บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ประกาศข้อกำหนดใหม่สำหรับโฆษณาที่เกี่ยวกับการส่งเสริมบริการทางการเงิน รวมถึงสินเชื่อ บัตรเครดิต และการลงทุน
การเปลี่ยนกฎนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลกลาง ออสเตรเลียเสนอมาตรการระบบการแข่งขันทางดิจิทัลฉบับใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เพื่อปกป้องผู้บริโภคและสนับสนุนการแข่งขันทางการตลาด หลังจากที่ได้ออกกฎหมายจำกัดอายุการใช้โซเชียลมีเดียฉบับแรกของโลก
บริษัทโซเชียลมีเดียต่างวิพากษ์วิจารณ์ข้อกำหนดล่าสุดนี้ว่าเป็นมาตรการที่ "เร่งรีบ" และยากต่อการบังคับใช้ ท่ามกลางเสียงสะท้อนเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมา เช่น ประเด็นเสรีภาพในการพูด
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การสั่งห้ามการใช้โซเชียลมีเดียโดยสิ้นเชิงเป็นมาตรการการตอบสนองต่อปัญหาอย่างไม่สมเหตุสมผลและเป็นการริดรอนสิทธิของเด็ก แม้ว่าจะมีข้อกำหนดให้ดำเนินการกฎหมายนี้โดยคำนึงถึงหลักการปกป้องสุขภาพและคุณภาพชีวิต องเยาวชน
ในขณะที่แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นส่งข้อความเข้ารหัส WhatsApp ของ Meta ได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับดังกล่าว
อะไรคือกฎใหม่สำหรับผู้ลงโฆษณาทางการเงิน?
ข้อกำหนดการลงโฆษณาใหม่ คาดว่าจะบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะต้องเปิดเผยว่าใครเป็นผู้ชำระค่าโฆษณาและใครได้ประโยชน์จากโฆษณาเหล่านั้น
ผู้ลงโฆษณาจะต้องแจ้งใบอนุญาตบริการทางการเงินของออสเตรเลียต่อสาธารณะ หรืออธิบายว่าเหตุใดผู้ลงโฆษณาจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือใบอนุญาตดังกล่าว
กรรมการผู้จัดการของเมตาออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ วิล อีสตัน กล่าวว่า
“การยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาทางการเงิน เป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยการปกป้องคนออสเตรเลียจากมิจฉาชีพที่ใช้กลลวงที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้พยายามแอบอ้างเป็นสถาบันการเงินและเป็นผู้โฆษณาที่ถูกกฎหมาย”
ส่วนกรรมการผู้จัดการ Digital Industry Group Inc สุนิตา โบส กล่าวว่าหลักปฎิบัติขององค์กรต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากอุตสาหกรรม ซึ่ง Meta ลงชื่อในกรอบความร่วมมือนั้น มีข้อตกลงว่าแพลตฟอร์มต่างๆ จะต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบผู้ลงโฆษณา
Meta กำลังทดสอบเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อปราบปรามการหลอกลวงที่ใช้รูปภาพของคนดังมาแอบอ้างให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้เรียกว่า “โฆษณาที่ใช้รูปของคนดังเพื่อดึงดูดความสนใจ หรือ "celeb-bait" Source: AAP / Dean Lewins
การเปิดตัวกฎการตรวจสอบผู้ลงโฆษณาทางการเงินของ Meta ถือเป็นการป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ที่พยายามใช้ประโยชน์จากบริการเหล่านี้กรรมการผู้จัดการ Digital Industry Group Inc สุนิตา โบส
การใช้การโฆษณาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคเป็นปัญหาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมานานหลายปีแล้ว โดยมีการลงโฆษณาโดยใช้การปลอมแปลงชื่อและหน้าเว็บไซต์ของสถาบันการเงินเพื่อหลองลวงเรื่องการลงทุนในแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สตีเฟน โจนส์ จะมีแถลงการณ์ในคืนวันจันทร์ (2 ธ.ค.) เกี่ยวกับการเสนอกฎหมายใหม่ที่จะให้อำนาจการแข่งขันมากขึ้นในหมู่บริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่
ซึ่งรวมถึงกรณีที่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งมีการเลือกผลิตภัณฑ์อย่างไม่ยุติธรรม บังคับให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ของตน หรือป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม
วิธีเลี่ยงมิจฉาชีพออนไลน์ในช่วงก่อนเทศกาล
รวมไปถึงแอปพลิเคชัน marketplaces และ โฆษณาเกี่ยวกับการบริการเทคโนโลยีและมีความเป็นไปได้ว่าจะขยายข้อบังคับนี้ไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆ ด้วย
ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โจนส์ กล่าวว่า
“กรอบการทำงานเช่นนี้จะนำไปสู่ทางเลือกที่มากขึ้น ราคาที่ลดลง และผลลัพธ์ที่ยุติธรรมมากขึ้นสำหรับผู้บริโภค”
“และมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กมีความสามารถในการแข่งขันด้วยแนวคิดใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ ”
คณะกรรมการด้านการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (The Australian Competition and Consumer Commission; ACCC) จะเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยจะมีบทลงโทษสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์หรือร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายของบริษัท หากฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าว
_________________________________________________________________________________
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่