‘กฎหมายนี้จะช่วยปกป้องพวกเขาได้’ เสียงของผู้สนับสนุนการห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย

Feeling lonely and vulnerable. Teenage girl covering her face and crying on a couch, while her mother stroking her on a head

เด็กผู้หญิงวัยรุ่นขณะเข้าปรึกษากับนักบำบัดทางจิต Source: Getty / Olga Rolenko/Getty Images

ร็อบ อีแวนส์ เสียลูกสาวไปเพราะโซเชียลมีเดีย เขาเห็นพ้องร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย ล่าสุดรัฐบาลออสเตรเลียเดินหน้าเสนอเข้ารัฐสภาปีนี้ หลายฝ่ายสนับสนุนกฎหมายนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนอาจไม่ได้ผลตามที่หวัง


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

คำเตือน พอดคาสต์นี้มีเรื่องราวของการฆ่าตัวตาย และโรคพฤติกรรมการกินผิดปกติ

ลิฟ อีแวนส์ มีบัญชีโซเชียลมีเดียครั้งแรก เมื่อเธออายุ 14 ปี

“มันเริ่มจากที่เธอถูกรังแกที่โรงเรียน และโซเชียลมีเดียทำให้เรื่องราวเลวร้ายขึ้น มันไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (cyber bullying) เรื่องราวเลวร้ายลงหลังจากที่เธอใช้โซเชียลมีเดีย มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ทางร่างกายของเธอ และเธอหาวิธีทำให้ดีขึ้นจากทางนั้น ท้ายที่สุด โซเชียลมีเดียทำให้เธอสามารถหาวิธีจบชีวิตของเธอเอง”
ร็อบบ์ อีแวนส์ เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนให้มีการจำกัดอายุผู้ใช้โซเชียลมีเดีย

“กฎหมายนี้จะช่วยปกป้องลิฟได้ ตอนนี้เธอไม่สามารถพูดได้แล้ว แต่ผมรู้ว่าเธอจะต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่เด็กวัยรุ่นผู้หญิงคนอื่น และผู้ที่ทรมานจากโรคพฤติกรรมการกินผิดปกติ โซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญมากกับเรื่องนั้น และมันแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับเด็ก ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ควรทำ”

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีซีกล่าวว่า หลายครอบครัวกังวลเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียทำร้ายเด็กๆ ของเรา และผมขอยุติเรื่องนี้ ผมได้พูดคุยกับพ่อแม่ ปู่ยาตายาย ลุงป้านาอา หลายพันคน พวกเขากังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ ในโลกออนไลน์ เช่นเดียวกับผม
นายกรัฐมนตรีอัลบานีซีกล่าว
Facebook changes
หน้าจอล็อกอินเข้าเฟซบุ๊ก Source: Pixabay / Pixabay/FirmBee CC0
ร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียจะถูกนำเสนอต่อรัฐสภาในปีนี้

หากกฎหมายผ่านการอนุมัติ จะมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น 12 เดือน โดยจะมีผลกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียนับตั้งแต่นั้น

สำนักงานคณะกรรมาธิการอีเซฟตีจะเป็นผู้ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายนี้ รวมถึงการกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมกับบริษัทโซเชียลมีเดียในการดำเนินการ

โดยคณะกรรมาธิการฯ จะสามารถควบคุมว่าจะห้ามอะไรบ้าง และตัดสินใจว่ากิจกรรมใดหรือแพลตฟอร์มใดที่มีความเสี่ยงต่ำหรือได้รับข้อยกเว้น

นายกรัฐมนตรีอัลบานีซีกล่าวว่าบริษัทโซเชียลมีเดียจะเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตามข้อห้ามดังกล่าว

“แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะต้องรับผิดชอบในการแสดงว่าพวกเขาดำเนินการเพื่อป้องกันการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเหมาะสม ความรับผิดชอบจะไม่ตกอยู่ที่ผู้ปกครองหรือเยาวชน และจะมีบทลงโทษสำหรับผู้ใช้”

ศาสตราจารย์ลิซา แม็กกิเวิร์น จากภาควิชาสารสนเทศวิทยา มหาวิทยาลัย RMIT กล่าวว่า ประสิทธิผลยังไม่ชัดเจน

“เราทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบอายุและพิสูจน์ว่าเราสามารถใช้แพลตฟอร์มได้ นั่นรวมถึง อาจมีการขออัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตนกับแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจมีการใช้ระบบทางเทคนิค ในบางกรณีมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการตรวจสอบใบหน้าและตัดสินอายุ แต่ส่วนมากเทคโนโลยีเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา”
The challenge of pandemic parenting
เด็กผู้หญิงวัยรุ่นนั่งอยู่บนเตียง Source: Getty / Getty Images
อย่างไรก็ตาม มีวิธีการหลบหลีกขั้นตอนเหล่านี้ได้

“มีวิธีง่ายๆ ในการหลบหลีกเรื่องนี้ เช่น เยาวชนสามารถใช้บัญชีของผู้อื่นจากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือจากมือถือของเพื่อนที่อายุเกินกำหนด และใช้บัญชีโซเชียลมีเดียได้ อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ VPN เพื่อหลอกระบบว่าคุณไม่ได้อยู่ในที่ที่มีขอบเขตอำนาจศาล แสร้งว่าคุณใช้บัญชีจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ออสเตรเลีย และสามารถสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียได้”

นายกรัฐมนตรีอัลบานีซียอมรับว่าไม่มีระบบใดที่สมบูรณ์แบบ

“เราไม่เถียงว่าการผ่านกฎหมายนี้จะสามารถแก้ไขทุกอย่างได้ในทันที เรามีกฎหมายห้ามประชาชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็ยังมีผู้ที่ฝ่าฝืน แต่กฎหมายจะกำหนดขอบเขตให้แก่สังคมของเรา และช่วยให้แน่ใจว่าเราจะได้ผลลัพธ์ที่ดี”
เดวิด โคลแมน โฆษกฝ่ายค้านสนับสนุนเรื่องนี้

“เรายินดีกับการประกาศร่างกฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ 16 ปี ของนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้สิ่งที่ควรทำ และเป็นสิ่งที่ปีเตอร์ ดัตตัน (ผู้นำฝ่ายค้าน) ได้ให้คำมั่นไว้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดังนั้นเรายินดีกับเรื่องนี้ เราต้องการแน่ใจว่ากฎหมายเข้มแข็งและไม่มีช่องโหว่ และกฎหมายจะปกป้องเด็กๆ ออสเตรเลียอย่างแท้จริง”

ด็อกเตอร์สเตฟานี เวสคอตต์ จากคณะศึกษาศาสตร์ วัฒนธรรม และสังคม มหาวิทยาลัยโมนาชเตือนว่าอาจมีผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์
สำหรับเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนจากชนกลุ่มน้อย โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับพวกเขา เป็นพื้นที่ที่พวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์ เข้าสังคม และสร้างตัวตนได้ ดังนั้นการห้ามเข้าพื้นที่โซเชียลมีเดียซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของพวกเขา และการสร้างความสัมพันธ์เหล่านั้น มีแนวโน้มที่จะสร้างผลเสียกับพวกเขา
ด็อกเตอร์เวสคอตต์กล่าว
หากเรื่องนี้กระทบกระเทือนจิตใจสำหรับคุณหรือคนที่คุณรู้จัก สามารถขอคำปรึกษาจาก Butterfly Foundation ได้ที่เบอร์ 1800 33 46 73

บริการให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพจิต 24 ชั่วโมง (Beyond Blue) 1300 224 636 หรือ

บริการสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาทางอารมณ์ 24 ชั่วโมง (Lifeline) โทร 13 11 14 หรือ 

บริการให้คำปรึกษาแก่ผู้เยาว์ 24 ชั่วโมง (Kids Helpline) โทร 1800 55 1800 หรือ 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share