รายการเอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพย้ายถิ่นฐานต่างไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างที่ว่าระบบวีซ่าคู่ครองของออสเตรเลียนั้นกำลังถูกฉกฉวยประโยชน์จากผู้อพยพย้ายถิ่น ที่จ้องจะหาหนทางง่ายๆ ที่จะได้เป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของออสเตรเลีย
ในรายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่โดยสถาบันการวิจัยประชากรแห่งออสเตรเลีย และตกเป็นข่าวในสื่อของออสเตรเลียหลายสำนักรวมทั้งหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ นายบ๊อบ เบอร์เรลล์ นักประชากรศาสตร์ กล่าวว่า ผู้ต้องการย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในออสเตรเลีย แต่ไม่สามารถได้สถานะผู้อยู่อาศัยถาวรได้จากวิธีอื่น กำลังแห่กันมาจนล้นระบบจากการสมัครวีซ่าคู่ครองหลอกๆ
ดร.เบอร์แรลล์ กล่าวว่า นั่นเป็นไปได้เนื่องจากออสเตรเลีย “มีกฎเกณฑ์สำหรับการมีสิทธิได้รับวีซ่าคู่ครองที่อ่อนที่สุดในโลกตะวันตก” และเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบให้เข้มงวดมากขึ้น
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
เกร็ดต้องรู้ห้าประการ ก่อนยื่นวีซ่าคู่ครองออสฯ
แต่คุณลิซ อัลเลน นักประชากรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียน ยูเนแนล ยูนิเวอร์ซิตี หรือเอเอ็นยู บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า “ไม่มีหลักฐานใดที่จะชี้ว่าระบบวีซ่าคู่ครองกำลังถูกใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์จากผู้สมัครขอวีซ่า เพื่อหลอกเอาสถานะผู้อยู่อาศัยถาวรจากรัฐบาลออสเตรเลีย”
“ความจริงแล้ว ในกระบวนการเพื่อพิสูจน์ความเป็นหุ้นส่วนชีวิตกันนั้นค่อนข้างเข้มงวด และมักต้องมีหลักฐานที่จะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเชื่อได้ว่าความเป็นหุ้นส่วนกันนั้นไม่เป็นไปตามแนวคิดเรื่องความสัมพันธ์ร่วมสมัย” ดร.อัลเลน ระบุ
ในการให้สัมภาษณ์กับ เอสบีเอส นิวส์ เมื่อคืนวันจันทร์ (29 ก.ค.) ดร.เบอร์เรลล์ บอกชัดเจนว่าผู้อยู่อาศัยถาวรในวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลีย มีสิทธิเป็นสปอนเซอร์ให้คู่ครองมาอยู่ในออสเตรเลียได้ และเขาไม่ต้องการท้าทายเรื่องนี้ แต่เขากล่าวว่าถึงว่าเวลาแล้วที่จะต้องมีกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวดว่าใครมีสิทธิได้วีซ่าคู่ครอง
“ผมไม่ได้อ้างว่าพวกเขากำลังใช้มันอย่างผิดวัตถุประสงค์ ผมแค่กำลังบอกว่าบทบัญญัติด้านวีซ่าคู่ครองนั้นอ่อนมาก มันให้โอกาสอย่างมากต่อผู้ต้องการย้ายถิ่นฐานได้มีทางเลือกที่จะขอวีซ่าคู่ครองได้ ซึ่งนั่นเป็นปัญหา” ดร.เบอร์เรลล์ ระบุ
เพิ่มอายุของผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ได้
ส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นนั้น ดร.เบอร์เรลล์ เสนอให้เพิ่มอายุของผู้ที่จะสปอนเซอร์คู่ครองได้ให้เป็น 21 ปี (ขณะนี้ 18 ปี) เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่าสปอนเซอร์จะสามารถให้การสนับสนุนคู่ครองได้โดยไม่ต้องอาศัยเงินทุนจากรัฐบาล และมีการยืนยันว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงต่อกันก่อนการสมัคร (ซึ่งเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วในตอนนนี้) และต้องยืนยันความสัมพันธ์อีกครั้งหลังสองปีผ่านไป
ขณะนี้นั้น ผู้อพยพย้ายถิ่นสามารถอาศัย ทำงาน และเรียนในออสเตรเลียได้ ขณะที่กำลังมีการพิจารณาใบสมัครขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของพวกเขา
เฟคกา (FECCA) องค์กรสูงสุดของประเทศที่เป็นตัวแทนชาวออสเตรเลียที่มีภูมิหลังจากหลากหลากภาษาและวัฒนธรรม ไม่เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่าระบบวีซ่าคู่ครองเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย
“มันไม่ถูกต้องที่จะกล่าวว่ากระบวนขอวีซ่าคู่ครองทั้งชั่วคราวและถาวรนั้นง่าย” คุณแมรี พาเทตโซส ประธานเฟคกา กล่าว
“กระบวนการสมัครนั้นเข้มงวด และเมื่อยื่นใบสมัครแล้ว ผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการรอการพิจารณา ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 75 ของการสมัคร วีซ่าประเภทนี้นั้นยังแพง และมีค่าวีซ่าเกือบ 8,000 ดอลลาร์สำหรับการสมัครด้วย”
ดร.อัลเลน กล่าวว่า ในหลายๆ กรณีนั้นกระบวนการสมัครขอวีซ่าคู่ครองนั้น “มีค่าใช้จ่ายสูง ใช้เวลานาน และบางครั้งก็ได้ผลที่ทำให้หัวใจสลาย” โดยเสริมว่าแม้การสมัครจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่รัฐบาลก็มีรายได้หลายพันดอลลาร์จากค่าสมัครวีซ่าดร.เบอร์เรลล์ ได้อ้างว่า 1 ใน 3 ของการสมัครขอวีซ่าคู่ครองทั้งหมดเกิดจาก ‘การอพยพย้ายถิ่นแบบลูกโซ่’ (chain migration) ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นกระบวนการที่ผู้อยู่อาศัยถาวรในออสเตรเลีย (ซึ่งโดยมากเป็นผู้มาอยู่ได้ไม่นาน และเกิดในเอเชีย) เดินทางไปยังประเทศบ้านเกิดเพื่อเลือกคู่ครองให้มาอยู่ด้วยในออสเตรเลีย แต่ดร.อัลเลน กล่าวว่านี่เป็นการพูดจาเกินจริงโดยมาจากความหวาดกลัวชาวต่างประเทศ
Dr Liz Allen said Australia's partner visa application process was costly, lengthy and often heartbreaking. Source: ANU
“ผลการค้นพบที่ระบุในรายงานนี้แทบจะไม่ให้หลักฐานหรือให้น้อยนิดเกี่ยวกับวิธีการรวบรวมข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างที่ไม่สมเหตุสมผลนี้” ดร.อัลเลน กล่าว
จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าระหว่างปีการเงิน 2017-2018 มีการอนุมัติวีซ่าคู่ครองไปแล้ว 39,799 วีซ่าในออสเตรเลีย โดยลดลงจาก 47,825 วีซ่าในปีก่อน
ดร.เบอร์เรลล์ ระบุว่า จากข้อมูลของเดือนมิถุนายน 2018 มีประชาชน 1.4 ล้านคนที่ถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลีย ซึ่งไม่รวมชาวนิวซีแลนด์
“เกือบทั้งหมดมีสิทธิได้วีซ่าผู้อยู่อาศัยถาวรในฐานะคู่ครอง หากพวกเขาสามารถหาผู้อยู่อาศัยถาวรที่ยินดีจะสปอนเซอร์พวกเขาได้” รายงานชี้
“สำหรับคู่ครองที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งกำลังอาศัยอยู่ในประเทศที่ประชาชนมีรายได้ต่ำ การได้วีซ่าคู่ครองของออสเตรเลียให้โอกาสมากอย่างที่พวกเขาจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการเข้าประเทศ นอกเสียจากค่าวีซ่า”
รายงานยังสรุปว่าผู้ใดที่อายุ 18 ปี ว่างงาน ได้รับเงินสวัสดิการ และกำลังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ตามทฤษฎีแล้วสามารถเป็นสปอนเซอร์วีซ่าคู่ครองให้แก่ผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานได้ ปราบใดที่พวกเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่แท้จริงต่อกันขณะที่ทั้ง ดร.อัลเลน และคุณพาเทตโซส ตระหนักดีว่าจำเป็นต้องมีการตรวจสอบที่รัดกุมในกระบวนการสมัครวีซ่า พวกเขาเห็นว่าการให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่ด้วยกันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ระบบการอพยพย้ายถิ่นฐานให้มีประสิทธิภาพ
ประชาชนที่มีภูมิหลังจากหลากหลายเชื้อชาติและภาษาในออสเตรเลีย Source: AAP Source: AAP
“เราต้องตระหนักว่าการให้ครอบครัวได้มาอยู่ด้วยกันเป็นส่วนสำคัญของโครงการอพยพย้ายถิ่นที่ประสบความสำเร็จ” คุณพาเทตโซส กล่าว
ดร.อัลเลน เสริมว่ากำลังมีความวิตกเกี่ยวกับการรอคอยวีซ่าคู่ครองที่กินเวลายาวนานและมีผู้สมัครรอคิวเป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอกล่าวว่าระยะเวลารอคอยเพิ่มขึ้นเนื่องจากการที่รัฐบาลมุ่งตัดลดจำนวนการรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ถาวรในออสเตรเลีย
เธอยังชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของคู่ครองที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในศาลอุทธรณ์คำตัดสินวีซ่าหลังวีซ่าถูกปฏิเสธ และผู้อยู่อาศันถาวรในออสเตรเลียหลายคนที่ต้องออกไปอาศัยอยู่ในประเทศอื่นเพื่อจะได้อยู่กับคู่ครองของพวกเขา
“มีการกล่าวกันว่ากระบวนการนั้นถูกจงใจทำให้ล่าช้า และบางครั้งก็ปฏิเสธใบสมัครไปเลย แทนที่จะได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน” ดร.อัลเลน ตั้งข้อสังเกต
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ถ้ามีวีซ่าคู่ครองและเผชิญความรุนแรงในครอบครัวควรทำอย่างไร?
พอดคาสต์ ซีรีย์: มองหลากอาชีพในออสเตรเลีย
หางานอย่างไรให้ได้งาน