โรคระบาดชะลอแผนตั้งครรภ์ของชาวออสเตรเลีย

ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะชะลอการตั้งครรภ์ออกไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะชะลอการตั้งครรภ์ออกไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 Source: Getty Images/Moment RF

ผลกระทบจากสถานการณ์โควิดทำให้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยในออสเตรเลียตัดสินใจชะลอแผนการตั้งครรภ์ เนื่องจากรู้สึกไม่พร้อมทั้งในแง่การเงินและสภาวะอารมณ์ อีกทั้งครอบครัวยังมาช่วยสนับสนุนไม่ได้


LISTEN TO
Pandemic takes the blame for delaying pregnancies image

โรคระบาดชะลอแผนตั้งครรภ์ของชาวออสเตรเลีย

SBS Thai

30/08/202108:17
คุณแมดดี้ เพอร์วาซ (Madde Pervaz) และคุณทิม คู่ครองของเธอ ตั้งใจมาตลอดว่าอยากมีลูกขณะยังอายุน้อย

แผนของทั้งคู่ชัดเจนและตรงไปตรงมา แต่งงานตอนช่วงวัย 20 ปี ใช้เวลาร่วมกันสองคนสักพักหนึ่ง แล้วค่อยตั้งใจมีลูก

ทว่า แผนนี้ไม่ได้คาดการณ์เผื่อเกิดเหตุการณ์โรคระบาดใหญ่

คุณแมดดี้ วัย 28 ปี มาจากประเทศสวีเดน เธอวางแผนจัดงานแต่งงานในฝันที่เขตเซาท์โคสต์ (South Coast) ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่กลับต้องเผชิญกับโควิด-19 

ตอนนี้ เธอไม่อยากดึงดันจัดงานแต่งงาน หากครอบครัวของเธอที่ยุโรปมาร่วมงานด้วยไม่ได้

ข้อจำกัดด้านพรมแดนของออสเตรเลียขณะนี้ อนุญาตให้คู่สมรส คู่ครองโดยพฤตินัย (de facto partner) บุตรในอุปถัมภ์ และผู้ปกครองตามกฎหมายของพลเมืองออสเตรเลียและผู้อาศัยถาวรเดินทางเข้าออสเตรเลียได้ แต่ไม่อนุญาตสำหรับบิดามารดาและสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ
ทุกอย่างเพิ่งมาเปลี่ยนไปเพราะโควิด พอเอาเข้าจริงเราจัดงานแต่งงานไม่ได้ ส่วนตัวฉันไม่อยากแต่งงานโดยที่ไม่มีคนในครอบครัวอยู่ด้วย เราเริ่มคิดกันแล้วว่า อาจจะย้ายไปอังกฤษแทน คุณแมดดี้กล่าว
เธออธิบายว่า มาตรการปิดพรมแดนจากโควิดทำให้ทุกอย่างอยู่ในภาวะไม่แน่นอน จึงวางแผนย้ายออกจากออสเตรเลียหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

“ก่อนหน้านี้ หลายประเทศในยุโรปล็อกดาวน์ยาวนานกว่าที่ออสเตรเลียมาก แต่ฉันรู้สึกว่าความแตกต่างคือ พอพวกเขาเปิดเมืองแล้วก็สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ได้ ไปไหนมาไหนได้ ไปพบเจอผู้คนนอกประเทศของตัวเองได้ เรายังโชคดีที่ได้ใช้ชีวิตแบบไม่ถูกจำกัดมากนัก” คุณแมดดี้กล่าว

ตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาด การตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรอาจเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับหลายคนอยู่แล้ว

แต่เมื่อเข้าสู่ภาวะโรคระบาด การไปฝากครรภ์กับแพทย์จีพีหรือโรงพยาบาล รวมถึงคลอดบุตร มาพร้อมกับความเสี่ยงใหม่

แผนกหลังคลอดจำเป็นต้องจำกัดการเข้าเยี่ยมช่วงเกิดการระบาด หมายความว่า คุณแม่แรกคลอดอาจยิ่งโดดเดี่ยว รวมทั้งได้รับการสนับสนุนน้อยลง

สำหรับผู้หญิงที่เป็นผู้ย้ายถิ่นฐาน การที่ไม่สามารถพบหน้าครอบครัวในช่วงเวลาเปราะบางเช่นนี้นับเป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่ง

คุณแมดดี้เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ไม่ปรารถนามีลูกโดยไม่มีพ่อแม่คอยสนับสนุนอยู่ใกล้ ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่กี่เดือนก่อน คุณแมดดี้เพิ่งทราบว่าเธออาจต้องพึ่งพาการแพทย์เพื่อให้มีบุตรได้
เราไม่รู้ว่าจะได้แต่งงานเมื่อไรเพราะขึ้นอยู่กับมาตรการพรมแดน ดังนั้นเราเลยไม่รู้ว่าจะเริ่มมีลูกได้เมื่อไร เมื่อไม่กี่เดือนก่อนฉันเพิ่งทราบว่า ตัวฉันอาจไม่สามารถมีลูกได้ เลยยิ่งไม่อยากรอนานเกินไป แต่ก็ไม่อยากตั้งครรภ์โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย หรือไปหาพวกเขาไม่ได้ คุณแมดดี้กล่าว
สถาบันครอบครัวศึกษาแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Family Studies) พบว่า 1 ใน 5 ของผู้หญิงชาวออสเตรเลีย เปลี่ยนแผนมีบุตรเนื่องจากภาวะโรคระบาด

ผู้หญิง 1 ใน 7 คนระบุว่า โควิดอาจมีผลต่อการพิจารณาของพวกเธอว่าจะมีบุตรเมื่อใด  ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92 เลือกชะลอแผนการมีบุตร

รายงานการศึกษาหัวข้อ Families in Australia: Towards COVID Normal (ครอบครัวในออสเตรเลีย: มุ่งสู่ยุคโควิดนอร์มอล) เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจ 3,000 คน พบว่าผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 10 คนพยายามตั้งครรภ์ลูกคนแรกหรือมีลูกเพิ่มเติมช่วงก่อนโรคระบาด แต่ร้อยละ 18 ล้มเลิกความพยายามแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาวะโรคระบาดนี้เอง

นอกจากนี้ ความมั่นคงทางการเงินยังมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจมีบุตรของผู้หญิง ในบรรดาผู้ตอบแบบสำรวจที่ล้มเลิกความพยายามตั้งครรภ์ช่วงเกิดโรคระบาด ร้อยละ 62 สูญเสียอาชีพหรือถูกเลิกจ้างงาน

คุณแอนิกา ซาด (Anika Saad) จากนครซิดนีย์ คือหนึ่งในนั้น

คุณซาดกับสามีมีลูกสาวสองคน คนโตอายุ 4 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 1 ปี

ทั้งสองตั้งใจวางแผนมีลูกคนที่สาม จนกระทั่งคุณแซม สามีของเธอที่เป็นนักบินเที่ยวบินระหว่างประเทศ กลับต้องไม่มีงานทำ

“เขาใช้วันลาแบบไม่ได้ค่าจ้างมา 16 เดือนแล้ว และมองไม่เห็นว่าจะเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศอีกเมื่อไร เลยชัดเจนว่าปัจจัยการเงินเข้ามามีบทบาทตรงนี้ด้วย เราลำบากกับการหาเงินจ่ายค่าผ่อนบ้าน คงไม่ต่างกับหลายครอบครัว เราแค่โชคดีมากที่ยังมีเงินเก็บพอ แต่หลังจาก 16 เดือนที่ไม่มีรายได้หลัก เงินเก็บก็แทบหมดแล้ว” คุณแอนิกาเล่า

แม้ว่าคุณแซมจะพอมีงานแคชวลบ้าง คุณแอนิกาบอกว่านายจ้างหลายรายไม่สนใจจ้างคุณแซมเมื่อเห็นประวัติการทำงานของเขา เพราะเชื่อว่าเขาจะกลับไปบินทันทีที่ทำได้

คุณแอนิกากล่าวว่า เธอจะหางานบริการลูกค้าช่วงหลังจากนี้ แต่เงินเดือนเกือบทั้งหมดคงต้องใช้ไปกับค่าบริการรับเลี้ยงเด็กสำหรับลูกทั้งสองคน
เราอยากมีลูกคนที่สามในสถานการณ์แบบนี้หรือ ในเมื่อเราไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการเงินของเราจะเป็นอย่างไร เราจะอยู่ที่ไหน จะรักษาบ้านไว้ได้ไหม นี่จึงเป็นปัจจัยสำคัญ จริงอยู่ที่ตอนลูกยังแบเบาะยังมีค่าใช้จ่ายไม่มากนัก แต่กว่าจะเข้าโรงเรียนจนโตเป็นวัยรุ่นต้องใช้เงินเยอะมาก คุณแอนิกากล่าว
นอกจากภาระการเงินแล้ว สถานการณ์โรคระบาดยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเธอกับสามี รวมถึงสุขภาพจิตของเธอด้วย

ทางด้านคุณแมดดี้กับคุณทิม ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของพวกเขา หากปีหน้าพรมแดนยังไม่เปิด
ถ้าดูแล้วมาตรการพรมแดนหรือทุกอย่างที่นี่ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลง ฉันคิดว่าเราคงเริ่มวางแผนย้ายไปอังกฤษ แล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่นั่น คุณแมดดี้กล่าว
ทั้งคู่บอกว่าอยากสร้างครอบครัวที่ออสเตรเลียมากกว่า เพราะมีงานมีที่ลงหลักปักฐานแล้ว แต่ถึงอย่างไร สำหรับพวกเขาสายสัมพันธ์ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

การหลอกให้รักแล้วลวงเอาเงินพุ่งสูงช่วงโควิด


Share