จากที่ห่างหายไปสองปี ฤดูไข้หวัดใหญ่กลับมาอีกครั้งพร้อมความรุนแรงกว่าเดิม
มีรายงานเคสผู้ป่วยจากไข้หวัดก่อนเวลาอันควรในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อหลายรายและมีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจำนวนมาก ตามรายงานของวิกเฮลท์ (VicHealth)
นี่เป็นฤดูไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรง เราเห็นผู้ป่วยจำนวนมากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากไข้หวัดใหญ่
นายแพทย์ซานโดร เดไมโอ (Dr Sandro Demaio) ผู้บริหารของวิกเฮลท์กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์
ข้อมูลจากกกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ออสเตรเลียมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่แล้วกว่า 38,000 รายในปีนี้ โดยเกือบร้อยละ 70 ของผู้ป่วย ซึ่งมากกว่า 26,000 รายนั้น เป็นการรายงานในเวลาเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ระหว่างวันที่ 9 – 22 พฤษภาคม
โดย 99 เปอร์เซ็นต์ของผลจากห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ (Influenza A) ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มาแรงในฤดูกาลนี้
เหตุใดฤดูไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ถึงแย่กว่าปีก่อน?
นายแพทย์คริส มอย (Chris Moy) รองประธานสมาคมการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (Australian Medical Association) กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ปีนี้รุนแรงกว่าปีก่อน เพราะนับเป็นครั้งแรกที่ชาวออสเตรเลียต้องเผชิญกับมันในเวลา 3 ปี
“สองปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันโควิด-19 และข้อจำกัดต่างๆ และด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีภูมิคุ้มกันในชุมชน” นายแพทย์มอยกล่าวกับเอสบีเอส นิวส์
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่มีอะไรบ้าง?
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อาการทั่วไปของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ น้ำมูกไหลหรือจาม ไอหรือเจ็บคอ มีไข้และหนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อาเจียนและท้องร่วง (พบมากในเด็ก)
อาการมักจะเริ่มตั้งแต่ 1 – 3 วัน หลังจากติดเชื้อ และอาจมีอาการนานถึงหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น หลายคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางคนอาจป่วยหนักได้
“คุณอาจรู้สึกไม่สบายและอาจมีอาการไปจนสองสามสัปดาห์” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
“โดยเฉพาะอาการไอ อ่อนเพลีย และเหนื่อยล้า ที่มีรายงานว่ามีอาการสองถึงสามสัปดาห์หลังจากติดเชื้อ”อาการของโรคไข้หวัดใหญ่คล้ายกับอาการของโควิด-19 อย่างไร?
ผู้ชายป่วยอยู่บ้าน Source: Pexels/Cottonbro
นายแพทย์มอยระบุว่า การจำแนกอาการระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 นั้นค่อนข้างยาก
“ลักษณะอาการของโควิด-19 อาจเป็นการสูญเสียการรับกลิ่น ซึ่งแตกต่างจากอาการคัดจมูกหรือน้ำมูกไหล” นายแพทย์มอยกล่าว
“นอกจากนั้นมันค่อนข้างยากที่จะบ่งบอกความแตกต่าง และผมไม่คิดว่าคนทั่วไปจะสามารถบอกความแตกต่างจากอาการของพวกเขาได้”
วิธีที่ดีที่สุดที่สามารถบอกได้คืออะไร?
นายแพทย์เดไมโอกล่าวว่า ไม่ควรทึกทักว่าเป็นไวรัสชนิดใดชนิดหนึ่ง
“วิธีที่ดีที่สุดคือโทรสายด่วนโควิด-19 หรือไปพบแพทย์จีพี”
ไม่ว่าคุณจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือโควิด-19 ก็ตาม คำแนะนำของแพทย์ในการจำกัดการแพร่เชื้อยังคงเหมือนเดิม
“ปิดปากเวลาคุณจาม สวมหน้ากากตลอดเวลา และที่สำคัญ หากคุณมีอาการ แยกตัวและลดการติดต่อกับผู้อื่น” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยหรือไม่?
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า วัคซีนถือเป็นการป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
กลุ่มคนต่อไปนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ และมีสิทธิ์รับวัคซีนประจำปีฟรี ภายใต้โปรแกรมการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ: ชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส เด็กอายุระหว่าง 6 เดือน – 5 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัว ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง
เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในออสเตรเลีย รัฐบาลระดับรัฐ 5 รัฐ ได้จัดให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับทุกคุน ได้แก่ รัฐควีนส์แลนด์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย รัฐเซาท์ ออสเตรเลีย และรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย
เมื่อไหร่ที่คุณควรไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่?
“ประชากรออสเตรเลียควรไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยเร็วที่สุด” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
“วัคซีนใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ถึงจะคุ้มกันได้เต็มที่”
นายแพทย์เดไมโอกล่าวว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะมีโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ควรพิจารณาฉีดวัคซีนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงทุกปี ประมาณ 6 สัปดาห์ก่อนฤดูหนาวเริ่มต้น
กลุ่มคนเหล่านั้นอาจต้องปรึกษากับแพทย์จีพีถึงความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครั้งที่สองในปลายฤดูกาล โดยพิจารณาจากหลักการที่วัคซีนจะให้ “ประสิทธิภาพสูงสุด” เป็นเวลาสามถึงสี่เดือน นายแพทย์เดไมโอกล่าว
นายแพทย์มอยกล่าวว่า แม้ว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจไม่สามารถหยุดยั้งการติดเชื้อได้ แต่มันสามารถลดโอกาสของการติดเชื้อรุนแรงและอาการรุนแรงได้
คุณสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้สองครั้งในหนึ่งฤดูกาลหรือไม่”
“ได้ คุณฉีดได้” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
“ไข้หวัดใหญ่มีหลายประเภท และหลายสายพันธุ์”
คุณอาจได้รับเชื้อจากสายพันธุ์เดียวกันได้สองครั้ง แต่การติดเชื้อครั้งที่สองอาจไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก เพราะร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันบางอย่างขึ้น นายแพทย์เดไมโอกล่าวคุณควรฉีดวัคซีนแม้ว่าคุณจะเป็นไข้หวัดหรือไม่?
เด็กผู้หญิงฉีดวัคซีน Source: Pexels/CDC
“แน่นอน” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
“ไวรัสมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นฤดูไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรงมาก”
“ดังนั้นหากคุณเป็นไข้หวัดใหญ่ ผมแนะนำให้ไปที่ร้านขายยาหรือพบแพทย์จีพี และรับวัคซีนเพื่อปกป้องตัวคุณให้ได้มากที่สุดจนสิ้นฤดูกาล”
“คุณควรรอจนอาการของคุณหายเป็นปกติก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน”
แล้วเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนล่ะ?
นายแพทย์เดไมโอกล่าวว่า ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนนั้นยังคงพัฒนาอยู่ จึงไม่แนะนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับเด็กๆ
“สิ่งที่ดีที่สุดที่ครอบครัวสามารถทำได้ในกรณีนี้คือ ให้ทุกคนในครอบครัวฉีดวัคซีน” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
“มันจะลดการติดเชื้อ และหากคุณติดเชื้อ มันจะลดความรุนแรงลง และหากคุณมีอาการที่ไม่รุนแรง โอกาสที่คุณจะกำจัดไวรัสได้นั้นมีมาก และจึงมีโอกาสน้อยที่จะแพร่เชื้อไปให้เด็กๆ “
นายแพทย์เดไมโอกล่าวว่า หากเด็กๆ มีอาการของไข้หวัดใหญ่ วิธีที่ดีที่สุดคือควรขอความช่วยเหลือทันที
“หากคุณมีเด็กเล็กในครอบครัวที่เริ่มมีอาการ โทรสายด่วนโควิด-19 (Covid-19 Hotline) หรือสายด่วนพยาบาล (Nurse-On-Call/Healthdirect) หรือแพทย์จีพีของคุณ และขอคำปรึกษาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ” นายแพทย์เดไมโอกล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่