เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหญิงกว่า 30 รายจากรัฐวิกตอเรีย ตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกลวงด้วยการขู่ปล่อยภาพ-คลิปวาบหวิว (sextortion) หวั่นอาจมีผู้หญิงอีกมากตกเป็นเป้าขบวนการนี้แต่ไม่ได้แจ้งความ
ผู้หญิงในรัฐวิกตอเรียอย่างน้อย 34 คน ถูกมุ่งเป้าโดยผู้ก่อเหตุที่สามารถเข้าถึงภาพเปิดเผยสรีระจากบัญชีผู้ใช้งานบนสื่อสังคมออนไลน์ และพยายามที่จะแบล็กเมล์พวกเขาเหล่านั้นได้
การหลอกลวงทางออนไลน์ที่เรียกว่า sextortion (เซ็กซ์ทอร์ชัน) ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาประกาศเตือนผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ให้ใช้ความระมัดระวัง หากพวกเขาได้รับคำขอเพื่ออนุญาตให้เข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานของเพื่อน
การหลอกลวงในขบวนการนี้ เริ่มต้นจากการที่คุณได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่บอกว่าบัญชีผู้ใช้งานของพวกเขาถูกล็อก และพวกเขาได้เสนอชื่อคุณเป็นผู้รับรหัสยืนยันเพื่อปลดล็อกบัญชี แต่อันที่จริงแล้ว บัญชีผู้ใช้งานของเพื่อนคุณถูกแฮ็ก และรหัสยืนยันที่ได้รับในตอนแรกจะถูกใช้ปลดล็อกบัญชีของคุณเอง
“เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว ผู้ก่อเหตุจะเข้าไปในบัญชีผู้ใช้งานของเหยื่อ เพื่อค้นหาภาพหรือสื่อใดก็ตามที่มีความอ่อนไหวและเปิดเผย ซึ่งสามารถใช้เพื่อขู่แบล็กเมล์เหยื่อได้” ตำรวจรัฐวิกตอเรีย ระบุในแถลงการณ์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 พ.ย.)
“การแบล็กเมล์ อาจเป็นการขอย้ายไปแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ หรือเพื่อบังคับให้ส่งภาพที่เปิดเผยเพิ่มอีก”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เหยื่อคนไทยเผยกลลวงมิจฉาชีพที่อ้างวีซ่าเกษตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่า มีเหยื่ออย่างน้อย 34 รายที่เชื่อมโยงกับขบวนการหลอกลวงนี้ โดยย้อนกลับไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2019 และได้เตือนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียว่า หากพวกเขาพบข้อความในลักษณะนี้ ขอให้โทรหาเพื่อนเพื่อยืนยันว่าเป็นข้อความที่ได้รับมาจากพวกเขาจริง ๆ
“อย่าให้ความช่วยเหลือผู้ใช้งานคนใดเพื่อเข้าถึงบัญชีของพวกเขา แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนที่คุณรู้จักก็ตาม การกู้คืนบัญชีผู้ใช้งานทำได้เฉพาะเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานโดยตรง ผ่านระบบการจัดการของแพลตฟอร์มนั้น ๆ” ตำรวจรัฐวิกตอเรีย ระบุ
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียยังได้รับการแจ้งเตือนด้วยว่า อย่าอัปโหลด บันทึก หรือส่งต่อภาพที่เปิดเผยเรือนร่างหรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว
นายบอริส บุอิก (Boris Buick) สารวัตรสืบสวน กลุ่มงานอาชญากรรมทางไซเบอร์ ตำรวจรัฐวิกตอเรีย ได้ขอให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการดังกล่าวติดต่อเจ้าหน้าที่โดยทันที
“เราเชื่อว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ได้รับการรายงานเท่าที่ควร และมันอาจเป็นไปด้วยเหตุผลหลายอย่าง ตั้งแต่ความกลัวไปจนถึงความอับอาย และในบางครั้งอาจเป็นเพราะไม่แน่ใจว่าได้เกิดเหตุขึ้นหรือยัง หรือกังกลว่าอาจไม่มีใครเชื่อว่าเกิดเหตุขึ้น” สารวัตรบุอิก กล่าว
“ผมต้องการยืนยันกับชุมชนว่า ตำรวจรัฐวิกตอเรียมุ่งมั่นที่จะสืบสวนเหตุการณ์เหล่านี้ และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ได้”
ชคุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
รมต.ท่องเที่ยวชี้ การเดินทางในออสฯ หลังโควิดต้องไม่วุ่นวาย