จะกู้เงินซื้อบ้านอย่างไรในออสเตรเลีย

NEWS: หากคุณกำลังคิดจะซื้อบ้าน ความจริงคือขณะนี้กำลังยากยิ่งขึ้นที่จะได้รับอนุมัติกู้เงินซื้อบ้าน

You can read the full article in English

องค์กรออสเตรเลียน พรูเดนเชียล เรกูเลชัน ออทอริตี หรือ อาพรา (APRA) ระบุว่ามูลค่ารวมของเงินกู้เพื่อการซื้อบ้านซึ่งได้รับอนุมัติในไตรมาสเดือนธันวาคมนั้น ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

การซื้อบ้านในออสเตรเลีย และการขอเงินกู้เพื่อซื้อบ้านนั้นอาจเป็นเรื่องยากลำบาก

โบรกเกอร์

คณะกรรมาธิการไต่สวนหาความจริงสาธารณะด้านการธนาคารเพ่งเล็งการทำงานธนาคารและมอร์ต์เกจโบรกเกอร์ โดยแนะนำรูปแบบการจ่ายค่าบริการเพื่อได้รับบริการ ซึ่งหมายความว่า มอร์ต์เกจโบรกเกอร์ หรือโบรกเกอร์หาเงินกู้ซื้อบ้าน ควรได้รับค่าบริการจากผู้ขอกู้เงิน ไม่ใช่จากธนาคาร

คุณพอล พาพพาส มอร์ต์เกจโบรกเกอร์ ผู้หนึ่งกล่าวเรื่องนี้ว่า “ผมไม่ควาดหวังให้ลูกค้าของเราจ่ายค่าบริการให้เรา พวกเขาจำนวนมากไม่จ่าย ดังนั้น สิ่งที่เราทำคือเพิ่มต้นทุนของการกู้ยืมเข้าไป ผู้กู้เงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรกจะได้รับผลกระทบมากที่สุด พวกเขามีงบประมาณที่จำกัดอยู้แล้ว พวกเขามีเงินดาวน์ที่จำกัดเช่นกัน” คุณพาพพาส บอกกับ เอสบีเอส นิวส์

ทั้งรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว ถึงแม้ว่าในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง เทรล คอมมิสชัน หรือค่าบริการที่ผู้ให้กู้ (ธนาคาร) จ่ายให้แก่มอร์ต์เกจโบรกเกอร์ที่หาลูกค้ามาให้ ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม เงินกู้ซื้อบ้านร้อยละ 60 เป็นเงินกู้ที่มอร์ต์เกจโบรกเกอร์สมัครให้ลูกค้า

คุณสตีฟ มิกเคนเบกเคอร์ จากเว็บไซต์ Canstar ซึ่งเปรียบเทียบเงินกู้ซื้อบ้าน กล่าวว่า ขณะที่มอร์ต์เกจโบรกเกอร์สามารถเปรียบเทียบเงินกู้ซื้อบ้านแบบต่างๆ และอัตราดอกเบี้ยจากผู้ให้กู้ที่หลากหลายได้ แต่ก็มีข้อเสีย

“พวกเขาไม่ได้มีเงินกู้ทุกอย่างในตลาดให้เลือก และพวกเขาจะมีแค่ที่อยู่ในรายชื่อที่พวกเขารับรองเท่านั้น ดังนั้น จึงอาจมีเงินกู้ซื้อบ้านที่ดีกว่าในตลาด ซึ่งพวกเขาอาจไม่ได้มีอยู่ในรายชื่อ”

เขากล่าวว่า ขณะที่ธนาคารจะขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของตนเท่านั้น แต่มีข้อดีบางอย่าง

“มีข้อได้เปรียบของการมีทุกอย่างรวมไว้ในที่เดียว และพวกเขามีระบบทำธุรกรรมออนไลน์ที่ดีเยี่ยม มีงบดุลแสดงสถานะทางการเงินส่วนบุคคลให้คุณได้ดูว่า คุณเป็นหนี้อยู่เท่าไร คุณจ่ายหนี้ไปแล้วเท่าไร”

แต่คุณมิกเคนเบกเคอร์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ให้กู้กำลังอนุมัติเงินกู้ให้ยากขึ้น

“พวกเขาเคยเพียงมาตรการที่วัดรายจ่ายโดยรวม แต่คณะกรรมาธิการบอกว่า นั่นยังไม่ดีพอ ต้องดูสถานการณ์ของแต่ละบุคคลด้วย ธนาคารจึงตีความหมายว่า ถ้างั้นต้องเข้มงวดในการให้กู้มากขึ้นอีก”

ผู้กู้เงิน

คุณพาพพาส กล่าวว่า ผู้ให้กู้กำลังพิจารณาดูรายจ่ายของผู้กู้เงินอย่างละเอียดถี่ยิบ

“แน่นอนว่าในด้านค่าใช้จ่ายในการครองชีพและดูนิสัยการใช้เงินบางอย่างของคุณด้วย พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจจากค่าใช้จ่ายในการครองชีพอย่างคร่าวๆ ของคุณอีกต่อไปแล้ว”

คุณสตีฟ มิกเคนเบกเคอร์ จาก Canstar กล่าวว่า นั่นหมายความว่า ผู้กู้ยืมเงินจำเป็นต้องสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าพวกเขามีความสามารถทางการเงินพอที่จะจ่ายเงินกู้นั้นได้หมด จึงจะอนุมัติเงินกู้ให้

“ทางที่ดีที่สุดที่จะทำได้คือ ให้มีแผนการออมเงินที่ทำประจำ เช่น ทุกๆ เดือนฉันจะออมเงินไว้เท่านี้ ทุกๆ เดือนฉันจะจ่ายค่าเช่าบ้านเท่านั้น และนั่นจะพิสูจน์ได้ว่าคุณมีวินัยและมีความปรารถนาที่จะชำระหนี้ของคุณ”
Residential housing in Sydney's west.
The ABS recorded a fall in home prices across the capital cities in the December quarter. (AAP) Source: AAP

เงินดาวน์

เขากล่าวว่ายังคงมีการอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านกันอยู่

“ตัวอย่างเช่น ผู้กู้เงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรก ไม่จำเป็นต้องวางเงินดาวน์บ้านร้อยละ 20 คุณสามารถมีเงินดาวน์ร้อยละ 5 ซึ่งยังคงทำได้ สำหรับนักลงทุน เงินดาวน์ร้อยละ 10 เรามีธนาคารที่ให้เงินกู้ร้อยละ 90 สำหรับนักลงทุน โดยเป็นเงินกู้แบบจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น”

ขณะที่ผู้ให้กู้บางแห่งให้กู้เงินโดยต้องการเงินดาวน์จำนวนไม่มากนัก แต่หากเงินดาวน์ที่ว่านั้นน้อยกว่าร้อยละ 20 ผู้กู้จะต้องจ่ายประกันเงินกู้ซื้อบ้านให้แก่ผู้ให้กู้ ซึ่งเป็นการปกป้องผู้ให้กู้ ในกรณีที่ผู้กู้ผิดสัญญาการชำระหนี้

การวางเงินดาวน์ต่ำ อาจหมายถึงอัตราการดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านที่สูงขึ้น โดยขึ้นอยู่กับประเภทของเงินกู้ที่คุณเลือก

การชำระเงินคืน

เงินกู้ที่จ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย (principal and interest loan) หมายความว่า เงินที่คุณผ่อนชำระนั้นครอบคลุมดอกเบี้ยและลดเงินต้นของคุณไปตลอดระยะเวลาที่กู้ยืมเงิน

เงินกู้ที่จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยอย่างเดียว (interest only loan) โดยมากมักให้กู้ยืมเป็นระยะเวลา 5-10 ปีเท่านั้น

อัตราดอกเบี้ยแบบขึ้นลง (variable rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับต้นทุนในการให้เงินกู้ของผู้ให้กู้ เช่น ต้นทุนในลักษณะการขายส่ง หรืออัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่กำหนดโดยธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย สำหรับอัตราดอกเบี้ยคงที่ (fixed rate) จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดระยะเวลาที่ตกลงกันไว้

คุณสตีฟ มิกเคนเบกเคอร์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะที่คุณจะเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยที่คุณจ่าย

“หากเงินกู้ของคุณไม่ให้อัตราดอกเบี้ยในระดับอย่างน้อยขึ้นต้นด้วยร้อยละ 3 แล้วละก็ แสดงว่าคุณกำลังจ่ายมากเกินไป”

ผู้ให้กู้ยืมเงินสามารถติดต่อธนาคาร หรือโบรกเกอร์หาเงินกู้ซื้อบ้าน หรือเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากเว็บไซต์เปรียบเทียบบริการต่างๆ เพื่อหาเงินกู้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น (29 มี.ค.) เอทริปเปิลซี ขอความเห็นจากผู้บริโภค ธุรกิจต่างๆ และองค์กรเพื่อชุมชน เกี่ยวกับร่างกฎระเบียบเรื่องสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ง่ายขึ้นในการที่จะขอข้อมูล และถ่ายโอนข้อมูลด้านการธนาคาร สำหรับการเปลี่ยนไปใช้บริการด้านการเงินจากผู้ให้บริการรายอื่น
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 1 April 2019 12:49pm
By Ricardo Goncalves
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends