LISTEN TO
รัฐบาลออสฯ อาจไม่เพิ่มการประกันเงินซูเปอร์ให้ลูกจ้าง
SBS Thai
23/11/202006:57
เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ ที่ออสเตรเลียได้ทบทวนโครงสร้างระบบเงินบำนาญของประเทศ โดยรัฐบาลสหพันธรัฐได้ชะลอการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ในการเพิ่มระดับการจ่ายเงินเข้ากองทุนเงินซูเปอร์ของลูกจ้าง ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2021
มีรายงานความยาว 650 หน้า จากนายไมเคิล คัลลาแฮน (Michael Callaghan) อดีตผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และคณะกรรมการอาวุโสในหน่วยงานการคลังออสเตรเลีย ที่ได้เตือนว่า การเพิ่มอัตราจ่ายค่าตอบแทนเข้าสู่กองทุนเงินสะสมหลังเกษียณของลูกจ้าง อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของค่าจ้าง รวมถึงเป็นนโยบายที่ไม่เหมาะสม ในช่วงที่ระบบเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และราคาที่พักอาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้าน นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย กล่าวว่า อนาคตของผู้เกษียณนั้นยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก
“ระบบรายได้หลังเกษียณของออสเตรเลียนั้นยังมีความมั่นคง ยังยืน และมีประสิทธิภาพ มันได้รับการวางแผนไว้เป็นอย่างดีในการรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในสังคมของเรา” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว
การทบทวนโครงสร้างระบบเงินบำนาญที่มีรอคอยมายาวนานครั้งนี้ ได้กระตุ้นให้รัฐบาลสหพันธรัฐ ประเมินหลักเกณฑ์ในการเพิ่มอัตราจ่ายในโครงการประกันเงินสะสมหลังเกษียณ ที่กำลังมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้อีกครั้ง
“เช่นเดียวกับระบบที่มีความซับซ้อนอื่น ๆ ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถปรับปรุงได้ ข้อสังเกตต่าง ๆ ในรายงานฉบับนี้ รวมถึงการวิเคราะห์โดยละเอียด จะมีการนำไปใช้โดยรัฐบาลในการพิจารณาการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายในอนาคต” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว
ความล่าช้าในการกำหนดอัตราประกันการจ่ายค่าตอบแทนเข้ากองทุนเงินสะสมหลังเกษียณ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยฝ่ายค้าน และสหภาพแรงงาน
นายสตีเฟน โจนส์ (Stephen Jones) เลขาธิการโฆษกด้านการคลังของพรรคแรงงาน ได้ตำหนิรัฐบาลถึงความพยายามในการบ่อนทำลายระบบเงินบำนาญ และทำร้ายแรงงานที่ได้รับการจ่ายค่าแรงในระดับต่ำ
“หากคุณอายุ 25 ปี สิ่งนี้จะทำให้คุณต้องเสียเงินสะสมหลังเกษียณไปเป็นจำนวนถึง $100,000 ดอลลาร์ นั่นคือเหตุผลทั้งหมดที่ที่รัฐบาลควรดำเนินการตามแผนเพิ่มอัตราประกันเงินซูเปอร์ต่อไป” นายโจนส์ กล่าว
“หากเรายกเลิกแผนนี้ นั่นจะทำให้คนทำงานได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เราจะไม่ช่วยรัฐบาลในการทำผิดสัญญากับชาวออสเตรเลีย เราจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด และเรารู้ดีว่าเราได้รับการสนับสนุนจากชุมชนเป็นอย่างมากในเรื่องนั้น”
โดยเกณฑ์เพิ่มอัตราจ่ายเงินเข้ากองทุนเงินซูเปอร์ของลูกจ้าง จากร้อยละ 9.5 เป็นร้อยละ 10 นั้น จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2021 ก่อนที่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12 ภายในปี 2025
นางเคท คาร์เนล (Kate Carnell) จากผู้ตรวจการเพื่อธุรกิจขนาดเล็กและกิจการครอบครัวออสเตรเลีย (Australian Small Business and Family Enterprise Ombudsman) ได้ต้อนรับการตัดสินใจในการชะลอการเพิ่มอัตราจ่ายค่าตอบแทน เข้ากองทุนเงินซูเปอร์
“ดิฉันขอพูดให้ชัดเจนว่า ในตอนนี้ ธุรกิจขนาดเล็กกำลังประสบความยากลำบากอย่างมาก ซึ่งสารจากรัฐบาลนั้นจะทำให้พวกเขาต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น มันเป็นค่าใช้จ่ายใหม่” คุณคาร์เนลล์ กล่าว
“หากค่าใช้จ่ายต่อลูกจ้าง 1 คน เพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ $10 ดอลลาร์ นั่นคือ $10 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ที่ดิฉันไม่สามารถเพิ่มเป็นค่าจ้างให้พวกเขาได้ เงินไม่ได้ออกใบออกดอกเหมือนต้นไม้”
การทบทวนโครงสร้างเงินบำนาญในครั้งนี้ ได้แนะนำว่า ชาวออสเตรเลียควรเข้าถึงกองทุนในครอบครัว เพื่อสนับสนุนพวกเขาในวัยเกษียณ ขณะที่แนะนำให้มีการยกเลิกการลดหย่อยภาษีจากเงินสะสมหลังเกษียณสำหรับผู้ที่มีรายได้สูง
มีข้อมูลว่า ชาวออสเตรเลีย 16 ล้านคน มีเงินในกองทุนเงินสะสมหลังเกษียณมากกว่า $3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกองทุนเงินบำนาญที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยผู้ที่มีส่วนแบ่งในกองทุนเงินสะสมหลังเกษียณและได้รับการลดหย่อนภาษีมากที่สุดนั้น ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุชาวออสเตรเลียที่มีฐานะมั่งคั่ง
นางมิเชล โอนีล (Michael O’Neil) ประธานสหภาพหอการค้าออสเตรเลีย (The Australian Council of Trade Unions) ได้แสดงความกังวลถึงความไม่เสมอภาคของการเกษียณในผู้หญิง ผู้ที่มีภาวะความพิการ และสำหรับผู้คนทั่วไปที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
“สิ่งที่เรารู้ในวันนี้ก็คือ ผู้หญิงที่เกษียณอายุนั้น มีเงินสะสมหลังเกษียณเพียง 47% เมื่อเทียบกับผู้ชาย นี่เป็นปัญหาที่มีความเฉพาะทาง และหมายถึงการที่ผู้หญิงวัยทำงานจะไม่สามารถเกษียณอายุได้ และนั่นจะทำให้ทุกคนต้องทำงานต่อไป ทั้ง ๆ ที่ร่างกายและจิตใจโรยราลงไปแล้ว” นางโอนีล กล่าว
“นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายในประเทศอย่างออสเตรเลีย เรามีหลายอย่างที่เราโชคดี แต่เรากำลังบังคับให้ผู้คนต้องทำงานไปจนถึงวัย 70 ปี แทนที่พวกเขาจะได้ได้ใช้เวลาในช่วงบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุข และสิ่งนี้จะเป็นเรื่องเลวร้ายกับผู้ที่มีรายได้น้อยเช่นเดียวกับผู้หญิง”
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
NSW เผยแผนแบ่งที่กักตัวในโรงแรมให้นักเรียนต่างชาติ