ประเด็นสำคัญในบทความ
- วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของออสเตรเลีย เป็นของฝากยอดนิยมสำหรับชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นหลายแห่ง แม้กระทั่งในเกาหลีที่ตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพกำลังเฟื่องฟู
- วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินรวม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการบริโภคมากที่สุดในออสเตรเลีย
- ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ประชาชนรับประทานเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ร่างกายต้องการเท่านั้น
ลอวเรน ยู (Lauren Yoo) เป็นนักธุรกิจหญิงชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในนครซิดนีย์มา 7 ปีแล้ว เมื่อเธอกลับไปเกาหลีทุกปี จะมีบางสิ่งที่ครอบครัวของเธอจะขอให้แพ็กใส่กระเป๋ามาด้วยอยู่เสมอ
น้ำผึ้งป่า และกาแฟสำเร็จรูปหลายขวด คือของที่แม่ของเธอโปรดปราน
ลอวเรน ยู และลูก ๆ ของเธอ Source: Supplied
ฉันยังซื้อวิตามินและผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพมากมายเมื่อถึงช่วงลดราคา เพื่อนของฉันรักผลิตภัณฑ์จากออสเตรเลีย และแบรนด์สวิสเซ (Swisse) ก็ยังไม่มีขายในเกาหลี ดังนั้นฉันจึงนำมันมาที่เกาหลีเสมอคุณลอวเรน ยู (Lauren Yoo)
ไม่ใช่คุณยูคนเดียวที่ทำแบบนี้ วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของออสเตรเลียนั้นเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จากแนวทางการผลิตที่เข้มงวดของออสเตรเลีย
และด้วยเหตุนี้ มันจึงกลายเป็นตัวเลือกในการซื้อของขวัญยอดนิยมสำหรับชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นจำนวนมาก
การให้สุขภาพที่ดีเป็นของขวัญ
แองเจลา ซอง (Angela Song) เภสัชกรชาวเกาหลี-ออสเตรเลีย เปิดร้านขายยาสองแห่งในย่านแคมป์ซีย์ (Campsie) และอีสต์วูด (Eastwood) ของนครซิดนีย์ เธอบอกว่าเมื่อพูดถึงการให้ของขวัญ มีผู้คนมากขึ้นที่มุ่งเน้นไปในเรื่องสุขภาพของบุคคลอันเป็นที่รักและห่วงใย
แองเจลา ซอง เภสัขกรชาวเกาหลี-ออสเตรเลีย
แม้ว่าคุณจะมีความมั่งคั่งทั้งหมด แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรหากคุณไม่ได้มีสุขภาพดี ผู้คนมากมายซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเมื่อพวกเขาเดินทางไปเกาหลี ด้วยความตั้งใจที่จะมอบสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญแองเจลา ซอง (Angela Song) เภสัชกร
เอียน ซน (Ian Son) ทำงานให้กับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (Korea Trade-Investment Promotion Agency หรือ KOTRA) เขาสนับสนุนธุรกิจจากเกาหลีให้เข้ามายังตลาดของออสเตรเลียผ่านงานวิจัยและรายงานของเขาที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
คุณซนกล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นจากเกาหลีจำนวนมากได้รับแรงดึงดูดจากความนิยมจากระดับโลกที่มีต่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของออสเตรเลีย
“โดยทั่วไปแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เรียกว่า ‘อาหารเพื่อสุขภาพ’ ในเกาหลี และหลายประเทศกำกับดูแลสิ่งเหล่านี้ตามมาตรฐานอาหาร” คุณซนกล่าว
แต่ในทางกลับกัน ออสเตรเลียใช้คำว่า ‘โภชนเภสัชภัณฑ์ (complementary medicine)’ และหน่วยงานเดียวกันที่กำกับดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัชภัณฑ์ ในการควบคุมและจัดการกับผลิตภัณ์เหล่านี้ด้วยมาตรฐานเดียวกับเภสัชภัณฑ์เอียน ซน (Ian Son) จากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (KOTRA)
“นี่คือสิ่งที่ทำให้วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของออสเตรเลียมีความพิเศษ” คุณซงกล่าว
นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของออสเตรเลียในฐานะประเทศที่สะอาด ยังมีส่วนช่วยในเรื่องนี้อีกด้วย
เภสัชกรซองจากซิดนีย์ เชื่อว่า ข้อเท็จจริงที่วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของออสเตรเลียส่วนใหญ่ถูกผลิตในประเทศก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ
“วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตโดยบริษัทสัญญาจ้างในต่างประเทศ แต่ผลิตในออสเตรเลีย” เภสัชกรซอง กล่าว
“ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีโลโก้ ‘Made in Australia’ ซึ่งก็เป็นคล้าย ๆ กับเหรียญรับรอง”
ตลาดในออสฯ กำลังแข็งแรง
ข้อมูลจากรายงานการตรวจสอบอุตสาหกรรมของหน่วยงานด้านโภชนเภสัชภัณฑ์ของออสเตรเลีย (Complementary Medicine Australia หรือ CMA) ในปี 2021 พบว่า ประชาชนในออสเตรเลีย 3 ใน 4 ใช้โภชนเภสัชภัณฑ์เป็นประจำ และมีมูลค่าตลาดที่ 5,500 ล้านดอลลาร์
วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโภชนเภสัชภัณฑ์ มีมูลค่าในตลาดอยู่ที่ 2,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตามมาด้วยผลิตภัณฑ์โภชนาการกีฬา (945 ล้านดอลลาร์) ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและแผนโบราณ (640 ล้านดอลลาร์) ผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนัก (440 ล้านดอลลาร์) และการส่งออก (864 ล้านดอลลาร์)
แต่ถึงแม้ขนาดตลาดจะขยายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในรอบ 10 สิบปีที่ผ่านมา แต่อัตราการเติบโตนั้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา จากการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19
คุณเอียน ซน จากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (KOTRA) Source: Supplied
เขาอธิบายอีกว่า มีบริษัทผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพรายใหญ่ในออสเตรเลีย 3 ราย
“พวกเขาคือ สวิสเซ (Swisse) แบลคมอร์ส (Blackmores) และฟามาแคร์ (Pharmacare) คุณอาจไม่คุ้นชื่อฟามาแคร์ แต่คุณอาจรู้จักแบรนด์ของพวกเขาอย่าง เนเจอส์ เวย์ (Nature’s Way) และไบโอแกลน (Bioglan)” คุณซน จาก KOTRA กล่าว
ก่อนการแพร่ระบาดใหญ่ แบลคมอร์ส อาจนับเป็นบริษัทยอดนิยม แต่ตอนนี้บริษัทยอดนิยม 3 บริษัทได้แบ่งตลาดออกไปเป็น 3 ส่วนเอียน ซน (Ian Son) จากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
แบลคมอร์ส เข้าไปยังตลาดเกาหลีเมื่อปี 2021 ส่วนฟามาแคร์นั้นเพิ่งตามเข้าไปเมื่อปีที่ผ่านมา ข้อมูลจนถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฟามาแคร์ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนเองในร้านขายยาทั่วเกาหลีมากกว่า 600 แห่ง
กระแส และความต้องการ
เภสัชกรซอง ซึ่งทำงานเป็นเภสัชกรมา 30 สามสิบปี ได้พบเห็นกระแสนี้ในลักษณะไป ๆ มา ๆ
“ในอดีต ผู้คนจำนวนมากทำงานใช้แรงกาย ที่เกาหลีมีผู้คนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องในเกษตรกรรม ดังนั้นเราจึงขายผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่สนับสนุนและปกป้องข้อต่อ” เภสัชกรซองกล่าว
“แต่เวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว สารอาหารที่เราขาดและต้องการในชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไปมากด้วย”
ด้วยพฤติกรรมการทำงานในอาคารสถานที่ในปัจจุบัน เภสัชกรซองกล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากขาดวิตามินดี
จากประสบการณ์ของเธอ มีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่กำลังมองหาตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันนับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดออกไป
เธอเสริมอีกว่า ผลิตภัณฑ์เสริมความงามเพื่อชะลอวัยที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในชุมชนชาวเกาหลี
ข้อมูลจากการสำรวจการบริโภควิตามินของ YouGov Galaxy Omnibus ปี 2020 ที่สำรวจชาวออสเตรเลียอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,034 คน พบว่าพวกเขารับประทานวิตามินดี
วิตามินรวมและวิตามินซี ขึ้นแท่นอาหารเสริม 3 อันดับแรก ตามมาด้วยน้ำมันปลา ธาตุเหล็ก วิตามิน B แคลเซียม โปรไบโอติก และวิตามินอี
คุณหมอ ยัง คิม แพทย์จีพีในย่านสตราทฟีลด์ (Strathfield) ของนครซิดนีย์
“มีการอ้างอิงบางส่วนที่ระบุว่า ว่าวิตามินดีป้องกันมะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะสมองเสื่อม มีการพูดกันอีกว่าวิตามินดีหยังป้องกันโรคหัวใจ และสามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้ด้วย” คุณหมอคิมอธิบาย
“เมื่อเรารับประทานอาหาร ถึงแม้เราจะรับประทานอาหารแคลเซียมสูง ถ้าเราไม่มีวิตามินดีที่เพียงพอ มันก็จะไม่ถูกดูดซึมโดยลำไส้”
ด้านเภสัชกรซองในนครซิดนีย์ กล่าวว่า หากเธอจะแนะนำวิตามินสักตัวหนึ่งให้กับลูกค้า ก็คงจะเป็นวิตามินซี
“วิตามินซีเป็นส่วนสำคัญในการผลิตคอลลาเจนในร่างกายของเรา และมันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อร่างกายของเราดูดซึมธาตุเหล็กในลำไส้เล็ก” เภสัชกรซองกล่าว
"ถึงแม้วิตามินซีจะมีความจำเป็นในการสมานแผลเมื่อเราได้รับบาดเจ็บ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก เส้นเอ็น และฟัน แต่มันไม่ได้ถูกผลิตขึ้นในร่างกาย ดังนั้น วิตามินซีจะมาจากการบริโภคจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเท่านั้น”
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ประชาชนรับประทานเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ร่างกายต้องการเท่านั้น Source: AAP
หาสมดุล
เภสัชกรซอง กล่าวว่า ไม่มี ‘คำตอบสมบูรณ์’ ว่าคน ๆ หนึ่งควรรับประทานวิตามินในปริมาณเท่าใด แต่อย่างไรก็ดี เธอต้องการย้ำเตือนว่า จุดประสงค์ในการรับประทานวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคือ ‘เติมช่องว่างในร่างกายของเรา’
“ในบางครั้ง ชาวเกาหลี-ออสเตรเลีย อาจตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสื่อโดยง่าย เมื่อพวกเขาได้ยินว่าอะไรดีต่อสุขภาพ ทุกคนก็อยากจะมีมัน แม้ว่ามันจะไม่เหมาะสมกับพวกเขาก็ตาม” เภสัชกรซองกล่าว
นอกจากนี้ เธอยังขอให้ผู้คนใช้ความระมัดระวังในการรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ไม่ว่าวิตามินหรืออาการเสริมตัวนั้นจะดีแค่ไหน ถ้ามันไม่จำเป็นสำหรับร่างกายของคุณ มันก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ดีสำหรับคุณแองเจลา ซอง (Angela Song) เภสัชกรชาวเกาหลี-ออสเตรเลีย
“ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องความดันในเลือด คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานวิตามินและอาหารเสริมเพื่อควบคุมความดัน”
“เลือกเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ และรับประทานในปริมาณที่ถูกต้อง การรับประทานเกินขนาดเป็นสิ่งอันตราย แต่ในทางกลับกัน หากรับประทานน้อยไปก็ไม่มีประโยชน์”
ด้านคุณคิม แพทย์จีพีซึ่งทำงานมากว่า 20 ปี เน้นย้ำว่า วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่สิ่งทดแทนมื้ออาหารในแต่ละวัน
วิตามินนั้นมีอยู่อย่างดีในมื้ออาหารต่างๆ ดังนั้นมันจึงสำคัญที่คุณจะรับประทานด้วยสมดุลที่ดีเท่านั้นคุณยัง คิม (Young Kim) แพทย์จีพีในนครซิดนีย์
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ใช่คำแนะนำเฉพาะเจาะจง สำหรับข้อมูลที่ตรงกับสถานภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Viva: อาหารวิเศษมีจริงหรือไม่