เตรียมรับราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้น เมื่อการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตหมดลงเร็วๆ นี้

กังวลราคาน้ำมันจะสูงขึ้น

กังวลราคาน้ำมันจะสูงขึ้น

หนึ่งในมาตรการที่ช่วยบรรเทาวิกฤตค่าครองชีพสูงคือการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตลงครึ่งหนึ่งอย่างชั่วคราว แต่มาตรการนี้กำลังจะหมดเขต ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องเผชิญกับราคาน้ำมันแพงอีกครั้ง


5 เดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในออสเตรเลียลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการลดหย่อนภาษีสรรพสามิต โดยรัฐบาลกลางชุดก่อน ซึ่งลดอัตราภาษีสรรพสามิตจากปกติ 44.2 เซนต์ต่อลิตร เป็น 22.1 เซนต์

มาตรการนี้จะหมดเขตในวันที่ 28 กันยายน และรัฐบาลชุดใหม่จะไม่สานต่อ

คุณมาริออน เทอร์ริลล์ (Marion Terrill) จากสถาบันกรัททัน (Grattan Institute) กล่าวว่าราคาน้ำมันผันผวนเสมอ แม้ว่าจะไม่มีใครสังเกต
มันยากมากที่จะคาดเดา ปัจจัยหนึ่งของราคาน้ำมันคือมันค่อนข้างผันผวน เราสังเกตเห็นว่ามันราคาสูงมากในตอนนี้ แต่มันผันผวนเสมอ
คุณเทอร์ริลล์กล่าว
รัฐบาลกลางกล่าวว่าการลดหย่อนภาษีทำให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่าย 3 พันล้านดอลล่าร์ และนั่นเป็นงบประมาณที่ไม่สามารถประคองได้อีกต่อไป

คุณเทอร์ริลล์กล่าวว่าการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตรเป็นสิ่งสมเหตุสมผลในแง่ของการเก็บภาษี

“เพราะเราไม่มีการจัดเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon tax) ทำให้การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย สามารถลดการใช้รถได้เล็กน้อย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมภาษีสรรพสามิตเป็นการจัดเก็บภาษีที่ดี อีกประการหนึ่งคือ ถึงแม้ว่าเราจะหงุดหงิดและบ่นมัน แต่ประชาชนไม่มีปฏิกริยาตอบโต้กับราคาที่เปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนปริมาณเชื้อเพลิงที่พวกเขาใช้มากนัก ดังนั้นนักเศรษฐศาสตร์มักคิดว่าการลดภาษีเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ”

คำถามในใจของคนส่วนใหญ่ในขณะนี้คือจะเกิดอะไรขึ้นกับราคาน้ำมัน เมื่อมาตรการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตสิ้นสุดลง ด็อกเตอร์ลูเรียน เดอ เมลโล (Dr Lurian De Mello) อาจารย์ภาควิชาธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยแม็คควอรีกล่าวว่า

“หากราคาน้ำมันดิบยังคงต่ำกว่า $100 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ผมคิดว่าราคาน้ำมันจะยังคงต่ำอยู่ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือราคาน้ำมันดีเซล ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $2.20 หรือ $2.10 ประมาณ $2.30 ในบางปั๊มน้ำมัน หากราคาน้ำมันลดลง เรายังคงต้องการให้ราคาดีเซลลดลงด้วยเช่นกัน เพราะเราจะเติมน้ำมันในราคาที่ถูกลง ราคาดีเซลที่แพงจะส่งผลเสียต่อธุรกิจมากกว่า”
การเติมน้ำมัน
การเติมน้ำมัน Credit: Pexels/Skitterphoto
เพราะรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลส่วนมากอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน ในการนำสินค้าไปยังร้านต่างๆ และต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลไปยังราคาสินค้าและบริการที่สูงตาม

ด็อกเตอร์เดอ เมลโลกล่าวว่า นับว่าเป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในระยะยาว

“เราอาจพยายามจัดหาเสบียงให้มากขึ้น คุณต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่าออสเตรเลียนำเข้าเชื้อเพลิง 90 เปอร์เซ็นต์ เรากำลังพยายามสร้างคลังเก็บสินค้าหรือแปรโรงกลั่นเกล่าให้เป็นคลังเก็บน้ำมัน แต่เราไม่มีกำลังในการซื้อและเก็บเชื้อเพลิงเมื่อมันมีราคาถูก ข้อดีคือออสเตรเลียมีแหล่งซื้อที่หลากหลาย แม้ว่าเราจะมุ่งเน้นที่สิงคโปร์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย แต่มันก็กระจายออกไปเล็กน้อย เรายังคงซื้อจากสหรัฐอเมริกาในบางครั้ง และจากอินเดียเช่นกัน”

ด็อกเตอร์เดอ เมลโลกล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคสามารถทำได้คือการใช้แอปมือถือที่ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคา เพื่อพยายามหาข้อเสนอที่ดีที่สุด



คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share