ประเด็นสำคัญ
- รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง จิม ชาร์ลเมอร์ส ส่งมอบงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลพรรคแรงงาน
- ใครได้ ใครเสีย และมีผลกับคุณอย่างไร
รัฐมนตรีการคลัง จิม ชาร์ลเมอร์ส (Jim Chalmers) ส่งมอบ หลังค่าครองชีพพุ่งสูง ปัญหาระดับโลก สภาพอากาศย่ำแย่ และหนี้จำนวนล้านล้านดอลลาร์
เขากล่าวว่างบประมาณฉบับนี้จะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่าย มุ่งสร้างการลงทุนในเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และเริ่มซ่อมแซมงบประมาณในอดีต
การยับยั้งชั่งใจเป็นชื่อของเกมงบประมาณนี้รมต.ชาร์ลเมอร์สกล่าว
ใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ และงบประมาณนี้มีผลกับคุณอย่างไร?
ผู้ได้ประโยชน์
ผู้ปกครองที่ทำงาน
ก่อนการเลือกตั้ง พรรคแรงงานได้โฆษณาถึงงบประมาณที่จะส่งมอบว่าจะช่วยจุนเจือครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่รัฐบาลให้งบกับการดูแลเด็ก (Childcare) และเงินช่วยเหลือผู้ปกครองที่ต้องลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตร (Paid parental leave)
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 เป็นต้นไป เงินชดเชยค่าดูแลบุตร (Childcare subsidy) จะเพิ่มจาก 85 เปอร์เซ็นต์เป็น 90 เปอร์เซ็นต์ สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า $80,000 ดอลล่าร์
ทุกครอบครัวจะยังคงได้รับเงินชดเชยสูงขึ้นถึง 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบุตรคนที่สองและคนต่อมา ที่อายุ 5 ขวบและยังต้องการการดูแล
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ลงทุน $531.6 ล้านดอลลาร์กับโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปกครองที่ต้องลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตร (Paid Parental Leave – PPL) เป็นเวลา 4 ปี โดยจะเพิ่มเวลาเป็นทั้งหมด 26 สัปดาห์
รัฐบาลจะเพิ่มเวลา 2 สัปดาห์สำหรับแต่ละปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ถึงเดือนกรกฎาคม 2026 และจะเพิ่มเป็นทั้งหมด 6 สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026
สตรี
รัฐบาลของนายอัลบานีซีให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และย้ำเรื่องนี้ในงบประมาณ
การให้งบประมาณกับการให้เงินชดเชยสำหรับผู้ปกครองที่ต้องลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรและเงินชดเชยค่าเลี้ยงดูบุตร ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าเป็นการปรับปรุงความเท่าเทียมทางการเงินของสตรีและลดความเหลื่อมล้ำเรื่องรายได้ที่แตกต่างระหว่างเพศ
ยังมีงบประมาณช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยของสตรีจำนวน $1.7 พันล้านดอลลาร์ การออกกฎหมายเพื่อให้เหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวสามารถขอลาหยุดงานโดยยังได้รับเงินได้ 10 วัน และการลงทุนกับบ้านเคหะราคาย่อมเยาสำหรับสตรีและบุตรที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
จิม ชาลเมอร์ส แถลงร่างงบประมาณของพรรคแรงงาน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้
นักศึกษาและภาคส่วนการศึกษา
ด้วยความร่วมมือกับรัฐบาลระดับมลรัฐและมณฑล รัฐบาลทุ่มงบ $1 พันล้านดอลล่าร์กับค่าธรรมเนียมการศึกษาในระดับวิชาชีพ (TAFE) และอาชีวะศึกษา (Vocational Education) ในข้อตกลงเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพระดับประเทศเป็นเวลา 1 ปี
ในปี 2023 สถาบันวิชาชีพและอาชีวะศึกษาจะเปิดรับนักศึกษาโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม 180,000 คน นับเป็นก้าวแรกของโครงการนี้จากทั้งหมด 480,000 คน
โดยจะให้งบกับหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุจำนวน 15,000 คน เพื่อช่วยลดความกดดันในภาคส่วนนี้
งบประมาณอีกกว่า $770 ล้านดอลล่าร์จะลงทุนกับการสร้างโรงเรียนที่ดีกว่าเดิม เพื่อนักศึกษาที่มีสุขภาพดีกว่าเดิม และครูที่มีคุณสมบัติมากขึ้น รวมถึงงบทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยอีก $485 ล้านดอลล่าร์ใน 2 ปีข้างหน้า สำหรับนักศึกษาที่ด้อยโอกาส
สิ่งแวดล้อม
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของงบประมาณนี้คืองบเรื่องภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อม
งบประมาณ $1.8 พันล้านดอลล่าร์กับการปกป้องสิ่งแวดล้อม คุ้มครองมรดกทางธรรมชาติ และอีก $204 ล้านดอลล่าร์เพื่อเร่งฟื้นฟูและปกห้องแนวปะการังเกท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef)
นอกจากนี้ยังให้เงินเพื่อการริเริ่มรักษาพันธุ์สัตว์พื้นเมือง ปรับปรุงทางน้ำในเมือง สร้างศูนย์วิจัย ปรับปรุงการจัดการมหาสมุทรและอุทยานทะเล และร่วมงานกับชนพื้นเมืองเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
กราฟแสดงงบลงทุนของรัฐบาลที่ให้แก่การดูแลเด็ก สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของสตรี และค่าเล่าเรียน Source: SBS
งบประมาณกว่า $800 ล้านดอลล่าร์จะลงทุนเพื่อสร้างแบตเตอรีพลังงานแสงอาทิตย์แก่บ้านเรือน 100,000 หลัง ลดภาษีลดยนต์ไฟฟ้า สร้างเครือข่ายสถานีชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ และสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนบนทางหลวง
ชนพื้นเมืองและเสียงในสภา
งบประมาณจำนวน $1.2 พันล้านดอลล่าร์กับมาตรการลดช่องว่างระหว่างชนพื้นเมืองและชุมชน
รวมถึงให้งบ $50.2 ล้านดอลล่าร์สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของออสเตรเลียเพื่อเตรียมการลงประชามติเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญเพื่อให้เสียงแก่ชนพื้นเมืองในรัฐสภา
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็นชุมชนไทยในวันชาติออสเตรเลีย และประวัติศาสตร์ของชาวอะบอริจิน
และงบประมาณ $54.3 ล้านดอลล่าร์สำหรับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เป็นชนพื้นเมือง 500 นาย และอีก $164.3 ดอลล่าร์สำหรับโครงการเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขเพื่อดูแลประชากรที่เป็นชนพื้นเมือง
รวมถึงงบประมาณ $99 ล้านดอลล่าร์ที่ลงทุนกับโครงการความยุติธรรมเพื่อชนพื้นเมือง (First Nation Justice)
การป้องกันประเทศ
เงินทุนเพื่อการป้องกันประเทศจะเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างปี 2022-23 และจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี (GDP - รายได้โดยรวมของประเทศ)
โดยรัฐบาลจะลงทุน $13 ล้านดอลล่าร์เพื่อแต่งตั้งอุปฑูตพิเศษประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อประสานงานกับรัฐบาลในภูมิภาค
รัฐบาลยังให้งบอีก $31 ล้านดอลล่าร์เพื่อขยายโครงการนำร่องไซเบอร์ฮับของออสเตรเลีย (Australian Public Services) เพื่อพัฒนาความสามารถและความปลอดภัยด้านไซเบอร์
ผู้รับเงินบำนาญ
ผู้รับเงินบำนาญ (Pensioner) ที่ต้องการทำงานจะสามารถมีรายได้ได้สูงถึง $11,800 (เดิม $7,800) ก่อนจะถูกหักเงินบำนาญ
รัฐบาลจะสนับสนุนผู้สูงอายุในออสเตรเลียให้ลดขนาดบ้าน โดยรัฐบาลได้เปลี่ยนการทดสอบสินทรัพย์บำนาญ (Pension asset test) ผู้ที่ขายบ้านจะได้รับการยกเว้นสูงสุด 24 เดือน จากเดิม 12 เดือน
รวมถึงขยายการปันเงินเข้ากองทุนเงินซุปเปอร์ (Superannuation) สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 – 59 ปีที่ต้องการลดขนาดบ้าน
Treasurer Jim Chalmers has handed down the 2022-2023 Federal Budget. Source: AAP / Lukas Coch
การดูแลผู้สูงอายุ
รัฐบาลให้งบประมาณจำนวน $2.5 พันล้านดอลล่าร์เพื่อให้มีพยาบาลที่ขึ้นทะเบียน (Registered nurses) ประจำบ้านพักคนชราตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 โดยจำนวนในการดูแลจะเพิ่มขึ้นเป็น 215 นาทีต่อหนึ่งคน ต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2024
รัฐบาลยังให้เงิน $810.2 ล้านดอลล่าร์แก่สถานบริการบ้านพักคนชราในการจัดการการระบาดของโควิด และอีก $34.9 ดอลล่าร์เพื่อจัดหาการตรวจโควิดต่อไปในสถานบริการบ้านพักคนชราจนถึง 31 ธันวาคม 2022
ผู้ที่ต้องการมาออสเตรเลีย
ธุรกิจที่ต้องการแรงงานจะสามารถหาคนทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยจำนวนวีซ่าทักษะ (Skilled visa) ที่เพิ่มขึ้นจาก 79,600 เป็น 142,400 วีซ่า
นอกจากนี้ยังเปิดตัววีซ่าความร่วมมือกับภูมิภาคแปซิฟิก (Pacific Engagement Visa) จำนวน 3,000 วีซ่าในปีหน้า สำหรับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกและติมอร์-เลสเต (Timor-Leste) เพิ่มจากจำนวน 195,000 วีซ่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำหรับผู้พำนักถาวร
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
จับตาประชุมงบประมาณเร่งแก้ปัญหาวีซ่า หวังดึงแรงงานต่างชาติ
ผู้ที่ต้องการพบเจอครอบครัวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจะได้รับประโยชน์เช่นกัน
วีซ่าคู่ครองและเด็กจะไม่มีการจำกัดจำนวน วีซ่าผู้ปกครองจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยรัฐบาลได้เพิ่มจำนวนวีซ่าจาก 4,500 ในระหว่างปี 2021-22 เป็น 8,500 วีซ่าในปีนี้
บ้านราคาย่อมเยา ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ?
งบประมาณนี้ริเริ่มข้อตกลงเรื่องบ้านพักอาศัยฉบับใหม่ ระหว่างรัฐบาล นักลงทุนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างที่พักอาศัยใหม่ 1 ล้านหลัง ในทำเลที่ดี ภายใน 5 ปี เริ่มปี 2024
รัฐบาลยังให้งบอีก $350 ล้านดอลล่าร์เพื่อสร้างที่พักอาศัยในราคาย่อมเยาอีก 10,000 หลัง เพิ่มเติมจากโครงการที่มีอยู่ปัจจุบัน รัฐบาลระดับมลรัฐและมณฑลจะสร้างที่พักอาศัยใหม่อีก 10,000 หลัง รวมจำนวนบ้านพักอาศัยในราคาย่อมเยาที่จะสร้างใหม่ทั้งหมด 20,000 หลัง
นอกจากนี้ โครงการช่วยซื้อบ้าน (Help to Buy Scheme) จะช่วยให้ประชากรออสเตรเลีย 40,000 คนสามารถซื้อบ้านได้ด้วยการวางเงินมัดจำ (Deposit) ในราคาถูก และราคาจำนองบ้านไม่แพง รวมถึงโครงการเงินประกันผู้ซื้อบ้านหลังแรกในแถบภูมิภาค (Regional First Home Buyer Guarantee) ที่จัดงบเพื่อช่วยผู้ซื้อบ้านรายแรกจำนวน 10,000 คนต่อปี
มาตรการเหล่านี้จะไม่มีผลในทันที ผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านใหม่เร็วๆ นี้หรือผู้ที่มองหาบ้านเช่าราคาไม่แพงยังคงเผชิญความกดดันอยู่
ผู้เสียประโยชน์
ครอบครัว
แม้รัฐบาลจะมีมาตรการเพื่อช่วยลดความกดดันเรื่องค่าครองชีพ เช่น เงินช่วยเหลือค่าดูแลเด็ก เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ปกครองที่ต้องลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตร และค่ายา แต่โดยเฉลี่ยแล้วครอบครัวชาวออสเตรเลียจะได้รับเงินช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย
กับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน เช่น ค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าน้ำมันที่ยังคงสูงอยู่ และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงสุดถึง 7.75 เปอร์เซ็นต์ในปลายปีนี้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ค่าครองชีพในออสเตรเลียกำลังพุ่งสูงขึ้น ทำไมทุกอย่างถึงแพงจัง?
อัตราเงินเฟ้อที่สูง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยสูง และปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก หมายความว่าจะไม่มีการเพิ่มอัตราค่าแรงในเร็ววันจนกว่าจะถึงปี 2024
“ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้ก่อนการเลือกตั้ง แต่เรื่องนี้ก็ถูกบดบังด้วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้น ค่าจับจ่ายใช้สอยที่กินเงินที่มี” รมต.ชาร์ลเมอร์สกล่าว
โครงการของรัฐบาลชุดก่อน
เพื่อสนับสนุนการลงทุนและการใช้จ่ายของรัฐบาลชุดก่อน รัฐบาลนายอัลบานีซีจะมอบเงิน $22 พันล้านดอลล่าร์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและการเปลี่ยนแนวทางใหม่
โครงการเหล่านี้ได้แก่ $1.7 พันล้านดอลล่าร์เพื่อเปลี่ยนแนวทางลงทุนจากโครงการเร่งการพัฒนาระดับภูมิภาค (Regional Accelerator Program) และงบ 1.4 พันล้านดอลล่าร์ที่ลดการลงทุนบางส่วนในโครงการความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) และโครงการพัฒนาในเขตภูมิภาค (Regional Development Plan)
รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เคที กัลลาเกอร์ (Katy Gallagher) กล่าวว่าจะตัดงบ $671 ล้านดอลล่าร์จากกองทุนเพื่อคลี่คลายความแออัดในตัวเมือง (Urban Congestion Fund) เพื่อสร้างที่จอดรถและโครงการสร้างภูมิภาคที่ดีขึ้น
บริษัทยักษ์ใหญ่นานาชาติ
การปราบปรามบริษัทนานาชาติ โดยรัฐบาลจะบังคับให้เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2023
บริษัทเหล่านี้จะไม่สามารถขอรับเงินภาษีคืนบางอย่าง ที่ทำให้จ่ายภาษีน้อยลงหรือไม่ต้องเสียภาษีเลย
บทลงโทษสำหรับการละเมิดเรื่องการแข่งขันและกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นจาก $10 ล้านดอลล่าร์เป็น $50 ล้านดอลล่าร์ต่อการฝ่าฝืนในแต่ละครั้ง เพิ่มบทลงโทษเดิมหัก 10 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ประจำปี เป็น 30 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ประจำปี ในช่วงเวลาที่มีการละเมิด
ผู้เลี่ยงภาษี
มุ่งเอาผิดตัวแทนยื่นภาษีที่ให้คำแนะนำอย่างผิดกฎหมาย โดยรัฐจะทุ่มงบ $30 ล้านดอลลาร์แก่คณะกรรมการตรวจสอบผู้ยื่นภาษี (Tax Practitioners Board) ในการสืบสวนและปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎภาษี
กรมภาษีอากรแห่งออสเตรเลีย (Australian Taxation Office – ATO) จะได้รับงบประมาณ $80 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินโครงการกัปัญหาการยื่นภาษีเกินจริงต่อไป
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แบงค์ชาติออสฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 2.6%