คริสติน อดัมส์ ย้อนระลึกถึงเรื่องราวการรอดชีวิตจากไฟป่าของเธอ
“เราได้รับโทรศัพท์ช่วงบ่ายแก่ๆ จากเพื่อนคนหนึ่งที่ถามว่า เราเห็นควันไฟหรือไม่” คริสติน บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
“เราจึงเดินออกไปดูข้างนอก และนั่นเป็นช่วงที่เราตระหนักว่า ‘เรากำลังลำบากแล้ว’ มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”เธอและสามี คือเคน มีธุรกิจให้บริการห้องพัก เบด แอนด์ เบรกฟาสต์ ที่บ้านของพวกเขาในแมรีส์วิลล์ เมืองเล็กๆ ในพื้นที่หุบเขายาร์รา แวลเลย์ ในรัฐวิกตอเรีย จนกระทั่งเกิดไฟป่าแบล็ก แซทเทอร์เดย์ ขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2009
คริสติน อดัมส์ สูญเสียเกือบทุกอย่างไปในเหตุการณ์ไฟป่า แบล็ก แซทเทอร์เดย์ ในปี 2009 Source: Gloria Kalache/SBS News
สิ่งสำคัญที่สุดตรงหน้าที่พวกเขาทำขณะนั้น คือพาแขกที่มาพักออกไปยังที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นจึงพาตนเองออกไป
พวกเขาหนีไฟป่าออกไปได้จนถึงใกล้เมืองอเล็กซานดรา พร้อมกับสุนัขและแมวอย่างละตัว และรออยู่ที่นั่นว่าจะทำอย่างไรต่อไป พร้อมกับชาวบ้านคนอื่นๆ
จากนั้น เริ่มมีข่าวแพร่กระจายออกไปว่าเมืองของพวกเขาถูกทำลายหมดไปหมดทั้งเมือง
“มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เราไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรดี เราได้รับแจ้งว่าบ้านของเราหายวับไปแล้ว เราได้รับแจ้งว่าบ้านทุกหลังหายไปวับไปหมดแล้ว เพื่อนของเราก็ตาย”
“มันเป็นอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนรถไฟเหาะตีลังกา และเราก็ไม่รู้ว่าจะก้าวต่อไปข้างหน้ากันอย่างไร”มีการบันทึกไว้ว่าเกิดไฟป่ามากถึง 400 จุดทั่วรัฐวิกตอเรีย ในเหตุการณ์ไฟป่าแบล็ก แซทเทอร์เดย์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าโดยตรงถึง 173 ราย และอีก 7 รายเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการบาดเจ็บ
The bed and breakfast before the fires. Source: Supplied
มีบ้านเรือนกว่า 2,000 แห่งถูกไฟป่าเผาทำลาย ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากไม่มีที่อยู่
“ไม่กี่วันต่อมา เรากำลังดูโทรทัศน์อยู่… สามีของฉันและฉันมองหน้ากัน แล้วบอกว่า ‘พระเจ้าช่วย คนพวกนั้นน่าสงสารเสียจริง คิดดูสิว่าพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง’ แล้วก็มีใครคนหนึ่งหันมาบอกกับฉันว่า ‘แต่นั่นมันบ้านของคุณนะ’ ” คุณคริสติน อดัมส์ เล่า
ไฟป่าได้เผาผลาญทุกสิ่งที่เธอและสามีเป็นเจ้าของ
เมื่อในที่สุด พวกเขาได้ไปเห็นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของธุรกิจของพวกเขา เคนและคริสตินรู้สึกอยากจะย้ายไปที่อื่น แต่ก็กลับเลือกที่จะอยู่ต่อ และซื้อธุรกิจคาราวาน พาร์กคาราวาน พาร์ก ดังกล่าวนั้นถูกไฟป่าเผาทำลายไปหมดเช่นกัน แต่ภายในไม่กี่เดือนพวกเขาก็เริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่
This former bed and breakfast was among more than 3,500 properties destroyed by the fires. Source: Supplied
“มันใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี กว่าเราจะเริ่มถามตัวเองว่า เรามีความสุขดีที่นี่หรือปล่า มันใช้เวลานานมา มันยากลำบากมาก ที่จะพยายามสร้างอะไรขึ้นมาใหม่อีกครั้ง” คุณคริสติน แสดงความรู้สึก
ทั้งคู่ต้องดิ้นรนสู้กับปัญหา และเกือบขายธุรกิจใหม่ของพวกเขาไปแล้ว แต่ความรักที่พวกเขามีต่อเมืองนี้ และจิตสำนึกต่อชุมชนทำให้พวกเขาสู้ต่อไป
“เรารักเมืองแมรีส์วิลล์ เราเป็นส่วนหนึ่งของเมือง เราเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของเมือง และเราต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปได้”
สำหรับพวกเขา วันพฤหัสบดี ที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ จะเป็นที่แห่งการสะท้อนคิดถึงเหตุการณ์อย่างเงียบๆ กับเพื่อนสนิท
“เราไม่จำเป็นต้องมีพิธีรำลึกเหตุการณ์เพื่อย้อนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เราไม่จำเป็นต้องมีพิธีรำลึกเหตุการณ์ เพื่อระลึกถึงเพื่อนฝูงที่เราสูญเสีย นั่นเกิดขึ้นตลอดเวลา” คุณคริสติน กล่าว
“เราแค่ต้องพยายามก้าวต่อไปจากตรงนั้นให้ได้”
ความรักและความสูญเสีย
ลาคแลน เฟรเซอร์ ทำงานเป็นแพทย์ทั่วไปในเมืองแมรีส์วิลล์ เขาสูญเสียบ้านและคลินิกของเขาไปในเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนั้น
เขายังจำได้ดีว่า เห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในบ่ายวันนั้น แต่ไม่ตระหนักว่าไฟป่าเกิดขึ้นใกล้บ้านของเขามากเพียงไร
จนกระทั่งราว 18.30 น. เขาเริ่มรู้ตัวว่า เขากำลังตกที่นั่งลำบากแล้ว“มีสะเก็ดที่คุกรุ่นจากไฟป่าขนาดมหึมามากมาย มีควันไฟที่ทำเราหายใจไม่ออก ระยะการมองเห็นก็ต่ำมาก” เขาบอกกับ เอสบีเอส นิวส์
GP Lachlan Fraser lost his home and clinic in the fires. Source: Gloria Kalache/SBS News
“ภายในไม่กี่นาที บ้านของเพื่อนบ้านหลังหนึ่งก็ถูกไฟเผาราบเป็นหน้ากลอง จากนั้นเป็นบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างหลัง บ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ด้านข้าง แล้วจากนั้น ก็มีลูกไฟขนาดใหญ่จากบ้านเพื่อนบ้านมาตกลงที่บ้านของผม”
“มันจบแล้ว ผมจึงพาสุนัขของผมออกมา แล้วบอกกับพวกมันว่า ‘เราจะต้องมีชีวิตรอดให้ได้’”
นายแพทย์เฟรเซอร์ จึงมุ่งหน้าไปยังลานกว้าง ที่ชื่อว่ากัลป์ลิโพลี โอวัล ซึ่งที่นั่น เขาและคนอื่นๆ หลายคนค้างคืน และได้ยินเสียงถึงแก๊สระเบิด และได้เห็นต้นไม้ต่างๆ ลุกไหม้
เขาหนีออกมาได้ พร้อมกับสิ่งมีค่าไม่กี่ชิ้น แต่สูญเสียทุกอย่างที่เหลือ แต่โชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่ นายแพทย์เฟรเซอร์ กล่าวหลังเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนั้น เขากระตือรือร้นที่จะช่วยนำนักท่องเที่ยวกับไปยังแมรีส์วิลล์อีกครั้ง นายแพทย์ผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งออกกำลังกาย จึงได้จัดการวิ่งมาราธอนการกุศลขึ้น ซึ่งนำพาให้เขาได้พบกับ คาสซานดรา ผู้ที่ต่อมากลายเป็นภรรยาของเขา
Dr Fraser's house was destroyed in the fires. Source: Dr Fraser's house
“ผมคิดว่าสำหรับคนจำนวนมากที่มีส่วนข้องเกี่ยวกับเหตุไฟป่าครั้งนั้น มันจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดเพียงเหตุการณ์เหตุการณ์เดียวในชีวิตของพวกเขา ใหญ่กว่าการเกิด การตาย การแต่งงานเสียอีก แต่อย่างน้อย ผมได้มากกว่าหนึ่งเหตุการณ์จากมัน” นายแพทย์เฟรเซอร์ ระบุ
ไม่ใช่ทุกคนที่ตัดสินใจอาศัยอยู่ในแมรีส์วิลล์ต่อไป เนื่องจากความทรงจำที่อาจยังฝังใจอยู่มาก
นายแพทย์เฟรเซอร์ สร้างบ้านของเขาขึ้นมาใหม่ และทำบ้านให้เป็นที่พักเกสต์เฮาส์ เพื่อที่เขาจะได้สามารถมีความผูกพันกับชุมชนต่อไป เขาทำสวนเองที่บ้านของเขา และยังคงรักษาคนไข้ในเมืองแมรีส์วิลล์
“ผมคงต้องถูกเล่นงานแน่ หากผมได้ตัดสินใจที่จะไม่กลับมายังแมรีส์วิลล์แล้ว คนรู้จักผมดีที่นี่ และผมช่วยเหลือในการจัดประชุมฟื้นฟูชุมชน และมันเป็นบ้านของผม” นายแพทย์เฟรเซอร์ กล่าว
ก่อนวันครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์ไฟป่าแบล็ก แซทเทอร์เดย์ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เขากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทุกคนจะต้องเล็งเห็นถึงความไม่ย่อท้อของชุมชนเมืองแมรีส์วิลล์
“มันกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้ง ภายใน 2-3 ปีแรกหลังเหตุการณ์ และมันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลียทีเดียว”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
พายุไฟ: ร่างอวตารที่ร้ายกาจที่สุดของไฟป่า
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เผยรายงานการไต่สวนฯ ธนาคารฉบับบริบูรณ์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?