ชาวออสเตรเลียได้รับคำเตือนว่าพวกเขากำลังทำให้ "ทั้งชุมชนมีความเสี่ยง" หลังจากที่ประเทศได้บันทึกฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ที่เลวร้ายที่สุดจนถึงปัจจุบัน
จนถึงขณะนี้ มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวน 352,782 รายในระบบเฝ้าระวังโรคที่ต้องแจ้งแห่งชาติในปีนี้
ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 จากตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน 289,133 รายในปีที่แล้ว
ฤดูไข้หวัดใหญ่ครั้งก่อนของออสเตรเลียคือในปี 2019 โดยมีรายงานผู้ป่วย 313,454 ราย
ดร. ร็อดนีย์ เพียร์ซ ประธาน Immunisation Coalition กล่าวว่าตัวเลขในปีนี้ควรเป็น "เสียงเตือน"
"ไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่แค่หวัดธรรมดาเท่านั้น แต่สามารถส่งผลร้ายแรงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยง" เขากล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร
"อย่างไรก็ตาม การสำรวจของเราบ่งชี้ว่าชาวออสเตรเลียจำนวนมากไม่สนใจและรู้สึกว่าการฉีดวัคซีนไม่จำเป็น
"สิ่งนี้ทำให้ทั้งชุมชนมีความเสี่ยง"
อัตราการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อยู่ในระดับต่ำสุดในระดับประเทศนับตั้งแต่การรายงานต่อ Australian Immunisation Register เริ่มเป็นข้อบังคับในปี 2021
ระหว่างวันที่ 1 มีนาคมถึง 6 ตุลาคมปีนี้ มีประชาชนในออสเตรเลีย 8,786,233 คนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 9,331,570 ครั้ง
การสำรวจประชาชน 25,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินการโดย Immunisation Coalition ในเดือนมีนาคมของปีนี้ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 54 เท่านั้นที่รู้สึกว่าไข้หวัดใหญ่เป็นโรคร้ายแรง
ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 55) กล่าวว่าพวกเขาไม่เห็นว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์หรือมีความสำคัญ และเชื่อผิดๆ ว่าเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (ร้อยละ 54) แม้ว่าฤดูกาลจะเริ่มในเดือนเมษายนก็ตาม
Immunisation Coalition กล่าวว่ารัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐจำเป็นต้องมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ไขอัตราการฉีดวัคซีนและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยลงทุนมากขึ้นในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและทรัพยากรสำหรับประชาชน
ควรให้ความสำคัญในการระบุผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้ปกครองของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้ใหญ่ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป ชาวอะบอริจินและชาวช่องแคบทอร์เรสที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะทางการแพทย์พิเศษ