15 มิ.ย. คณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก (Fair Work Commission) ประกาศว่า ค่าแรงขั้นต่ำของออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5.2 เป็น $21.38 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับ “การต้อนรับอย่างดียิ่ง” โดย นายแอนโทนี อัลบานิซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย
อัตราค่าแรงขั้นต่ำใหม่ที่ได้ประกาศในวันนี้ จะทำให้ค่าแรงรายสัปดาห์สำหรับผู้ที่ทำงานสัปดาห์ละ 38 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นอีก $40 ดอลลาร์เป็น $812.60 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับคนทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำสุดกว่า 180,000 คน แต่สำหรับคนทำงานในท่าอากาศยาน ภาคส่วนการท่องเที่ยวและงานบริการนั้น การปรับขึ้นค่าแรงจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 1 ต.ค.นี้
“มันสร้างความแตกต่างให้กับผู้คนที่กำลังดิ้นรนกับค่าครองชีพ” นายอัลบานิซี กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของนโยบายหาเสียงในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
นายอัลบานิซี กล่าวอีกว่า ผู้ที่มีรายได้ในขั้นต่ำสุดสมควรที่จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม แม้ว่าธุรกิจต่าง ๆ จะต้องเป็นผู้แบกรับภาระ
“สิ่งที่ผมจะกล่าวก็คือ ธุรกิจขนาดเล็กเหล่านั้นจะพึ่งพาคนทำงานของพวกเขาซึ่งกำลังดิ้นรนกับค่าครองชีพ” นายอัลบานิซี กล่าว
“นี่คือ 1 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง”
ที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของ นายแอนโทนี อัลบานิซี ยังได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์กเพื่อแสดงการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าควรปรับขึ้นในอัตราเท่าใด
นายเอียน รอส (Ian Ross) ประธานคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างจะกระจายไปตามภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ แต่หอการค้าและอุตสาหกรรมออสเตรเลีย และกลุ่มอุตสาหกรรมออสเตรเลีย ได้ส่งเสียงแสดงความกังวลว่า การตัดสินใจขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่อระบบเศรษฐกิจ
นายรอส กล่าวอีกว่า ค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงได้สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำในระดับชาติ
“ภาวะเงินเฟ้อกัดเซาะมูลค่าที่แท้จริงของค่าแรงคนทำงาน และลดมาตรฐานในการดำรงชีวิตให้ต่ำลง” นายรอส ประธานคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก กล่าว
“ผู้มีรายได้น้อยมีความเสี่ยงอย่างยิ่งในบริบทของอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น”
นายรอส เสริมอีกว่า การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ “จะไม่มีผลข้างเคียงอย่างมีนัยยะสำคัญ” ต่อประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจประเทศ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เงินเฟ้อออสฯ สูงสุดรอบ 20 ปี สะเทือนปากท้อง คนเริ่มกินนอนในรถ
นายโทนี เบิร์ก (Tony Burke) รัฐมนตรีด้านการจ้างงานออสเตรเลีย กล่าวว่า เขาเชื่อว่าการส่งหนังสือไปยังคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์กของรัฐบาล มีส่วนทำให้เกิดผลลัพธ์ต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าแรงขั้นต่ำ
“ผู้คนจะเห็นในบัญชีธนาคารว่าการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลหมายความว่าอย่างไร” นายเบิร์ก กล่าว
“(มันคือ) การเพิ่มค่าแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อเราเคยมีรัฐบาลที่รับปากและมุ่งมั่นที่จะทำให้ค่าแรงต่ำ”
นายรอส จากคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก กล่าวอีกว่า ข้อเสนอจากกลุ่มนายจ้างเพื่อยับยั้งไม่ให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นถูกปฏิเสธ เนื่องจากการลดลงของค่าแรงที่แท้จริงนั้น “จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก”
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์กยังได้เสนอให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละระดับของสายงาน (modern award minimum wage) ในอัตราร้อยละ 4.6 หรือเพิ่มขึ้น $40 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ก่อนการตัดสินใจของแฟร์เวิร์กที่ได้มีการประกาศในวันนี้ สหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นร้อยละ 5.5 เพื่อให้อยู่เหนืออัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ร้อยละ 5.1
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เผยอัตราเติบโตค่าจ้างไตรมาสนี้ นักเศรษฐศาสตร์ชี้ “น่าสะพรึงสำหรับคนทำงาน”
นางแซลลี แม็กมานัส (Sally McManus) เลขาธิการสภาสหภาพแรงงานออสเตรเลีย (Australian Council of Trade Unions หรือ ACTU) กล่าวว่า ทางสภาสหภาพ ฯ “รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจ” เกี่ยวกับการตัดสินใจปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
“การตัดสินใจดังกล่าวจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญต่อความกดดันที่คนทำงานรายได้น้อยกำลังเผชิญ” นางแม็กมานัส กล่าว
“การตัดสินใจนี้คือหนึ่งในการตัดสินใจที่มีเหตุผลและเป็นธรรม”
นางแม็กมานัส เสริมอีกว่า การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำยังหมายความว่า คนทำงานที่มีรายได้น้อยจะมีความสามารถที่ดีขึ้นในการจ่ายค่าเช่า ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และจ่ายบิลค่าพลังงาน และกล่าวอีกว่าการตัดลดค่าแรงที่นายจ้างบางส่วนได้โต้เถียงนั้น “จะสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้กับครอบครัวคนทำงาน”อย่างไรก็ตาม นางแม็กมานัส ได้กล่าวตำหนิความล่าช้าในการปรับขึ้นค่าแรงในบางอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงภาคส่วนบริการ และสายการบิน
Australian Council of Trade Unions (ACTU) Secretary Sally McManus at Parliament House in Canberra. Source: AAP
ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมออสเตรเลีย (Australian Industry Group) แย้งว่า การขึ้นค่าแรงใด ๆ ควรถูกกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2.5 โดยเมื่อปีที่ผ่านมาอัตราค่าแรงขั้นต่ำได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เป็นสัปดาห์ละ $772.60 หรือ $20.33 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
นายแอนดรูว์ แม็กเคลลา (Andrew McKellar) ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมออสเตรเลีย กล่าวว่า การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำนั้น “เป็นความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ”
“มันหักเหอย่างมากออกจากทิศทางสูงสุดของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ได้คาดหวัง” นายแม็กเคลลาร์ กล่าว
“มันก่อให้เกิดภาระอย่างมากต่อธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผ่านไปยังลูกค้า และจะเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ”
นายอินเนส วิลล็อกซ์ (Innes Willox) ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมออสเตรเลีย กล่าวว่า การตัดสินใจของคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์กนั้น “เป็นการเติมเชื้อไฟให้ปัญหาเงินเฟ้อ”
“ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะเป็นเรื่องยากที่จะซึมซับสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ที่กำลังดิ้นรนอยู่แล้วเพื่อรับมือกับราคาวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น การหยุดชะงักของสายพานการผลิต และการขาดแคลนคนทำงาน” นายวิลล็อกซ์ กล่าว
สัปดาห์นี้ ดร.ฟิลิป โลว์ (Dr.Philip Lowe) ผู้ว่าการธนาคารสำรองแห่งออสเตรเลีย ได้เตือนว่า อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียอาจเพิ่มขึ้นไปถึงร้อยละ 7 ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มสูงขึ้นไปเป็นร้อยละ 2.5 ซึ่งจะเพิ่มค่าครองชีพให้สูงขึ้นไปอย่างมีนัยยะสำคัญ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
รมต.พลังงานออสฯ ชี้แก้ไฟดับได้แต่หนาวนี้อนาคต ‘ไม่ราบรื่น’