 3.5 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนมิถุนายน ปี 2024
ซึ่งหมายความว่าประชาชนส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกว่ารายได้ของพวกเขาตามทันสิ่งต่างๆ ที่มีราคาสูงขึ้น จนกว่าจะถึงช่วงปี 2024 หรือปี 2025
มีมาตรการอะไรที่ช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านค่าครองชีพหรือไม่?
ราคาอาหาร ไฟฟ้า และน้ำมันมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการทำให้เงินเฟ้อแย่ลงไปอีกอันเนื่องมาจากการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นราคาสิ่งต่างๆ อย่างฉับพลันมากขึ้น
แทนที่จะใช้จ่าย รัฐบาลกล่าวว่าจะทำให้บริการดูแลเด็กราคาถูกลง ยาราคาถูกลง มีที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงเกินเอื้อม ขยายเวลาการลางานโดยได้รับค่าจ้างเพื่อเลี้ยงดูบุตรแรกเกิด และสนับสนุนการขึ้นค่าแรงสำหรับผู้ที่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแห่งชาติและตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละอุตสาหกรรม รวมทั้งขึ้นค่าแรงสำหรับพนักงานดูแลผู้สูงอายุ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วมจากรัฐบาลออสเตรเลีย