รัฐบาลประกาศไม่เปลี่ยนแปลงระยะห่างวัคซีนเข็มกระตุ้น

ศาสตราจารย์ พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐ ได้ประกาศว่า ระยะห่างของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังฉีดวัคซีนโดสที่สองแล้วจะไม่ถูกร่นเวลาให้เร็วขึ้น ขณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ยังคงประเมินผลกระทบของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนต่อไป

Chief Medical Officer, Professor Paul Kelly

Chief Medical Officer Professor Paul Kelly. Source: AAP

วัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster shots) สำหรับวัคซีนต้านโควิด-19 จะยังคงฉีดให้ประชาชน 6 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนโดสที่สองแล้วต่อไป หลังหน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐบาลกลางได้ตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron)

ศาสตราจารย์ พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐกล่าวว่า คำแนะนำจากกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI) เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังมีการพิจารณาทบทวนว่า ควรร่นระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้มให้เร็วขึ้นจากเดิมหรือไม่

การตัดสินใจเรื่องนี้มีขึ้นในขณะที่หน่วยงานด้านสุขภาพยังคงประเมินความรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อสายพันธุ์นี้

“ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นให้เร็วขึ้นสำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้ในปัจจุบันจะเพิ่มการป้องกันเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน” ศาสตราจารย์เคลลีบอกกับผู้สื่อข่าวที่กรุงแคนเบอร์ราในการแถลงข่าววันนี้ (3 ธ.ค.)
คำแนะนำจาก ATAGI ยังคงให้เว้นระยะห่าง 6 เดือนสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังฉีดวัคซีนโดสที่สองแล้ว ดังนั้นโดยสรุปคือ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
มีการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในออสเตรเลีย 9 ราย โดยในจำนวนนั้น 8 รายอยู่ในนิวเซาท์เวลส์
ศาสตราจารย์เคลลีกล่าวว่า เขาได้จัดประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของรัฐบาลในแอฟริกาใต้เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการระบุการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรก

เขากล่าวว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนถูกระบุว่า "แพร่กระจายได้ง่าย" แต่จนถึงตอนนี้ "ยังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นในขณะนี้ว่าเชื้อก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น"

“ผมขอเน้นว่าขณะนี้เป็นช่วงวันแรกๆ เพิ่งไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เองที่เชื้อสายพันธุ์นี้เริ่มแพร่ระบาดในแอฟริกาใต้และที่อื่นๆ และมีความล่าช้าอยู่สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและและการเสียชีวิต” ศ.เคลลี กล่าว

“ผมยังคงมองในแง่ดี พร้อมกับมองอย่างระมัดระวัง แต่เราจำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติม”

ขณะนี้ มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 419 รายใน 30 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์เคลลีกล่าวว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในการทดลองเชิงคลินิก (efficacy) ต่อเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ยังแสดงให้เห็นว่า "ยังคงใช้งานได้" แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนจากการฉีดให้ประชาชนในวงกว้าง (effectiveness) ต้องทำการประเมินต่อไป

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้วิพากษ์วิจารณ์ประเทศที่พัฒนาแล้วที่ผลักดันการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชากรส่วนใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ในขณะที่ประชาชนที่มีความเปราะบางในในภูมิภาคที่ยากจนไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เลย

รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียได้สั่งระงับเที่ยวบินจาก 8 ประเทศทางตอนใต้ของแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว และออกข้อกำหนดการกักตัวผู้ที่เพิ่งเดินทางจากภูมิภาคนี้เข้ามายังออสเตรเลีย
คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

การสำรวจชี้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวมักถูกเอาเปรียบ


Share
Published 3 December 2021 12:31pm
Updated 3 December 2021 2:24pm
By Tom Stayner
Presented by Parisuth Sodsai
Source: Reuters, SBS


Share this with family and friends