ค่าครองชีพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในออสเตรเลียและทั่วโลก
การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน น้ำมันเบนซิน ของชำ ตั๋วเครื่องบินไปต่างรัฐหรือไปต่างประเศประเทศ ทั้งหมดนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าของประชาชนในออสเตรเลียมากกว่าที่ผ่านมา นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโควิดระบาดใหญ่ต้นปี 2020
ในขณะที่ออสเตรเลียเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น ไฟป่า โควิด-19 ความแห้งแล้ง และน้ำท่วม จึงก่อให้เกิดคำถามคาใจที่ทุกคนอยากรู้ว่า คุณภาพชีวิตในออสเตรเลียจะเป็นอย่างไรต่อไป
คำถามเกี่ยวกับเรื่องเร่งด่วนที่สุดที่อยู่ในหัวของผู้คนคือ: ทำไมทุกอย่างถึงมีราคาแพงเช่นนี้?
มีคำตอบง่ายๆ หรือไม่?
คำตอบสั้น ๆ คืออัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่ง่ายอย่างนั้น
จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 12 เดือนจนถึงไตรมาสเดือนธันวาคม 2021
คุณ เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ เอเอ็มพี แคปพิทอล (AMP Capital) กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปจากการที่ออสเตรเลียเริ่มออกจากข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับโควิด-19
“ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด เราไม่สามารถใช้จ่ายสำหรับบริการต่างๆ ได้ ดังนั้นเราจึงใช้เงินทั้งหมดไปกับสินค้าในช่วงเวลาที่การผลิตและอุปทานของสินค้าเหล่านั้น ... ถูกจำกัด” คุณ โอลิเวอร์ บอกกับเอสบีเอส นิวส์
นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน นายโอลิเวอร์กล่าวว่า "การหยุดชะงักหรือการสะดุดเหล่านั้นเพิ่มสู่ระดับที่สูงขึ้น"
คุณอเล็กซ์ บัลแลนไทน์ นักวิชาการอาวุโสของโครงการนโยบายเศรษฐกิจของสถาบันแกรตแทน (Grattan Institute) กล่าวว่าอิทธิพลภายนอกที่มีต่อเศรษฐกิจเหล่านี้ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน จึงนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“การคว่ำบาตรจากสงครามกับรัสเซียทำให้อุปทานน้ำมันตอนนี้ต่ำกว่าอุปสงค์ ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง” คุณ บัลแลนไทน์ กล่าว
“ในขณะที่โดยเฉพาะประเทศกลับสู่โลกของการเดินทางอีกครั้งและใช้น้ำมันเบนซินเป็นจำนวนมาก สิ่งที่เกิดขึ้นคืออุปทานลดฮวบลงในช่วงเวลาที่มีอุปสงค์อยู่”
"การระบาดใหญ่ของโควิด น้ำท่วม สงคราม ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อการจัดหาสินค้า ... มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน"
แต่คุณ บัลแลนไทน์ กล่าวว่า ทุกอย่างดูแพงกว่าเดิม เพราะเป็นของใช้ในครัวเรือนและบริการต่างๆ ที่ผู้คนในออสเตรเลียซื้อบ่อยครั้ง ซึ่งได้ขึ้นราคา
"เราเห็นการขึ้นราคาของสิ่งที่ครัวเรือนต่างๆ มักซื้อบ่อยๆ ... แต่สิ่งอื่นๆ ก็ไม่ได้มีราคาเพิ่มขึ้นในแบบเดียวกัน เช่น บริการตัดผม หรือการไปรับประทานอาหารเย็นนอกบ้าน"
แล้วอะไรที่ราคาพุ่งสูงขึ้น?
ของชำ
ค่าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นค่าใช้จ่ายครัวเรือนที่มากเป็นอันดับสองรองจากค่าที่อยู่อาศัยตามรายงานการสำรวจค่าใช้จ่ายของสำนักสถิติออสเตรเลียปี 2015-2016
สินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เนื้อวัวและเนื้อแกะ คุณแบร์รี เออร์วิน ประธานบริษัทบีกา ชีส (Bega Cheese) เตือนว่าราคาผลิตภัณฑ์นมกำลังจะมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน
และดูเหมือนว่าราคาของกินของใช้ในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตจะไม่ลดลงในเร็วๆ นี้
ราคาของกินของใช้ในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตจะไม่ลดลงในเร็วๆ นี้ Source: SBS / Coles
คุณแบร็ด บันดุชชี ซีอีโอของวูลเวิร์ทส์ กรุ๊ป (Woolworths Group) บอกกับนักข่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ราคาสินค้าต่างๆ ในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตอาจเพิ่มขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็นต์ภายในปีหน้า
บริษัทผู้ผลิตอาหาร เอสพีซี (SPC) ยังกล่าวอีกว่า จะมีการขึ้นราคาสำหรับอาหารกระป๋อง เนื่องจากต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ราคาแร่เหล็กและข้าวสาลีที่สูงขึ้นหมายถึง สปาเก็ตตีกระป๋องจะมีราคาแพงขึ้น
กาแฟ
ผู้คนในออสเตรเลียบางส่วนจะต้องจ่ายถึง 7 ดอลลาร์สำหรับกาแฟธรรมดาๆ ภายในสิ้นปีนี้ คุณเดวิด พาร์แนห์ม ประธาน สมาคมเจ้าของร้านกาแฟและบาริสต้าแห่งออสเตรเลีย ระบุ
ร้านกาแฟทั่วประเทศกำลังประสบความยากลำบากในการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และในเร็วๆ นี้อาจต้องเริ่มให้ลูกค้าจ่ายในส่วนนี้เอง
คุณ พาร์แนห์ม กล่าวว่า ราคากาแฟที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าและสภาพอากาศที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาลจึงทำให้ราคาเมล็ดกาแฟสดทั่วโลกสูงขึ้น
ผู้คนในออสเตรเลียบางส่วนจะต้องจ่ายถึง 7 ดอลลาร์สำหรับกาแฟธรรมดาๆ Source: SBS
น้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2 ดอลลาร์ต่อลิตรในเมืองใหญ่หลายแห่งของออสเตรเลียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถาบันปิโตรเลียมแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Petroleum) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 14.9 เซนต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 212.5 เซนต์ต่อลิตร หลังจากได้ปรับขึ้นจาก 210.4 เซนต์ เป็น 214 เซนต์
และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินอาจสูงขึ้นกว่านี้อีก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงถูกผลักให้สูงขึ้นและกลับมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นั่นคือผลกระทบโดยตรงของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่หลายๆ ประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
"ผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนั้นใหญ่หลวงอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงส่งผลต่อหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในรัสเซีย และรวมถึงทั่วโลกด้วย” คุณ บัลแลนไทน์ ของสถาบันแกรตแทน กล่าว
มีการคาดการณ์ว่า นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของรัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลีย อาจลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงลงชั่วคราวจาก 44 เซนต์ต่อลิตร
ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2 ดอลลาร์ต่อลิตรในเมืองใหญ่หลายแห่งของออสเตรเลีย Source: Xinhua News Agency / Getty Images
แต่คุณคริส ริชาร์ดสัน นักเศรษฐศาสตร์ของดีลอยต์ แอ็กแซสส์ อีโคโนมิกส์ (Deloitte Access Economics) เตือนว่า มาตรการช่วยตรึงราคาน้ำมันเช่นนั้นอาจทำให้น้ำมันแพงยิ่งขึ้น และร่นช่วงเวลาที่ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ให้เร็วขึ้นอีก
เขากล่าวว่า เป็นการยากที่จะยกเลิกมาตรการช่วยตรึงราคาน้ำมันเมื่อมีการนำมาตรการนี้มาใช้
"พลาสเตอร์ยาเหล่านี้นำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่นำออกไปได้ช้า" คุณริชาร์ดสัน กล่าว
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันที่ประชาชนต้องจ่ายที่ปั๊มน้ำมันยังรวมไปถึง การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ค่าขนส่งและค่าประกัน ค่าธรรมเนียมท่าเรือ และค่าการจัดเก็บสินค้าเมื่อไปถึงยังปลายทาง
การเดินทางระหว่างประเทศ
การขึ้นราคาน้ำมันส่งผลกระทบต่อสินค้าและบริการอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเดินทางก็เป็นหนึ่งในนั้น
ด้วยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับสายการบิน หมายความว่า ราคาบัตรโดยสารสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
“เที่ยวบินใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และเที่ยวบินอาจต้องขึ้นราคาเช่นกัน หากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” คุณ บัลแลนไทน์ กล่าว
ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยว Kayak ราคาบัตรโดยสารเครื่องบินสำหรับที่นั่งชั้นประหยัดโดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดระบาด 50 เปอร์เซ็นต์ จากข้อมูลสำหรับเที่ยวบินระหว่างวันที่ 1-13 กุมภาพันธ์
“เที่ยวบินใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และเที่ยวบินอาจต้องขึ้นราคาเช่นกัน หากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” Source: SBS
ราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้นจะลดลงหรือไม่?
คุณมาร์คัส คาร์มอนต์ บริษัทที่ปรึกษาด้านซัพพลายเชนของ ทีเอ็มเอ็กซ์ โกลบอล (TMX Global) กล่าวว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นจะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับอนาคตอันใกล้ว เนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังคงเห็นการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งสินค้า ค่าขนส่งระหว่างประเทศ และค่าแรง
“มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับแรงกดดันจากแรงงานและต้นทุนที่ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป” คุณ คาร์มอนต์ กล่าว
เขากล่าวว่าหากราคาน้ำมันลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาเชื้อเพลิงลดลง ก็อาจลดผลกระทบที่ชาวออสเตรเลียกำลังเผชิญอยู่รายวัน
คุณ โอลิเวอร์ จาก เอเอ็มพี แคปพิทอล กล่าวว่า ค่าครองชีพในปัจจุบันที่ชาวออสเตรเลียกำลังเผชิญนั้นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสงครามในยุโรปตะวันออก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
“หวังว่า จะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในเร็วๆ นี้ และสงครามสิ้นสุดลง ซึ่งนั่นจะช่วยขจัดแหล่งที่มาของแรงกดดัน แต่เราจะยังคงมีข้อจำกัดด้านอุปทานอยู่” คุณ โอลิเวอร์ กล่าว
"การหยุดชะงักหรือการสะดุดของอุปทานเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป และนั่นอาจเป็นปัจจัยเดียวที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น"
ในขณะเดียวกัน คุณ บัลแลนไทน์ ของสถาบันแกรตแทน อาจกินเวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าที่ผู้คนในออสเตรเลียจะรู้สึกได้อย่างเต็มที่ถึงผลกระทบของราคาที่สูงขึ้น
เขาหวังว่าปัญหาที่ส่งผลต่อค่าครองชีพจะได้รับการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด แทนที่จะปล่อยไว้
“เราทุกคนต่างหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราว เพราะมันจะทำให้ผลกระทบนั้นเกิดขึ้นไม่นาน และมันจะทำให้การจัดการกับผลกระทบต่อครัวเรือนต่างๆ นั้นง่ายขึ้นด้วย” คุณ บัลแลนไทน์ กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลต่อชาวออสเตรเลียอย่างไรนอกปั๊มน้ำมัน
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ผู้เชี่ยวชาญเตือนอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มเร็วๆ นี้
