การเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการย้ายถิ่นของออสเตรเลียทั้งนี้เพื่อที่จะทำให้ผู้ย้ายถิ่นสามารถเข้ามาทำงานเพื่อผลักดันระบบเศรษฐกิจของส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางด้านกระทรวงมหาดไทยก็กำลังทบทวนระเบียบการย้ายถิ่นและรับเรื่องการปรับปรุงกฏหมายนี้จากองค์กรต่างๆ
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลประชากรล่าสุดของรัฐบาล ก็มีความคิดเห็นหลายด้าน บางส่วนกล่าวว่ารัฐบาลต้องมีการจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนโดยจัดลำดับความสำคัญกับชุมชนส่วนภูมิภาคก่อนเพื่อแก้ปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจที่พื้นที่เหล่านี้กำลังเผชิญอยู่
คุณ คิม ฮอตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย ได้สรุปด้านบวกของพื้นที่ส่วนภูมิภาคของประเทศไว้ว่า
"การอยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนภูมิภาคมีด้านดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในเรื่องงานซึ่งมีตำแหน่งงานมากมายที่ต้องการคนทำงาน และยังเป็นการเติมเต็มด้านวัฒนธรรมให้แก่ชุมชนเหล่านั้นด้วย ประการสุดท้ายการเพิ่มประชากรผู้ย้ายถิ่นจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวในเรื่องประชากรของพื้นที่ส่วนภูมิภาคที่กำลังประสบอยู่"
สถาบันวิจัยพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียยังได้ตีพิมพ์โครงการ"ความมุ่งหวังของภูมิภาคนิยม 2032" โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้ส่วนแบ่งประชากรจากผู้ย้ายถิ่นเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 20 เป็นร้อยละ40 ในอีกสิบปีข้างหน้า คุณฮอตันย้ำว่าโครงการนี้สามารถที่จะทำให้ชุมชนส่วนภูมิภาคและผู้ย้ายถิ่นมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เขากล่าวว่า
"สำหรับคนที่ย้ายไปอยู่พื้นที่ห่างไกลต้องตระหนักว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกย้ายไปอยู่ที่นั่น ดังนั้นการทดลองไปอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เราได้ยินเรื่องราวการย้ายถิ่นระยะยาวที่ประสบความสำเร็จมากมายซึ่งมันเป็นการสานสัมพันธ์อย่างมั่นคงของผู้ย้ายถิ่นกับชุมชนต้นทาง ในทางกลับกันชุมชนก็ได้ประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์กับผู้ย้ายถิ่นเหล่านั้นด้วย"
ด้าน คุณ คอนสแตนติน พาซิโนส์ รองประธานสถาบันย้ายถิ่นแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่าการย้ายถิ่นฐานมีความสำคัญในการประกันความเติบโตอย่างมั่นคงของพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจส่วนภูมิภาค เขากล่าวว่า
"การย้ายถิ่นเป็นสิ่งที่ส่งเสริมภูมิภาคและประชากร ในเรื่องหลักๆ คือการทำให้เศรษฐกิจของศูนย์กลางเศรษฐกิจส่วนภูมิภาคและธุรกิจต่างๆ ดำเนินไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการเกษตรและการทำฟาร์ม ซึ่งพวกเขาต้องการแรงงาน พวกเขาต้องการคนที่อาศัยและทำงานในพื้นที่ ถ้าเมืองในชนบทเหล่านั้นมีประชากรไม่เพียงพอพวกเขาก็ไม่สามารถหาคนทำงานและไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และมันจะส่งผลต่อการขากแคลนผลผลิตในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ"
ภาคอุตสาหรกกรมการเกษตรส่วนภูมิภาคขาดแคลนแรงงานและต้องการแรงงานผู้ย้ายถิ่น Source: Facebook, Supplied / supplied/Facebook of Rajan Sharma
"มันเป็นการง่ายที่จะได้วีซ่ามาอาศัยในนครซิดนีย์ เมลเบิร์น หรือบริสเบน เมื่อเทียบกับ เมืองทูวูมบา หรือรัฐเซาท์ อสสเตรเลีย หรือที่อื่นๆ นอกเหนือจากเมืองใหญ่ 3 เมืองข้างต้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่านโยบายนี้น่าจะช่วยพื้นที่ส่วนภูมิภาคก่อนเมืองใหญ่"
ในปี 2022 มีรายงานว่าส่วนภูมิภาคออสเตรเลียมีตำแหน่งงานว่างเป็นประวัติการณ์ถึง 96,000 ตำแหน่ง คุณ มาร์ค เกรซบรูค ประธานบริหารองค์กร Migration Solutions ที่ทำการในรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย วิเคราะห์ว่า
"โดยประมาณการในขณะนี้มีผู้ย้ายถิ่นที่ย้ายมาทำงานที่คนพื้นที่ไม่ทำในรัฐ เซาท์ อสสเตรเลียกว่า 10,000 คน และนี่เป็นการสร้างงานใหม่กว่า 16,200 ตำแหน่ง และในทางกลับกันที่คนกว่า 10,000 คน ย้ายออกจากพื้นที่ส่วนภูมิภาคไปยังเมืองใหญ่เพราะเห็นว่าพวกเขาจะมีโอกาสในชีวิตดีกว่า และมันทำให้ส่วนภูมิภาคขากคนงาน 16,200 ตำแหน่งด้วยเช่นกัน"
พื้นที่ส่วนภูมิภาคมีตำแหน่งงานว่างหลายตำแหน่งสำหรับผู้ย้ายถิ่น Source: Getty / Getty Images
"เราต้องแน่ใจว่าเรามีคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งนั้นๆ และไม่ว่ามันจะมาจากการเพิ่มประชากรอย่างธรรมชาติที่เติบโต เรียน และทำงานที่นั่น แต่ถ้าเราไม่สามารถที่จะรอจำนวนประชากรในพื้นที่ได้ เราต้องอาศัยแรงงานทักษะจากต่างประเทศที่พวกเขาตกลงใจที่จะอยู่อาศัยและทำงานที่นั่น แต่ถ้าหากเราไม่สามารถหาคนทำงานในตำแหน่งงานที่ว่างเหล่านั้นได้ละก็ เราคงจะมองไม่เห็นอนาคต"
การทบทวนกฏระเบียบการย้ายถิ่นของกระทรวงมหาดไทยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งหลายฝ่ายหวังว่านโยบายในอนาคตจะมีการจัดการในเรื่องที่เป็นความเสี่ยงของพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้ดีมากขึ้น
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่