ออสเตรเลียลั่นไม่ได้ออกหมายแดงจับฮะคีม

NEWS: ออสเตรเลียปฏิเสธว่าไม่ได้ขอให้จับกุมตัวนายฮะคีม อัล-อะไรบี อย่างที่ทางฝ่ายทางการไทยให้ข่าว

You can read the full article in English

ออสเตรเลียยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกหมายแดงของอินเตอร์โพล (ตำรวจสากล) เพื่อตามจับกุมตัวนายฮะคีม อัล-อะไรบี นักฟุตบอลผู้ลี้ภัยชาวบาห์เรน ซึ่งนำไปสู่การที่เขาถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้ แต่ออสเตรเลียยอมรับว่าได้แจ้งทางการไทยทราบเกี่ยวกับการเดินทางไปถึงประเทศไทยของนายอัล-อะไรบี

นายอัล-อะไรบี วัย 25 ปี ถูกทางการบาห์เรนตามจับกุมตัว จากข้อหาโจมตีสถานีตำรวจแห่งหนึ่งด้วยระเบิดเพลิง ในปี 2012 และเขาถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ขณะเดินทางจากเมลเบิร์นไปฮันนีมูนกับภรรยาที่ประเทศไทย

ประเทศไทยได้กล่าวโทษว่าการจับกุมตัวนายอัล-อะไรบีนั้นเพราะออสเตรเลียโดยตรง โดยระบุว่าไทยจับกุมตัวนายอัล-อะไรบีตามคำร้องขอจากออสเตรเลีย

แต่สถานทูตออสเตรเลียในกรุงเทพมหานครออกแถลงการณ์ด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนตอบโต้ประเด็นนี้ว่า “เพื่อชี้แจงความเข้าใจผิด” เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

ในแถลงการณ์ ระบุว่า ออสเตรเลียไม่ตระหนักว่ามีหมายแดงจากอินเตอร์โพล เมื่อออสเตรเลียได้แจ้งให้รัฐบาลไทยทราบถึงการเดินทางมายังประเทศไทยของนายฮะคีม อัล-อะไรบี ซึ่งการแจ้งนั้นเป็นไปตามระเบียบการดำเนินการของอินเตอร์โพล หรือตำรวจสากล

“เมื่อรัฐบาลออสเตรเลียทราบถึงสถานการณ์นี้แล้ว เราได้ทำการถอนหมายจับอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“ซึ่ง (การถอนหมายจับ) เกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน เพียงสามวันหลังนายอัล-อะไรบี เดินทางไปถึงกรุงเทพมหานคร”

สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลออสเตรเลียกำลังดำเนินการทบทวนกระบวนการทำงานของตน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นกรณีของนายอัล-อะไรบีเกิดขึ้นอีกในอนาคต
Australian refugee Hakeem Al-Araibi
Australian permanent resident Hakeem Al-Araibi has been detained in Thailand since November last year. Source: AAP

ทางการไทยกล่าวไม่สามารถหยุดกระบวนการทางกฎหมายได้

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นั้นไทยไม่รู้เรื่องของนายอัล-อะไรบีมาก่อน และไม่มีอคติใดต่อเขา

“เราคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง หากไม่ใช่อินเตอร์โพลของออสเตรเลียเองที่ได้แจ้งเตือนเรื่องหมายแดงของนายฮาคีมแต่แรก และจากนั้นมีคำร้องอย่างเป็นทางการบาห์เรนให้จับกุมนายฮาคีมและส่งผู้ร้ายข้ามแดน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ

“ใช้เวลาหลายวันหลังจากนายฮะคีมเดินทางมาถึงแล้ว กว่าที่ทางการออสเตรเลียจะแจ้งให้เราทราบว่าหมายแดงถูกยกเลิกไปแล้ว แต่เมื่อถึงตอนนั้น กระบวนการทางกฎหมายในไทยเกี่ยวกับนายฮะคีมได้เริ่มขึ้นแล้วและไม่สามารถย้อนกลับได้”

อย่างไรก็ตาม ทางการไทยได้ระบุก่อนหน้านี้ว่า ไทยได้ดำเนินการจับกุมตัวนายฮะคีม ตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ที่บาห์เรนเป็นผู้ร้องขอ

นายฮะคีม อัล-อะไรบีนั้น หลบหนีออกจากบาห์เรนในปี 2014 หลังจากที่เขาถูกศาลบาห์เรนตัดสินจำคุก 10 ปี โดยเป็นการตัดสินลับหลัง และต่อมาเขาได้รับอนุมัติสถานภาพผู้ลี้ภัยจากออสเตรเลีย จึงได้อาศัยอยู่ในนครเมลเบิร์นนับจากนั้นเป็นต้นมา

นายอัล-อะไรบี กล่าวว่า เขาจะต้องเผชิญกับการถูกทรมาน และอาจถูกทำให้ถึงตาย หากกลับไปยังบาห์เรน

เขาถูกใส่เครื่องพันธนาการที่ข้อเท้า ขณะไปขึ้นศาลไทยเรื่องการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อวันจันทร์ ซึ่งศาลได้นัดตรวจพยานในวันที่ 22 เมษายนนี้

ในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ดูเหมือนจะขัดแย้งกับการให้ข้อมูลของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ระบุว่า บาห์เรนทราบเกี่ยวกับแผนการการเดินทางของนายอัล-อะไรบี ก่อนที่เขาจะเดินทางไปถึงกรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ว่าทางการไทยได้รับคำสั่งจากกระทรวงการต่างประเทศให้จับกุมตัวนายอัล-อะไรบี ก่อนที่เขาจะเดินทางไปถึงประเทศไทย

“รัฐบาลบาห์เรนรู้ว่าเขาจะเดินทางไปถึงประเทศไทย ดังนั้นพวกเขาจึงประสานกับปลัดกระทรวงต่างประเทศของไทยให้ไทยจับกุมตัวเขาไว้ ขณะรอเอกสารที่จะส่งจากบาห์เรน” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บอกกับ บีบีซี ไทย

ออสเตรเลีย ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าแทรกแซงกรณีของนายฮะคีมเป็นกรณีพิเศษ และให้ปล่อยตัวนักฟุตบอลกึ่งอาชีพผู้นี้

เมื่อเช้าวันพุธ (6 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน เตือนนายกรัฐมนตรีของไทยว่า ไทยอาจเสี่ยงทำลายความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย จากการที่ไทยควบคุมตัวนายอัล-อะไรบีไว้

“ผมคงจะผิดหวังอย่างมาก หากว่าจากผลของการจัดการเรื่องนี้ จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยและชาวออสเตรเลียต้องได้รับผลกระทบ” นายมอร์ริสัน บอกกับผู้สื่อข่าวที่นครเมลเบิร์น เมื่อวันพุธ
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 8 February 2019 12:10pm
Updated 8 February 2019 4:15pm
Presented by Parisuth Sodsai


Share this with family and friends