นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัญญาณที่ชัดเจนว่า เงินสงเคราะห์รายได้สำหรับผู้ว่างงานจ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker) จะยังคงมีการจ่ายในอัตราที่ได้รับการปรับเพิ่มไปจนถึงปีหน้า
ความไม่แน่นอนของอนาคตเงินสวัสดิการรัฐดังกล่าว ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในรูปแบบของการจ่ายชดเชย ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ยังคงสร้างความกังวลให้กับผู้ที่รับเงินสวัสดิการมาอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงการอภิปรายของการประชุมสภารัฐบาลสหพันธรัฐ นายมอร์ริสันได้ตอบกระทู้เกี่ยวกับคำเตือนในการลดอัตราจ่ายเงินสวัสดิการรัฐลงไปเป็นอัตราเดียวกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ $40 ดอลลาร์ต่อวัน โดยกล่าวว่า ผู้ที่รับเงินสวัสดิการรัฐจะคาดหวังได้ว่า อัตราจ่ายที่ได้รับการชดเชยนี้จะยังคงดำเนินต่อไป
"ผมได้แสดงความชัดเจนแล้วว่า ประชาชนสามารถคาดหวังได้ว่า อัตราเงินสวัสดิการคนว่างงานที่ได้รับการชดเชย จะยังคงดำเนินต่อไปจนพ้นช่วงสิ้นปีนี้" นายมอร์ริสันกล่าว
“เราคาดว่า อัตราเงิน JobSeeker ใหม่จะน้อยกว่าอัตราที่จ่ายในตอนนี้ แต่มันจะสูงกว่าอัตราเงิน Newstart แบบเก่า”คำตอบของนายมอร์ริสัน เป็นการตอบคำถามจาก นายแอนดรูว์ วิลกี (Andrew Wilkie) รัฐมนตรีสังกัดพรรคอิสระ ซึ่งได้เรียกร้องให้มีหลักประกันว่า จะมีการจ่ายเงินสวัสดิการรัฐในอัตราที่อยู่เหนือกว่าระดับเส้นแบ่งความยากจน และไม่น้อยไปกว่าอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์รายได้ JobSeeker ในขณะนี้
Prime Minister Scott Morrison says JobSeeker recipients 'can expect' a supplement to welfare support to continue beyond this year. Source: AAP
โดยอัตราจ่ายสำหรับเงินสงเคราะห์รายได้ JobSeeker ที่ได้รับการเพิ่มเติมนั้น ได้ถูกตัดลดตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็น $250 ดอลลาร์ต่อ 2 สัปดาห์ ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จากเดิมที่เคยจ่ายในอัตรา $550 ดอลลาร์ต่อ 2 สัปดาห์ ในช่วงที่การแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาถึงจุดสูงสุด
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า รัฐบาลจะยังคงพิจารณาในการกำหนดระดับในการจ่ายเงินสวัสดิการรัฐให้มีความแน่นอน ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายนนี้
ขณะที่การจัดสรรงบประมาณแผ่นดินในปีนี้ ได้คาดการณ์อัตราการว่างงานว่าอาจเพิ่มสูงสุดถึงร้อยละ 8 ในช่วงครึ่งแรกของไตรมาสเดือนธันวาคม ก่อนที่จะลดลงมาเหลือร้อยละ 5 ภายในไตรมาสเดือนมิถุนายน ปี 2022 ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟู
นายมอร์ริสันกล่าวว่า การตัดสินใจให้มีการจ่ายเงินชดเชยในช่วงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID Supplement) ไปจนเลยช่วงเดือนธันวาคมนี้ จะเกิดขึ้นก่อนที่จะถึงช่วงการพักประชุมสภา โดยวันสุดท้ายของการตัดสินใจดังกล่าว ได้มีการกำหนดไว้ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ นายมอร์ริสัน กล่าวว่า รัฐบาลได้แบกรับความเสี่ยง เพื่อที่จะทำให้เงินสงเคราะห์รายได้ JobSeeker นั้น ได้รับการจ่ายในอัตราที่เพิ่มขึ้น
การจับตาในส่วนของเงินสนับสนุนรายได้ของรัฐบาลนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานการคลังได้สบประมาทตำแหน่งงานที่เกิดขึ้นใหม่ จากโครงการสร้างตำแหน่งงานของรัฐบาลสหพันธรัฐ “จ๊อบเมกเกอร์ (JobMaker) ในการให้เครดิตสำหรับการจ้างงานของธุรกิจต่าง ๆ ที่ใช้งบประมาณถึง $4,000 ล้านดอลลาร์
หน่วยงานการคลังได้แจ้งกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภาติดตามการบริหารงบประมาณ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.) ว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างตำแหน่งงาน “ที่แท้จริง” กว่า 45,000 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของตำแหน่งงานทั้งหมดจากโครงการดังกล่าว 450,000 ตำแหน่ง ซึ่งนายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย ได้กล่าวในคืนแถลงร่างงบประมาณเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า โครงการดังกล่าจะสนับสนุนการจ่ายค่าแรงให้กับผู้ที่มีอายุไม่เกิน 35 ปี
นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวอีกว่า ตำแหน่งงาน 450,000 ตำแหน่งนั้น มีความเกี่ยวข้องกับการประมาณจำนวนตำแหน่งงานที่จะได้รับการช่วยเหลือ โดยการให้เครดิตกับธุรกิจที่สามารถจ้างงานได้ นอกจากนี้ เขายังได้ปกป้องโครงการดังกล่าว ที่มีการประมาณว่าจะใช้งบประมาณจำนวนมากถึง 4,000 ล้านดอลลาร์นี้
“พวกเราในสภาฝั่งนี้ ทำเพื่อคนทำงานชาวออสเตรเลียทุกคน ด้วยการใช้เครดิตการจ้างงานของโครงการ JobMaker หากเป็นไปได้” นายฟรายเดนเบิร์กล่าวในรัฐสภา เมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
แต่ นายจิม ชาลเมอรส์ (Jim Chalmers) โฆษกด้านการคลังของพรรคแรงงาน กล่าวว่าฝ่ายค้านมีความเคลือบแคลงสงสัย ว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างงานได้นับแสนตำแหน่งจริงหรือไม่
“พวกเขาไปให้ความหวังที่สูญเปล่ากับคนทำงานวัยหนุ่มสาวกว่า 400,000 คนในประเทศนี้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าอับอายในตัวมันเองอยู่แล้ว” นายชาล์เมอส์กล่าว
ขณะที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งออสเตรเลีย (The Australian Council of Social Services) ได้เรียกร้องให้มีการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์รายได้ JobKeeper ให้มีความ “แน่นอน” และ “มั่นคง” โดยเตือนว่า ความไม่แน่นอนในอนาคตของเงินสนับสนุนดังกล่าว จะสร้างความยากลำบากให้กับผู้ที่ต้องพึ่งพาเงินสวัสดิการจากรัฐ
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ผู้เช่าถือวีซ่าชั่วคราวลำบากหนักหลังถูกไล่ที่เพิ่มขึ้นช่วงโควิด