ประเด็นสำคัญในเรื่อง
- ศาสตราจารย์ไมเคิล คิดด์ กล่าวว่าภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนอยู่ได้เพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น
- ยาต้านไวรัสช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ป่วยโควิด-19 จะต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลได้อย่างมาก
- การวิจัยเบื้องต้นชี้ความเสี่ยงของการมีอาการลองโควิด (long COVID) หรือโควิดเรื้อรัง จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการติดเชื้อซ้ำ
คุณลินซี อิบราฮิม ผู้อาศัยอยู่ในนิวเซาท์เวลส์เป็นหนึ่งในชาวออสเตรเลียหลายพันคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาซ้ำเป็นครั้งที่สองหรือสามในการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนระลอกนี้
คุณอิบราฮิม คุณแม่ลูกสองและผู้ป่วยโรคหอบหืด กล่าวว่า การเผชิญกับการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนารั้น "เลวร้ายกว่าเดิมมาก"
“การติดเชื้อครั้งที่สองนี้ทำให้การหายใจของฉันแย่ลง ซึ่งน่าเป็นห่วง” คุณอิบราฮิมบอกกับ เอสบีเอส
เธอกล่าวว่าเชื้อไวรัสนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเธอทั้งร่างกายและจิตใจในการติดเชื้อครั้งที่สอง
มันยากลำบากมากขึ้นที่จะมีกำลังทำสิ่งพื้นฐาน เช่น การทำอาหารและการทำความสะอาด ฉันไม่มีแรงเลยที่จะทำงาน ออกกำลังกาย หรือเล่นกับลูกๆ
คุณอิบราฮิมแนะนำให้ทุกคนพยายามอย่างที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในทุกกรณี
เหตุใดจึงมีการติดเชื้อซ้ำเกิดขึ้น?
ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานด้านสุขภาพกล่าวว่า BA.5 และ BA.4 เชื้อสายพันธุ์ย่อยของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนและจากการฉีดวัคซีนได้
นั่นหมายความว่าผู้ที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาก่อนหน้านี้หรือติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโอมิครอนในอดีต ยังคงสามารถติดเชื้อซ้ำได้อีกครั้งจากเชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่
ศาสตราจารย์ไมเคิล คิดด์ รองประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า ภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนจะคงอยู่เพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น
อันที่จริง รัฐและมณฑลต่างๆ ได้ลดระยะเวลาการติดเชื้อซ้ำจาก 12 สัปดาห์เป็น 28 วันแล้ว ตามคำแนะนำของคณะกรรมการหลักด้านการคุ้มครองสุขภาพแห่งออสเตรเลีย
นั่นหมายความว่า ผู้ที่พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกหลังจาก 28 วันนับจากวันสุดท้ายของการกักตัวเพราะติดเชื้อโควิด จะถูกนับเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่
การติดเชื้อโควิดซ้ำรุนแรงกว่าการติดเชื้อครั้งก่อนหรือไม่?
ศาสตราจารย์คิดด์กล่าวว่า เชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ๆ เหล่านี้ "ติดต่อกันได้ง่ายกว่าเดิม" แต่นักวิจัยยังคงกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของเชื้อเหล่านี้
“สิ่งที่เราไม่รู้ก็คือว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงกว่าเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรุ่นก่อนๆ หรือเชื้อสายพันธุ์อัลฟาหรือเดลตาหรือไม่” ศ.คิดด์ กล่าว
“เราต้องระลึกไว้เสมอว่า การติดเชื้อซ้ำอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้นในผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง มีความทุพพลภาพ หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ”
ผู้เชี่ยวชาญต่างกล่าวว่าความรุนแรงของการติดเชื้อซ้ำนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงอายุ ปริมาณไวรัสในร่างกาย สถานะการฉีดวัคซีน สถานะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และระยะห่างของการติดเชื้อทั้งสองครั้ง
มีการศึกษาวิจัยโครงการหนึ่งในสหรัฐฯ ซึ่งยังคงไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงที่จะมีอาการลองโควิด (long COVID) หรือโควิดเรื้อรัง จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการติดเชื้อซ้ำ
"เราแสดงให้เห็นว่า เมื่อเทียบกับคนที่ติดเชื้อครั้งแรกแล้ว การติดเชื้อซ้ำทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ด้านสุขภาพ ทั้งในระบบปอดและอวัยวะนอกปอดหลายระบบ (ความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด การแข็งตัวของเลือดและความผิดปกติของระบบเลือด โรคเบาหวาน ความเหนื่อยล้า ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ความผิดปกติของไต ความผิดปกติของสุขภาพจิต ความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูก และความผิดปกติของระบบประสาท)"
เราจะป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้อย่างไร?
ศาสตราจารย์คิดด์เตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน และในสถานที่ที่การเว้นระยะห่างทางกายภาพหรือการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นทำได้ยาก
“นั่นรวมถึงการไปยังร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต การขึ้นลิฟต์ และใช้ระบบขนส่งสาธารณะ” ศ.คิดด์กล่าว
"ในขณะเดียวกัน ขอรับการฉีดวัคซีนของคุณให้ครบถ้วนตามคำแนะนำปัจจุบัน รวมทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย"
รัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำและการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นต่ำกว่าสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนซึ่งเคยติดเชื้อแล้ว ความเสี่ยงจะลดลงไปอีกเมื่อฉีดวัคซีนเพิ่มแต่ละครั้ง ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย
ศ.คิดด์ กล่าวว่า การรักษาระยะห่างทางกายภาพ การล้างมือให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค และมารยาทในการไอนั้น “สำคัญพอๆ กับที่เคยเป็นมาในช่วงเวลาอื่นๆ ของการระบาดใหญ่ของโควิด”
Health authorities advise residents to do a RAT or PCR test as soon as COVID-19 symptoms occur. Source: Getty Images/Tang Ming Tung
แล้วถ้าคุณติดเชื้อซ้ำจะทำอย่างไร?
หน่วยงานด้านสุขภาพแนะนำให้ประชาชนไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) หากการตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจเชื้อด้วยตนเอง (RAT test) พบผลเป็นลบ แต่พวกเขายังคงมีอาการป่วยอยู่
คุณอิบราฮิมกล่าวว่า เธอมีผลการตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองเป็นลบถึงสี่ครั้ง ก่อนที่เธอจะไปพบแพทย์เพราะอาการป่วยที่แย่ลง เธอได้รับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์และพบว่าติดเชื้อโควิด
เธอขอให้ประชาชนในออสเตรเลียตรวจสอบว่าตนมีสิทธิ์รับยาต้านไวรัส (antivirals) หรือไม่ ซึ่งยาต้านไวรัสได้ช่วยให้การหายใจของเธอดีขึ้น
ศ.คิดด์ เรียกยารักษาโควิด-19 ชนิดรับประทานเหล่านี้ว่าเป็น "ตัวพลิกสถานการณ์" ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลงได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ยาต้านไวรัสจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับประทานภายใน 5 วันหลังจากพบผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ผู้สูงอายุในออสเตรเลียกำลังพลาดรับยารักษาโควิดที่ช่วยชีวิตพวกเขาได้
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
แพทย์ไทยแนะนำผู้ป่วยโควิดจะดูแลตัวเองที่บ้านอย่างไร