รัฐบาลสั่งตรวจสอบจรรยาบรรณสำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตในออสเตรเลีย

COLES HALF YEAR RESULTS STOCK

บริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ในออสเตรเลียประกาศผลกำไรนับพันล้านดอลลาร์ในปี 2023 Source: AAP / JOEL CARRETT/AAPIMAGE

รัฐบาลออสเตรเลียสั่งให้มีการตรวจสอบภาคอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตของออสเตรเลีย ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ โก่งราคาสินค้า


เคร็ก เอเมอร์สัน อดีตรัฐมนตรีสหพันธรัฐของพรรคแรงงาน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำในการตรวจสอบภาคอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตของออสเตรเลีย ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ โก่งราคาสินค้า

มีความกังวลเกี่ยวกับความแตกต่างที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะระหว่างราคาที่ประชาชนจ่ายให้ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตกับราคาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจ่ายให้กับเกษตรกร

การตรวจสอบดังกล่าวจะพิจารณาจรรยาบรรณในการดําเนินธุรกิจขายของชำในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหลักการที่ควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างซัพพลายเออร์และร้านซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ

มีความกังวลเกี่ยวกับความแตกต่างที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะระหว่างราคาที่ประชาชนจ่ายให้ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตกับราคาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจ่ายให้กับเกษตรกร แม้ว่าบริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่จะประกาศผลกำไรนับพันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ก็ตาม

เดวิด ลิตเติลพราวด์ ผู้นำพรรคเนชันแนลส์ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระเรื่องการกำหนดราคาระหว่างเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตของออสเตรเลีย

เขากล่าวว่าในขณะที่วุฒิสภากำลังวางแผนที่จะพิจารณาเรื่องการตั้งราคาสินค้าของร้านซูเปอร์มาร์เก็ตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป แต่คณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคของออสเตรเลีย หรือ เอทริปเปิลซี (ACCC) อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าในการพิจารณาเรื่องความแตกต่างของราคาสินค้าที่จ่ายให้เกษตรกรและราคาที่นำไปขายต่อให้ผู้บริโภค
เมื่อคุณเห็นเกษตรกรผู้ปลูกซูกินี (zucchini) ได้รับเงิน 2.20 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม แต่ร้านขายที่ราคา 6.50 ดอลลาร์
เดวิด ลิตเติลพราวด์ ผู้นำพรรคเนชันแนลส์
"เมื่อเราเห็นราคาเนื้อแกะและเนื้อวัว (โดยทั่วไป) ลดลง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ราคากลับลดลงเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ตอนจ่ายเงินในซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อคุณเห็นเกษตรกรผู้ปลูกซูกินี (zucchini) ได้รับเงิน 2.20 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม แต่ร้านขายที่ราคา 6.50 ดอลลาร์ พวกเขากำลังกวาดกำไรและกวาดกำไรโดยให้เกษตรกรและผู้บริโภครับเคราะห์ สิ่งที่เรากำลังพูดคือเราเพียงต้องการราคาที่ยุติธรรมจากฟาร์มมาสู่ผู้บริโภคโดยให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม และคนที่ดูแลเรื่องนี้ควรเป็นเอทริปเปิลซี (ACCC)" นาย ลิตเติลพราวด์ กล่าว
ขณะนี้ รัฐบาลสหพันธรัฐได้ประกาศการตรวจสอบจรรยาบรรณในการดําเนินธุรกิจขายของชำในออสเตรเลีย ซึ่งจะนำโดย เคร็ก เอเมอร์สัน อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลสหพันธรัฐ

การตรวจสอบที่ว่าจะพิจารณาจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจที่ธุรกิจปฏิบัติตามโดยความสมัครใจ ซึ่ง อัลดี (Aldi) โคลส์ (Coles) วูลเวิร์ทส์ (Woolworths) และผู้ขายส่ง เมตแคช (Metcash) เป็นสมาชิกในขณะนี้และหลักจรรยาบรรณดังกล่าวระบุว่าผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งจะต้องกระทำโดยสุจริตเสมอต่อซัพพลายเออร์

แต่ เดวิด ลิตเติลพราวด์ ผู้นำพรรคเนชันแนลส์ กล่าวว่า หลักจรรยาบรรณควรเป็นหน้าที่ภาคบังคับ และบทลงโทษสำหรับการละเมิดกฎควรรุนแรงยิ่งขึ้น
นี่ควรเป็นจรรยาบรรณภาคบังคับ ไม่ใช่ทำตามความสมัครใจ เราเชื่อว่าบทลงโทษไม่ควรอยู่ในระดับที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็คือประมาณ 64,000 ดอลลาร์
เดวิด ลิตเติลพราวด์ ผู้นำพรรคเนชันแนลส์
bananas-698608_1280.jpg
Source: Pixabay / StockSnap
"พรรคเนชันแนลส์เชื่ออย่างเปิดเผยว่า นี่ควรเป็นจรรยาบรรณภาคบังคับ ไม่ใช่ทำตามความสมัครใจ เราเชื่อว่าบทลงโทษไม่ควรอยู่ในระดับที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็คือประมาณ 64,000 ดอลลาร์ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตก็แค่ดึงเงินออกมาจากเครื่องเก็บตังค์ของพวกเขาจากสาขาในซิดนีย์และเมลเบิร์นเพื่อจ่ายค่าปรับได้หากพวกเขาทำความผิด" นาย ลิตเติลพราวด์ ระบุ

ประเด็นเรื่องราคาสินค้าในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตและความสัมพันธ์ระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตกับลูกค้าจะไม่ได้เป็นประเด็นเฉพาะสำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ แต่ความกังวลในประเด็นเหล่านี้ยังคงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ

นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีซี กล่าวว่า การตรวจสอบหนึ่งในเป็นวิธีต่าง ๆ ที่รัฐบาลพยายามใช้ เพื่อลดราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต

เคร็ก เอเมอร์สัน กล่าวว่า ความสำเร็จหรือผลกำไรของซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้ถูกแบ่งปันไปยังซัพพลายเออร์ของพวกเขา

"ราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตดูได้กำไรค่อนข้างดี แต่คุณจะไม่สามารถบอกกับเกษตรกรได้ว่าผลกำไรของพวกเขาก็ดีอยู่แล้ว และถ้าถามผู้บริโภค ผมเองก็ไปซื้อของด้วยตัวเองมาเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าราคาสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง" นาย เอเมอร์สัน กล่าว

เขากล่าวว่าการตรวจสอบครั้งนี้จะระบุชี้ถึงสิ่งที่จำเป็นต้องแก้ไข

"หากเราไม่ทำอะไรเลย แม้แต่จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจที่ให้ปฏิบัติตามโดยความสมัครใจที่ใช้อยู่ก็จะหมดอายุในปี 2025 ดังนั้นจึงต้องมีสิ่งที่มาแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุหรือการปรับปรุง หรือใช้แนวทางอื่น ดังนั้นเราจึงจะพิจารณาทางเลือกทั้งหมด" นาย เอเมอร์สัน ผู้นำการตรวจสอบครั้งนี้อธิบาย
วูลเวิร์ทส์ (Woolworths) ไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ มาร์ติน อัลพิน โฆษกของ โคลส์ (Coles) กล่าวว่า จรรยาบรรณในการดําเนินธุรกิจขายของชำในออสเตรเลียนั้นใช้การได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว แต่ยินดีที่จะได้รับการตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือประชาชนในด้านค่าครองชีพ พร้อมกล่าวว่า โคลส์ ได้พยายามลดราคาและดำเนินธุรกิจอย่างยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง

"เราปฏิบัติพันธกิจในการลดราคามานานกว่าสิบปีแล้ว เป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นและเราพยายามหาทางลดราคาให้แก่ลูกค้าของเราต่อไป มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย และเรารู้ว่าลูกค้าของเราจำเป็นที่จะต้องสามารถจ่ายค่าของชำได้ทุกสัปดาห์" คุณอัลพินของโคลส์ กล่าว

ด้าน เดวิด โจค์ฮินคี ประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า เขาหวังว่าการตรวจสอบนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
สิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือ นี่จะเป็นแค่การตรวจสอบที่ให้คำแนะนำแต่ไม่มีการดำเนินการสานต่อใด ๆ
เดวิด โจค์ฮินคี ประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ
"สิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือ นี่จะเป็นแค่การตรวจสอบที่ให้คำแนะนำแต่ไม่มีการดำเนินการสานต่อใด ๆ เราเคยมีการตรวจสอบภาคอุตสาหกรรมขายของชำเกิดขึ้น และมีข้อเสนอแนะที่หนักแน่นออกมา ซึ่งหากว่าเรานำมาดำเนินการ ก็คงไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันในวันนี้ สิ่งที่เราอยากทำคือเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ไม่ใช่แค่จรรยาบรรณในการดําเนินธุรกิจขายของชำแต่รวมถึงกฎหมายด้านห่วงโซ่อุปทานและการแข่งขันในตลาด เพื่อให้มีความโปร่งใสมากขึ้นสำหรับเกษตรกร ทำให้แน่ใจได้ว่ามีความเป็นธรรมในสัญญา มีความเข้าใจมากขึ้น หากใครละเมิดภาระผูกพันในส่วนของตน ก็จะมีบทลงโทษเพื่อให้สามารถนำผู้ละเมิดกฎมารับผิดชอบได้" ประธานสหพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ แสดงทัศนะ


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


Share