LISTEN TO
เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวเรียกร้องปรับปรุงตำรวจ-ศาล
SBS Thai
17/05/202109:16
หญิงสาวที่เคยเผชิญกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัวออกมาเผยเรื่องราวของเธอเป็นครั้งแรก โดยใช้นามสมมุติว่า เจน
คุณเจนมีประสบการณ์ถูกทำร้ายโดยอดีตคู่ครองของเธอหลายครั้ง เธอเล่าว่าแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบสนองต่างกัน
"ประสบการณ์แจ้งตำรวจครั้งแรกของฉันเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนตอนที่โดนข่มขู่ ตอนนั้นอดีตแฟนของฉันขู่จะชกหน้าฉัน เขายกหมัดมาจ่อหน้าแล้ว ตำรวจเข้ามาดูแลค่อนข้างดีและเข้าอกเข้าใจทีเดียว สองสามเดือนต่อมาเขาลงมือทำร้ายฉันจริง ๆ ฉันเลยคิดได้แล้วแจ้งตำรวจให้เข้ามาช่วย เพราะไปต่อไม่ไหวแล้ว"
เธอบอกว่าไม่รู้สึกอุ่นใจหรือปลอดภัยกับแนวทางที่ตำรวจจัดการคดีของเธอรวมถึงกระบวนการทางกฎหมายที่ตามมา
"ตั้งแต่ตอนแรกที่ไปให้ปากคำกับตำรวจ ฉันรู้สึกเหมือนถูกข่ม รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบพฤติกรรมคุกคามหรือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ฉันกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชั้นศาล เพราะพวกเขามีข้อมูลไม่ครบถ้วน กังวลว่าจะมีใครอยู่ข้างฉันบ้างไหม ใครจะดูแลฉัน ฉันรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง คนบอกว่าฉันกังวลไม่เป็นเรื่อง แต่นี่มันเกี่ยวกับตัวฉัน มันคือความปลอดภัยของฉัน"
คุณเจนเล่าว่า เจ้าหน้าที่จัดการคดีของเธออย่างไม่กระจ่างชัดว่าฝ่ายไหนเป็นเหยื่อ ฝ่ายไหนคือผู้กระทำ
"ฉันคิดเอาเองว่าประสบการณ์กับตำรวจจะเหมือนตอนครั้งแรก ซึ่งห่างกันแค่ปีเดียว ครั้งนั้นตำรวจใจดี เอาใจใส่ เข้าอกเข้าใจ เป็นห่วงสวัสดิภาพของฉัน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย ถึงขั้นระบุตัวผิดด้วยซ้ำว่าใครเป็นผู้กระทำ ใครถูกกระทำ"
รายงานผลสำรวจฉบับใหม่พบว่า เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวจำนวนไม่น้อยเคยเจอประสบการณ์ลักษณะนี้
องค์กร Women's Safety NSW สอบถามผู้หญิง 59 คนที่เป็นเหยื่อความรุนแรงในครัวและเคยมีปฏิสัมพันธ์กับตำรวจและศาลคุณเฮลีย์ ฟอสเตอร์ (Hayley Foster) ประธานบริหารองค์กร Women's Safety NSW กล่าวว่า แม้ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นการปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผลสำรวจชี้ชัดว่าเหยื่อยังขาดความเชื่อมั่นว่าระบบจะช่วยเหลือพวกเขาได้
Source: Getty Images/SimonSkafar
"น่าเสียดายที่เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวที่เคยติดต่อตำรวจในรัฐนิวเซาท์เวลส์เกินครึ่งหนึ่งบอกว่า ไม่พอใจกับการตอบสนองของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งเกินครึ่งหนึ่งของเหยื่อยังกล่าวด้วยว่า ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นในประเด็นนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นความเข้าใจในพลวัตของความรุนแรงในครอบครัวและการบังคับควบคุม ดังนั้น ข้อเรียกร้องหลักของเราคือ เพิ่มการฝึกอบรมเฉพาะด้านทั้งสำหรับตำรวจ อัยการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการ เช่น ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีประเภทนี้"
นอกจากจัดฝึกอบรมเพิ่มขึ้นและพัฒนาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คุณฟอสเตอร์ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระกรณีตำรวจและศาลประพฤติมิชอบแทนที่จะให้สอบสวนกันเองต่อไป
อีกทั้งต้องการให้ยกเลิกนำตัวเหยื่อเข้าสู่กระบวนการถามค้าน (cross-examination) ขณะนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นเพียงรัฐเดียวในออสเตรเลียที่ยังคงอนุญาตกระบวนการนี้ โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนมาเสนอพยานหลักฐานในศาลปิด (closed court) เพื่อว่าผู้หญิงจะได้ไม่ต้องถูกบังคับให้ออกมาให้การต่อหน้าสาธารณชนและคนในชุมชนของเธอ
"มันเจ็บปวดมากถ้าคุณลุกขึ้นมาแสวงหาความยุติธรรม แล้วผู้พิพากษากลับบอกผู้ถูกกระทำรุนแรงว่า 'พวกคุณแย่พอกันทั้งคู่ ถ้าคุณแค่เลือกเดินออกมาวันนั้น เรื่องนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น' เราได้ฟังคำกล่าวประมาณนี้จากประสบการณ์ในกระบวนการศาลของผู้ถูกกระทำรุนแรง วันนี้เราจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในระบบบริการมีความเสมอต้นเสมอปลาย ให้ผู้พิพากษามีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้เหยื่อสามารถพึ่งพาระบบได้โดยปลอดภัย"
ด้านคุณเจนกล่าวว่า ควรส่งเสริมให้เข้าใจความรู้สึกของเหยื่อและตระหนักถึงผลกระทบต่อพวกเขามากกว่านี้
"เข้าใจกว้าง ๆ ว่าฉันไปอยู่ในจุดนั้นได้อย่างไร หวังว่าพวกเขาจะเข้าใจชัดเจนกว่านี้ถึงผลกระทบของความรุนแรงในครอบครัว ทำไมเหยื่อถึงนิ่งเงียบในห้องพิจารณาคดี ตอบคำถามไม่ได้ หรือจำเรื่องราวไม่ได้ ทำไมตกอยู่ในภาวะบอบช้ำเมื่อต้องให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันนึกว่าพวกเขาจะเข้าใจเรื่องความรุนแรงในครอบครัวมากกว่านี้ เพื่อนของอดีตแฟนฉันอยู่ในห้องพิจารณาคดีเปิดด้วย นั่นทำให้ฉันกลัว"
นอกจากนี้ เธอยังเห็นว่าควรเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ถูกกระทำรุนแรงเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล
"พอเขาถูกแจ้งข้อหา ตอนนั้นศาลออกคำสั่งคุ้มครองเหยื่อให้โดยอัตโนมัติ แต่นั่นก็เป็นการจัดการขั้นพื้นฐาน ฉันคิดว่าถ้ามีมาตรการความปลอดภัยเพิ่มอีกอย่างน้อยสักชั้นหนึ่้งจะช่วยให้อุ่นใจขึ้น เช่น อุปกรณ์เชื่อมต่อกับตำรวจอย่างที่เคยมีโครงการในรัฐวิกตอเรีย น่าจะช่วยให้ฉันรู้สึกปลอดภัยพอที่จะใช้ชีวิตในชุมชนและก้าวต่อไปได้"
สารคดีของสถานีโทรทัศน์เอสบีเอสชุด See What You Made Me Do ชมฟรีออนไลน์ทาง SBS on Demand
หากคุณหรือบุคคลอื่นตกอยู่ในอันตรายฉุกเฉิน โทร. 000
หากต้องการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวหรือการประทุษร้ายทางเพศ ติดต่อบริการ 1800RESPECT โทร. 1800 737 732 หรือ
Men’s Referral Service โทร. 1300 766 491หรือ (บริการปรึกษาทางโทรศัพท์สำหรับผู้ชายโดยไม่เปิดเผยชื่อและเป็นความลับ)
สายด่วนแห่งชาติแจ้งการกระทำทารุณและละเลยทอดทิ้งผู้พิการ โทร. 1800 880 052
ELDERHelp โทร. 1800 353 374
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลออสฯ ให้งบช่วยผู้ถือวีซ่าที่ประสบความรุนแรงในครอบครัว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ธุรกิจขนาดเล็กต้อนรับนโยบายเยียวยาภาษีในร่างงบฯ 2021