หน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าของแมวในออสเตรเลีย

เลี้ยงแมวของคุณไว้ในบ้าน ช่วยให้สัตว์ป่าปลอดภัย

เอสบีเอส ไทย

View Podcast Series

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

หากคุณเลี้ยงแมวหรือกำลังมองหาแมวมาเลี้ยง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนและทราบความรับผิดชอบที่คุณมีเพื่อให้แมวของคุณปลอดภัยรวมถึงสัตว์พื้นเมืองต่างๆ ด้วย

Key Points

ในออสเตรเลียอาจมีแมวมากกว่า 5.3 ล้านตัวโดยประมาณ
นักวิจัยคาดการณ์ว่าแมว 1ตัว ที่ถูกปล่อยให้ออกไปเที่ยว จะฆ่าสัตว์ประมาณ 186 ตัวต่อปี
เจ้าของแมวมีความรับผิดชอบที่ต้องเลี้ยงแมวภายในบ้าน
ติดต่อเทศบาลของคุณหรืออ่านในเว็บไซต์เพื่อขอข้อมูลในการเลี้ยงแมว

กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยม มันเป็นทั้งเพื่อนและการเลี้ยงแมวมีข้อดีมากมายกับสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตามในออสเตรเลีย แมวที่เลี้ยงไว้และปล่อยให้มันเพ่นพ่าน มันมีสัญชาตญาณนักล่าทำให้เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าพื้นเมือง นอกจากนั้นธรรมชาติของแมวที่รักอิสระทำให้พวกมันเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ เช่น จากอุบัติเหตุทางรถยนต์และจากการต่อสู้กับแมวด้วยกันเอง

เรามีรายละเอียดว่าคุณจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้างหากจะเลี้ยงแมวในออสเตรเลีย และทำไมสิ่งเหล่านี้จึงสำคัญต่อความปลอดภัยของแมวที่เราเลี้ยงและรวมถึงสัตว์ป่าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียด้วย

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของโลกหรือในวัฒนธรรมยุคใดในประวัติศาสตร์ เช่นแมวเป็นสัตว์ที่ได้รับการนับถือในตำนานอียิปต์ หรือแม้กระทั่งในวัฒนธรรมสมัยนิยมผ่านตัวละครที่โด่งดังอย่างการ์ฟิลด์แมวการ์ตูนจอมขี้เกียจชาวอเมริกัน ไปจนถึงปรากฏการณ์การออกแบบการ์ตูนเฮลโลคิตตีในญี่ปุ่นที่แพร่หลาย

นอกจากแอนตาร์กติกาแล้ว ออสเตรเลียยังเป็นทวีปเดียวในโลกที่ไม่มีแมวพันธุ์พื้นเมือง แต่อย่างไรก็ตาม 1 ใน 3 ของครัวเรือนในออสเตรเลียมีแมวเป็นสัตว์เลี้ยง ในออสเตรเลียอาจมีแมวมากกว่า 5.3 ล้านตัวโดยประมาณ

ในฐานะนักล่าโดยกำเนิด แมวที่ถูกเลี้ยงไว้นอกบ้านในออสเตรเลียเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ป่าพื้นเมือง รวมทั้งนก กิ้งก่า และกบที่พบได้ทั่วไปในสวนแถบชานเมือง นักวิจัยคาดการณ์ว่าแมว 1ตัว ที่ถูกปล่อยให้ออกไปเที่ยว จะฆ่าสัตว์ประมาณ 186 ตัวต่อปี โดยที่เจ้าของมักไม่ได้สังเกตเห็น

นอกจากผลกระทบที่แมวมีต่อสัตว์ป่าในออสเตรเลียแล้ว แมวจรจัดหลายล้านตัวยังเดินเที่ยวไปทั่วออสเตรเลียอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ซาราห์ เลกจ์ ศาสตราจารย์ด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่มหาวิทยาลัย Charles Darwin University และเป็นสมาชิกสภาความหลากหลายทางชีวภาพ เธอทำงานเกี่ยวกับประเด็นการอนุรักษ์ในออสเตรเลียตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการศึกษาผลกระทบของแมวที่มีต่อสัตว์ป่า

ศาสตราจารย์ เลกจ์ อธิบายความแตกต่างระหว่างแมวเลี้ยงกับแมวจรจัดว่า

"ทุกคนคุ้นเคยกับแมวเลี้ยงที่มีเจ้าของและดูแล แต่ในออสเตรเลียเราก็มีแมวจรจัดด้วย และเป็นแมวที่มีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องพึ่งคน ดังนั้นแมวจรจัดส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ในป่าห่างไกลจากเมือง แต่ก็มีแมวจรจัดบางส่วนที่อาศัยอยู่ทั้งในเมืองและนอกเมือง หรือระหว่างชายขอบเมือง และแมวที่มีนิสัยดุร้ายเหล่านั้นนั้นบางครั้งเรียกว่าแมวจรจัด"

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนที่น่ารักของมนุษย์

แมวเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สัตว์พื้นเมืองลดจำนวนลง

ศาสตราจารย์ เลกจ์ กล่าาว่า

“แมวเข้ามาในออสเตรเลียครั้งแรกจากกองเรือชุดแรกจากอังกฤษหรือ First Fleet ในปี 1788 จากนั้นก็แพร่ไปยังสถานที่อื่น ๆ รวมทั้งเพิร์ทและโฮบาร์ต ต่อจากนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปอย่างรวดเร็ว แมวจรจัดเป็นตัวการหลักของการสูญพันธุ์ของสัตว์สัตว์พื้นเมืองที่เลี้ยงลูกด้วยนมและแมวพื้นเมืองกว่า 20 ชนิด และในปัจจุบันสัตว์เหล่านี้ยังคงมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ”

หากเรารวบรวมผลกระทบของแมวเลี้ยงและแมวจรจัดที่มีต่อสัตว์ป่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียแล้ว จะเห็นว่า ทุกๆ วันแมวได้ฆ่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 3.1 ล้านตัว สัตว์เลื้อยคลาน 1.8 ล้านตัว และนก 1.3 ล้านตัว

เมื่ออ้างอิงตามที่ศาสตราจารย์ เลกจ์ ระบุ มันน่าประหลาดใจมากที่แมวเป็นนักล่าที่อันตรายและอาจส่งผลต่อจุดจบของสัตว์ป่าพื้นเมืองชนิดอื่นๆ ซึ่งศาสตราจารย์ เลกจ์ ขยายความในเรื่องนี้ว่า

“ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและรวมถึงอีกหลายทศวรรษข้างหน้าเราจะเห็นการสูญพันธุ์ของสัตว์สายพันธุ์พื้นเมืองออสเตรเลียมากขึ้น หากเราไม่มีแผนการควบคุมแมวอย่างรัดกุม เรารู้ว่าแมวจรจัดเป็นตัวปัญหา แต่ในความเป็นจริงแล้วแมวที่เลี้ยงไว้ก็สามารถส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าได้เช่นกัน เพราะแม้ว่าพวกมันจะถูกเลี้ยงโดยเจ้า แต่แมวส่วนใหญ่ก็ได้รับอนุญาตให้ออกไปเดินเล่นข้างนอก และยังล่าเหยื่อได้ ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของแมวที่ต้องออกล่า โดยเฉลี่ยแมวเลี้ยงจะคาบสัตว์ที่มันฆ่ากลับบ้าน 1 ตัวจากจำนวน 5 ตัว หรือแมวเลี้ยงบางตัวก็ไม่เคยคาบสัตว์ที่มันฆ่ากลับบ้านเลย”

รูปแมวจรจัดที่พบในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

หน้าที่ของเจ้าของแมว

ศาสตราจารย์ เลกจ์ กล่าวว่ามีหลักการต่างๆ ที่เจ้าของแมวทุกคนสามารถทำได้ เพื่อช่วยให้แมวที่เลี้ยงและรวมถึงสัตว์ป่าปลอดภัยด้วย เธอชี้ว่า

"วิธีที่ดีที่สุดในการลดผลกระทบของแมวเลี้ยงต่อสัตว์ป่าคือการฝึกความรับผิดชอบของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง นั่นหมายความว่า คุณต้องลงทะเบียนและฝังไมโครชิป แมวของคุณ เพื่อที่ว่าหากมันหลุดออกไป จะสามารถส่งคืนให้คุณได้อย่างรวดเร็ว ประการที่ 2 คือ การทำหมันแมว เพราะคือการหยุดการแพร่จำนวนแมวที่ไม่พึงประสงค์ และประการที่ 3 ให้แมวของคุณอยู่ในบ้านหรือเลี้ยงข้างนอกที่มีรั้วรอบขอบชิด”

การเลี้ยงแมวในบ้านช่วยให้สัตว์ป่าในท้องถิ่นสามารถเติบโตและขยายพันธุ์ได้ การเป็นเจ้าของแมวที่มีความรับผิดชอบมีประโยชน์อีกมากมาย ศาสตราจารย์ เลกจ์ ยกตัวอย่างว่า

"ถ้าคุณทำสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่เพียงแต่คุณจะปกป้องสัตว์ป่าให้ปลอดภัยจากแมวของคุณเท่านั้น คุณยังทำให้แมวของคุณปลอดภัยจากภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข รถ และโรคต่างๆ

ตลอดจนความเสี่ยงอื่นๆ ที่แมวต้องเผชิญหากพวกมันออกเตร็ดเตร่ ”

ผลกระทบที่แมวเลี้ยงในออสเตรเลียมีต่อสัตว์ป่า คาดว่าในออสเตรเลียมีแมวประมาณ 5.3 ล้านตัว

กฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวที่คุณควรรู้

กฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ที่ไหนในออสเตรเลีย ศาสตราจารย์ เลกจ์ อธิบายว่า

"กฎหมายเกี่ยวกับการจัดการแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ และกฎหมายนี้ดำเนินการโดยรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกกฎหมายพิเศษของตนเองได้ด้วย เช่น พวกเขาอาจจะกำหนดว่า แมวทุกตัว ในพื้นที่ท้องถิ่นต้องทำหมัน หรือแมวทุกตัวในพื้นที่นั้นจำเป็นต้องเลี้ยงในบ้านดังนั้นกฎหมายการเลี้ยงแมวจึงแตกต่างกันไปตามสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่”

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ เลกจ์ แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายในพื้นที่ของคุณคือการไปค้นคว้าที่เว็บไซต์ของเทศบาลของคุณ

ซึ่งเทศบาลหลายแห่งได้มีงบสนับสนุนโครงการทำหมันหรือฝังไมโครชิปแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีความรับผิดชอบ

ศาสตราจารย์ เลกจ์ กล่าวว่าการเป็นเจ้าของแมวที่มีความรับผิดชอบทำให้เรามีความสุขความสบายใจหลายข้อ ศาสตราจารย์ ซาราห์ เลกจ์ สรุปว่า

"หากเราทุกคนสามารถนำแนวทางปฏิบัติในการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบมาใช้ นั่นก็หมายความว่าเราจะสามารถมีความสุขกับแมวที่เราเลี้ยงได้ เพราะพวกมันเป็นเพื่อนที่น่ารัก และในขณะเดียวกัน เราก็สามารถชมนกกระจิบนางฟ้า กิ้งก่าตัวน้อย และสัตว์ป่าพื้นเมืองอื่นๆ ทั้งหมดที่อยู่ในสวนของเราได้ด้วย"

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบในการเป็นเจ้าของแมว สามารถตรวจเชคได้ที่เว็บไซต์ของเทศบาลในท้องถิ่นของคุณและตามลิงค์ด้านล่างนี้