หน่วยงานสาธารณสุขระบุว่า เชื้อสายพันธุ์ย่อยใหม่นี้สามารถหลบหลีกจากภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากการติดเชื้อโควิด-19 ครั้งก่อนหน้า รวมถึงจากวัคซีนต้านโควิด-19 นอกจากนี้ มีข้อมูลที่ชี้ว่าพบการติดเชื้อซ้ำในอัตราร้อยละ 25 จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ได้มีการรายงาน พบเป็นผู้ติดเชื้อซ้ำในอัตราร้อยละ 25 และร้อยละ 18 ใน
รัฐและมณฑลต่างๆ ของออสเตรเลียได้ลดกรอบเวลาการติดเชื้อซ้ำอีกครั้งลงจาก 12 สัปดาห์เหลือ 28 วัน ซึ่งหมายความว่าผู้คนสามารถติดเชื้อซ้ำได้อีกครั้งภายในเวลา 28 วัน นับตั้งแต่การติดเชื้อครั้งก่อน
การป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่
หน่วยงานสาธารณสุขระบุว่า ประชาชนสามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงได้ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคม ล้างมือเป็นประจำ และไปรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสล่าสุด
ศาสตราจารย์ แคเธอรีน เบนเนตต์ (Prof Catherine Bennett) นักระบาดวิทยาชั้นนำ ระบุว่าวัคซีนบูสเตอร์สำหรับฤดูหนาวจะลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้อีก 2 ใน 3 ในกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงสุด
การศึกษาล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv University) และมหาวิทยาลัยเบน-กูเรียน แห่งเนเกฟ (Ben-Gurion University of the Negev) ได้แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนโดสที่ 4 ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อร้อยละ 34 ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาในโรงพยาบาลร้อยละ 65 และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตร้อยละ 72 ในหมู่ผู้สูงวัยชาวอิสราเอล
คำแนะนำล่าสุดในการฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มอายุต่างๆ มีดังนี้
- อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป 4 โดส
- อายุระหว่าง 30-49 ปี 3 โดส (มีทางเลือกฉีด 4 โดสได้)
- อายุระหว่าง 16-29 ปี 3 โดส
- อายุระหว่าง 5-15 ปี 2 โดส
วัคซีนบูสเตอร์หรือวัคซีนโดสที่ 3 สาม แนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง หรือมีความพิการที่มีความต้องการด้านสุขภาพอย่างมีนัยยะสำคัญหรือซับซ้อน
วัคซีนโดสที่ 4 มีให้สำหรับประชาชนที่ได้รับวัคซีนโดสที่ 3 หรือวัคซีนบูสเตอร์โดสแรกแล้วเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา และมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป
- เป็นผู้ได้รับการดูแลในสถานดูแลผู้สูงอายุ หรือสถานดูแลผู้พิการ
- มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง
- เป็นชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอเรส สเตรท และมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่มีภาวะทางสุขภาพ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจากโควิด-19
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่มีภาวะความพิการ
การรักษาผู้มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
ยาต้านไวรัสจะหยุดยั้งการติดเชื้อไปยังเซลล์ที่มีสุขภาพดี หรือการเพิ่มจำนวนของไวรัสภายในร่างกาย
หน่วยงานสาธารณสุขแนะนำการรับประทานยาต้านไวรัสโควิด-19 เหล่านี้ (ลาเกวริโอ และแพกซ์โลวิด) ทันทีที่เริ่มมีอาการ ซึ่งตามปกติแล้วคือภายใน 5 วัน ยาต้านไวรัสจะลดความรุนแรงของเชื้อโควิด-19 และลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ยาต้านไวรัสเหล่านี้มีให้กับผู้ที่ได้รับผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
- มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป พร้อมความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงตั้งแต่ 2 ปัจจัยหรือมากกว่า
- ชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอเรส สเตรท ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป พร้อมความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงตั้งแต่ 2 ปัจจัยหรือมากกว่า
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีสิทธิ์ได้รับยาต้านไวรัสนี้
สำหรับประชาชนที่มีสิทธิ์ ขอแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ประจำตัว (แพทย์จีพี) ผ่านบริการนัดพบแพทย์ทางออนไลน์ (เทเลเฮลธ์) หากมีผลตรวจเชื้อเป็นบวก ราคายาต้านไวรัสโควิด-19 ตกอยู่ที่ไม่เกิน $10 ดอลลาร์สำหรับมีสิทธิ์รับยาที่ถือบัตรส่วนลดจากรัฐบาล (concession card) และ $45 ดอลลาร์สำหรับผู้มีสิทธิ์รับยารายอื่น ๆ ผ่านโครงการสิทธิประโยชน์ทางเวชภัณฑ์ (Pharmaceutical Benefits Scheme หรือ PBS)
เอสบีเอส มุ่งมั่นนำเสนอข้อมูลล่าสุดทั้งหมดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เพื่อชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรมของออสเตรเลีย โปรดดูแลสุขภาพของคุณและติดตามข่าวสารเป็นประจำผ่าน
ติดต่อสอบถามบริการสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
คอสตาติดโควิดมาแล้วสองครั้ง เขาวิตกว่าจะติดเชื้ออีกครั้งที่สาม