ประเด็นสำคัญในบทความ
- ที่ประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National Cabinet) มีมติยกเลิกมาตรการบังคับกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียแล้ว
- มาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.นี้ และเป็นผลให้โครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) เป็นอันสิ้นสุดลงในวันเดียวกัน
- ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ ด้านนายกฯ ชี้การตัดสินใจเป็นไปในความเหมาะสม
30 ก.ย. แอนโทนี อัลบานิซี นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะผู้นำรัฐและมณฑลจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National cabinet) ที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา
ที่ประชุมมีมติประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับเป็นเวลา 5 วันสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีการใช้มาตรการกักตัวภาคบังคับต่อไปสำหรับลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง เช่น ในโรงพยาบาล และในสถานดูแลผู้สูงอายุ
โดยการตัดสินใจยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับดังกล่าว ยังหมายถึงการยุติโครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) สำหรับคนทำงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ต.ค.นี้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ โครงการเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะยังคงเหลือไว้ให้สำหรับคนทำงานในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง โดยอัตราส่วนสนับสนุนงบประมาณในการจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวระหว่างรัฐและมณฑลต่าง ๆ และรัฐบาลเครือจักรภพจะอยู่ที่ 50:50
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล และได้มุ่งเป้าไปยังกลุ่มเปราะบางมากที่สุด
เราต้องการนโยบายที่ส่งเสริมความยืดหยุ่น การสร้างศักยภาพ และลดการพึ่งพาการแทรกแทรงโดยรัฐบาลนายกฯ อัลบานิซี กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์รา
"มันเป็นการตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์โดยคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติในวันนี้ และได้รับการสนับสนุนจากมุขมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐบาลมณฑลทั้งหมด"
ศาสตราจารย์ พอล เคลลี (Paul Kelly) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 จะอยู่ในระดับต่ำ และมาตรการกักตัวจะถูกยกเลิกไป แต่การแพร่ระบาดใหญ่ยังไม่จบลง
ศาสตราจารย์พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลีย Source: AAP
"เราจะได้เห็นจุดสูงสุดของไวรัสนี้แทบจะแน่นอน เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นเมื่อช่วงต้นปีนี้" ศาสตราจารย์เคลลี กล่าว
"มันถึงเวลาแล้วที่จะพิจารณาว่ามีอะไรที่เราทำได้เพื่อปกป้องผู้ที่มีความเปราะบางมากที่สุด และนั่นคือเป้าหมายหลักที่มุ่งมั่นของเรา"
ศาสตราจารย์เคลลี กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการกักตัวนั้นเป็นการกระทำที่เป็นไปอย่างมีเหตุผล
ในมุมมองของผม มันถึงเวลาที่เราจะก้าวออกจากแนวคิดข้อยกเว้นจากโควิด และคิดว่าควรจะทำอะไรเพื่อปกป้องผู้คนจากโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจใด ๆ ก็ตามศาสตราจารย์เคลลี กล่าว
"เรามองที่การกักตัวอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องดูมาตรการและการป้องกันที่เรามีด้วย เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมองทางเลือกอื่นไว้ หากสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปในอนาคต"
นายกชี้ "เหมาะสม" ที่จะยกเลิกเงินช่วยลางานจากโควิด
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปกป้องการตัดสินใจที่จะยุติโครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) โดยระบุว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำอีกว่ามุขมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐบาลต่างสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้
มันไม่ยั่งยืนสำหรับรัฐบาลในการจ่ายค่าแรงให้ประชาชนอยู่ตลอดไปนายกฯ อัลบานิซี กล่าว
"มีการคาดหวังไว้เสมอว่า มาตรการซึ่งได้มีการประกาศใช้เหล่านี้เป็นมาตรการฉุกเฉิน"
"มีไข้หวัดใหญ่อยู่ และปัญหาสุขภาพสุขภาพต่าง ๆ ก็มีอยู่มานานแล้ว และรัฐบาลก็ไม่ได้ก้าวเข้ามาเพื่อจ่ายค่าแรงให้กับผู้คนเมื่อพวกเขามีปัญหาสุขภาพเสมอไปตั้งแต่แรก"
30 ก.ย. นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ เข้าร่วมการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National Cabinet) ที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE
ผู้นำของบางรัฐและมณฑล ซึ่งรวมถึง โดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้เรียกร้องตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อให้มีการยุติมาตรการกักตัวภาคบังคับ โดยมุขมนตรีเพอร์โรต์เทต์ กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาเอง
แพทย์ห่วงกรณียกเลิกกักตัว
สตีฟ รอบสัน (Steve Robson) ประธานแพทยสภาแห่งออสเตรเลีย (AMA) ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรัฐและมณฑลที่สนับสนุนการยกเลิกมาตรการกักตัว
"ผู้ที่ผลักดันให้ตัดลดเวลาการกักตัวนั้นไม่ได้มีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และกำลังทำให้สาธารณชนตกอยู่ในความเสี่ยง พวกเขาจะต้องเข้าใจสิ่งนั้น"
เรากำลังพบเห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิดอีกครั้ง และช่วงเวลาวันหยุดที่ผู้คนจะเดินทางไปรอบโลกกำลังจะมาถึงคุณรอบสันกล่าวกับสำนักข่าวเอบีซี
"มันเป็นช่วงเวลาของความเสี่ยงอย่างมีนัยยะ และเรากำลังเรียกร้องให้มีความระมัดระวัง เพราะเราจำเป็นต้องปกป้องระบบสุขภาพ"
ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน (Prof Brett Sutton) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย ได้โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ว่า "การเดินละเมอเข้าหาโควิดไม่ใช่กลยุทธ์ที่ผมแนะนำ ยังมีอีกมากมายที่ยังไม่มีความแน่นอน"
ศาสตราจารย์ เบรตต์ ซัตทัน ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย Source: AAP / Joel Carrett
"พวกเขาไม่เห็นเหตุการณ์ในอังกฤษหรืออย่างไร NHS กำลังบากบั่นอย่างไม่มีความหวัง ยอดผู้ติดเชื้อในอังกฤษกำลังเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง" ศาสตราจารย์เอสเตอร์แมน ระบุในทวิตเตอร์
การเข้ารักษาในโรงพยาบาลในประเทศอังกฤษได้เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอังกฤษอาจกำลังจะพบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4
อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต คัมมิง (Robert Cumming) ศาสตราจารย์กิตติคุณจากภาควิชาระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า ถึงเวลาที่จะต้องยกเลิกมาตรการกักตัว
"จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องและเรากำลังเข้าสู่ฤดูร้อน หากเราไม่ยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับในตอนนี้ แล้วเราจะทำเมื่อไหร่กัน" ศาสตราจารย์คัมมิง กล่าว
"ผู้คนยังควรได้รับคำแนะนำให้อยู่บ้านหากมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเราจำเป็นต้องทำให้สิ่งนี้ง่ายสำหรับที่ทุกคนจะทำ"
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ช่างตัดผมคนไทย เบื้องหลังทรงผมนักกีฬา AFL ชื่อดัง