เปิดตัววัคซีนโควิดรุ่นใหม่ในออสเตรเลีย
- วัคซีนของโมเดอร์นา ที่พุ่งเป้าไปที่เชื้อโอมิครอน จะเริ่มมีให้ฉีดตั้งแต่ 10 ตุลาคม
- วัคซีนตัวใหม่นี้ใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หรือ 4
วัคซีนรุ่นใหม่ของโมเดอร์นา (Moderna) ที่ต้านเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) โดยเฉพาะ มีให้ประชาชนฉีดได้แล้วในออสเตรเลียตั้งวันจันทร์นี้ (10 ต.ค.)
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าวัคซีนสไปค์แวกซ์ (Spikevax) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ต้านสองสายพันธุ์ (bivalent vaccine) ของโมเดอร์นา (Moderna) จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม โดยเป็นวัคซีนต้านสองสายพันธุ์ตัวแรก (ต้านเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมและเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน บีเอ.1) ตัวแรกที่มีให้ฉีดในออสเตรเลีย
“วัคซีนต้านสองสายพันธุ์จะถูกรวมเข้าไปในโครงการวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นที่มีอยู่ และสถานที่ฉีดวัคซีนทุกแห่งที่เข้าร่วมในโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนจะมีวัคซีนนี้ให้ฉีดได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
“ผู้ที่ถึงกำหนดที่ควรได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่ควรรั้งรอและจองการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะได้ฉีดวัคซีนตัวใดก็ตาม”
ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 4 ตุลาคม มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 36,242 รายทั่วประเทศออสเตรเลีย เฉลี่ย 5,177 รายต่อวัน
วัคซีนรุ่นใหม่นี้แตกต่างจากเดิมอย่างไร?
วัคซีนสไปค์แวกซ์ (Spikevax) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ต้านสองสายพันธุ์ (bivalent vaccine) นี้เป็นวัคซีน mRNA ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) และวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ดั้งเดิม
รศ.พอล กริฟฟิน แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นแพทย์ด้านโรคติดเชื้อ กล่าวว่า คำว่า 'ไบวาเลนท์' (bivalent) ชี้ให้เห็นถึงการที่วัคซีนนี้ต้านสองเป้าหมายแทนที่จะเป็นเพียงเป้าหมายเดียว โดยวัคซีนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดการติดเชื้อจากเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์ดั้งเดิมของปี 2020 และ บีเอ.1 (BA.1) ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน
แม้ว่าวัคซีนตัวใหม่จะมุ่งเป้าไปที่เชื้อบีเอ.1 (BA.1) เท่านั้น รศ.กริฟฟินกล่าวว่า วัคซีนนี้ยังให้การปกป้องเพิ่มเติมต่อเชื้อสายพันธุ์ย่อย บีเอ.4 (BA.4) และ บีเอ.5 (BA.5) ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวหลักของโอมิครอน ที่แพร่ระบาดอยู่ในออสเตรเลีย
Moderna's new Spikevax bivalent vaccine is available from 10 October 2022. Source: AAP
กลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI) กล่าวว่า วัคซีนต้านสองสายพันธุ์ของโมเดอร์นาแสดงให้เห็นประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมากกว่าวัคซีนเดิมสำหรับการต้านเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน
รศ.กริฟฟิน กล่าวว่า นอกจากนี้วัคซีนใหม่นี้ควรให้การปกป้องที่ดีขึ้นต่อสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจอุบัติขึ้นในอนาคตด้วย
เขาตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่อื่นๆ ที่จะพุ่งเป้าเฉพาะไปยังเชื้อบีเอ.4 และบีเอ.5 ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน
ใครควรได้รับวัคซีนใหม่นี้?
ในวันที่ 29 สิงหาคม คณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (Australia’s Therapeutic Goods Administration หรือ TGA) อนุมัติเฉพาะกาลให้วัคซีนโควิด-19 แบบต้านสองสายพันธุ์ของโมเดอร์นาสามารถใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นได้สำหรับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีและมากกว่า
จากนั้น ATAGI ได้แนะนำว่าวัคซีนนี้สามารถใช้ฉีดได้สำหรับประชาชนที่อายุ 18 ปีหรือมากกว่า
รศ.กริฟฟิน กล่าวว่า ผู้ใดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็มที่ 3 หรือ 4 ควรพิจารณาฉีดวัคซีนต้านสองสายพันธุ์ของโมเดอร์นาเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น
"ผมขอสนับสนุนให้ทุกคนที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำปัจจุบันและถ้ายังไม่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 4 เข็ม หากมีสิทธิ์และยังไม่ได้ฉีด นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นของคุณ" รศ.กริฟฟิน กล่าว
"ไม่เพียงแต่วัคซีนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะมีให้ฉีดแล้วตอนนี้ แต่เรากำลังเห็นอัตราการติดเชื้อไต่สูงขึ้นในส่วนอื่นๆ ของโลก"
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า วัคซีนใหม่นี้ผ่านการตรวจสอบในแต่ละชุดที่ได้รับ และกล่าวว่ารัฐบาลมีปริมาณวัคซีนใหม่เพียงพอ ที่จะแน่ใจได้ว่าชาวออสเตรเลียทุกคนที่มีสิทธิ์จะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นของพวกเขา
มีกี่คนในออสเตรเลียที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว?
ณ วันที่ 28 กันยายน ชาวออสเตรเลีย 71.8 เปอร์เซ็นต์ ได้รับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม แต่มีเพียง 40.9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 แล้ว
หากประชาชนไม่แน่ใจว่าพวกเขามีสิทธิ์ได้รับวัคซีนตัวใหม่หรือไม่ รศ.กริฟฟินแนะนำให้พวกเขาตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนออนไลน์เพื่อดูว่าพวกเขาได้ฉีดวัคซีนไปกี่เข็มแล้ว หรือพูดคุยกับแพทย์ประจำตัวหรือกับเภสัชกร
วัคซีนตัวใหม่ปลอดภัยแค่ไหน?
รศ.กริฟฟินกล่าวว่า ความปลอดภัยของวัคซีนต้านสองสายพันธุ์นั้นเหมือนกับวัคซีนดั้งเดิม ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยสำหรับทั้งสตรีมีครรภ์และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
“เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มเสี่ยงเหล่านั้นควรพูดคุยกับแพทย์ประจำตัว หรือกับผู้เชี่ยวชาญ หรือสูติแพทย์ของพวกเขา แต่เรารู้ว่าวัคซีนเหล่านั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในสตรีมีครรภ์ และแน่นอนว่าควรแนะนำให้ฉีด เพราะนั่นเป็นกลุ่มที่เราไม่ต้องการให้ติดเชื้อโควิด” รศ.กริฟฟิน กล่าว
นาย มาร์ค บัตเลอร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหพันธรัฐบอกกับเอบีซี เมื่อวันที่ 28 กันยายน ว่าบริษัทไฟเซอร์ก็กำลังผลิตวัคซีนที่พุ่งเป้าไปยังเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะเช่นกัน
“เรามีสัญญาที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลเดิมในการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์จำนวนมากในปีหน้า แน่นอนว่าเราต้องการทำให้แน่ใจได้ว่าวัคซีนที่เราจะได้นั้นเป็นวัคซีนรุ่นล่าสุด” นาย มาร์ค กล่าว
"และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นวัคซีนรุ่นที่พุ่งเป้าไปยังเชื้อบีเอ.4 และบีเอ.5 ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นเชื้อที่ไม่เพียงแต่จะแพร่ระบาดในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังระบาดทั่วโลกด้วยในขณะนี้”
ถ้าได้รับวัคซีนไป 4 เข็มแล้วล่ะ?
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน 4 เข็มแล้ว รศ.กริฟฟินกล่าวว่า เขาไม่แนะนำให้ผู้คนเหล่านี้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 5
“ไม่ต้องฉีดวัคซีนเพิ่มอีกในเวลานี้” รศ.กริฟฟิน กล่าว “แต่อาจมีสถานการณ์เฉพาะเจาะจงที่อาจเหมาะสม (ที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 5) แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ไม่ต้องฉีดวัคซีนเพิ่ม”
“ถ้าเรามีการระบาดระลอกใหญ่เกิดขึ้นและจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติม นี่ก็จะแนะนำสำหรับทุกคน แต่ยังไม่ใช่ในขณะนี้”
จะจองการฉีดวัคซีนได้อย่างไร?
วัคซีนสไปค์แวกซ์ (Spikevax) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ต้านสองสายพันธุ์ (bivalent vaccine) ของโมเดอร์นา จะมีให้ฉีดที่สถานฉีดวัคซีนที่ระบุไว้ใน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
คุณมีสิทธิ์รับวัคซีนบูสเตอร์ และยาต้านโควิด-19 หรือไม่