ประเด็นสำคัญ
- วิถีปฏิบัติในที่ทำงานอาจมีผลกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ
- หากคุณไม่เข้าใจวิถีปฏิบัติขององค์กร คุณอาจรู้สึกแปลกแยกหรือทำงานได้ไม่ดี
- หากคุณไม่แน่ใจว่ากฎระเบียบในที่ทำงานเป็นอย่างไร อย่ากลัวที่จะถาม
- บริษัทควรช่วยให้พนักงานใหม่เข้าใจและปรับตัวกับวิถีปฏิบัติต่างๆ
คุณควรทำความเข้าใจกับวิถีปฏิบัติที่ไม่ได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรของบริษัท
โรบินส์ จอห์นส์ รองคณบดีฝ่ายจัดหาพนักงานเชิงวิชาการและรองศาสตราจารย์จากภาควิชาธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์อธิบาย
“เรามีวิถีปฏิบัติที่กำหนดแนวทางในการประพฤติ กฎที่ไม่ได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรเหล่านี้เป็นเรื่องท้าทาย และอาจกระทบกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ เพราะหากคุณไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ทราบถึงสิ่งเหล่านี้ คุณอาจถูกมองว่าไม่เป็นส่วนหนึ่งของทีม หรือคุณอาจไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กรนั้นได้”
กด ▶ ฟังพอดคาสต์เรื่องนี้
วิถีปฏิบัติในที่ทำงาน ที่อาจไม่ได้ระบุไว้ในกฎระเบียบ
SBS Thai
27/08/202409:33
รองศาสตราจารย์จอห์นส์ชี้ถึงสิ่งที่ควรสังเกต
“สิ่งที่พบได้บ่อยคือเรื่องวิถีปฏิบัติเกี่ยวกับการทำงานบนโต๊ะทำงานของคุณ อาจเป็นเรื่องของการพูดคุยส่วนตัวที่โต๊ะ การพูดโทรศัพท์ที่โต๊ะ หรือการกินข้าวบนโต๊ะ เพราะในหลายๆ ครั้งมีคนบ่นเรื่องกลิ่นของอาหาร เรื่องอื่นอาจเกี่ยวกับพฤติกรรมหรืออารมณ์ เช่น คุณสามารถใช้อารมณ์ได้ในระดับใด คุณนินทาได้หรือไม่ หรือคุณพูดเรื่องส่วนตัวของคุณในที่ทำงานได้หรือไม่ ในบางบริษัท สิ่งเหล่านี้ถือว่าไม่เหมาะสม”
การปฏิบัติตามระเบียบการแต่งกายเป็นประเด็นสำคัญตามวัฒนธรรมขององค์กรเช่นกัน
ที่ทำงานบางแห่งอนุญาตให้แต่งกายแบบลำลองหรือมีกฎการแต่งกายอย่างเป็นทางการ การแต่งกายของแต่ละสำนักงานแตกต่างไปตามสายอาชีพ บริษัท และสถานที่ทำงาน
นอกจากนี้ รศ.จอห์นส์ชี้ว่ายังมีวิถีปฏิบัติเรื่องวิธีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วย
“บางส่วนอาจเกี่ยวข้องกับวิธีที่คุณสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายในที่ทำงาน รวมถึงเรื่องเชิงการเมืองในองค์กร การที่คุณเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในขององค์กรเป็นเรื่องสำคัญมาก มีกฎเกณฑ์มากมาย คุณจะรู้ได้เมื่อเวลาผ่านไป อาจรู้ได้จากการสังเกตเพื่อนร่วมงานว่าพฤติกรรมของพวกเขาเป็นอย่างไร”
พนักงานที่มีความหลากหลายในออฟฟิศ ที่เมืองซิดนีย์ Credit: pixdeluxe/Getty Images
“คุณใช้อีโมจิหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ได้หรือไม่ มารยาทในการใช้สิ่งเหล่านี้เป็นอย่างไร มันอาจไม่ใช่เรื่องที่ระบุไว้ในกฎระเบียบ อาจเป็นสิ่งที่ผู้คนสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ วิธีที่คุณสื่อสารทางอีเมลอาจทำให้คนอื่นไม่สบายใจ”
คริสติน คาสเทิลลีย์ ผู้บริหารของมัลทิคัลเชอรัล ออสเตรเลีย องค์กรช่วยเหลือผู้อพยพให้ปรับตัวกับชีวิตใหม่ที่ออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียมีระบบกฎหมายและระเบียบที่มุ่งปกป้องสิทธิและสุขภาวะที่ดีของลูกจ้าง
สถานที่ทำงานในออสเตรเลียต้องปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวด และอาจเข้มงวดกว่าประเทศอื่นๆ
"เรามีโครงการเพื่อสิทธิของแรงงานต่างด้าว โครงการที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าจ้างที่คุณควรได้รับ มาตรฐานของตำแหน่งนี้ ความคาดหวังเรื่องสภาพแวดล้อมในการทำงาน ชั่วโมงที่คุณควรทำงาน และยังมีสิ่งต่างๆ ที่คุณควรทำเกี่ยวกับภาษี เงินซูเปอร์ (เงินบำนาญ) และประกัน"
การเลือกปฏิบัติถือเป็นเรื่องร้ายแรงในออสเตรเลีย Credit: pixdeluxe/Getty Images
เนจัด บาซาร์ โปรดิวเซอร์ระดับสูงของเอสบีเอส ภาคภาษาตุรกี ซึ่งทำงานที่ตุรกีมา 20 ปี ก่อนย้ายมาที่ออสเตรเลีย
เขากล่าวว่าสถานที่ทำงานในออสเตรเลียเข้มงวดเรื่องการกลั่นแกล้งมากกว่าที่ตุรกี
“การกลั่นแกล้งเป็นเรื่องปกติที่ตุรกี เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหวังให้เกิด เช่น เจ้านายต้องก้าวร้าว และพนักงานต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ที่ออสเตรเลียมีคำจำกัดความที่ ชัดเจนเรื่องการกลั่นแกล้ง เรื่องอคติทางเพศ เรื่องการต่อต้านกลุ่ม LGBTQ+”
วิธีแสดงความไม่เห็นด้วยแตกต่างไปตามบรรทัดฐานของวัฒนธรรม ที่ออสเตรเลียมักจะแสดงออกด้วยความเคารพและสร้างสรรค์
นอกจากนี้ ชาวออสเตรเลียใช้วิธีจับมือ พยักหน้า หรือการทักทายด้วยวาจาในการปฏิสัมพันธ์ในที่ทำงาน
คาสเทิลลีย์กล่าวว่า ควรหลีกเลี่ยงการแสดงความรักอย่างเปิดเผยกับเพื่อนร่วมงาน
“การกอดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับบางประเทศ แม้กระทั่งการหอมแก้มสองข้าง ซึ่งไม่ค่อยปฏิบัติในออสเตรเลีย ที่นี่ปฏิบัติแบบครึ่งต่อครึ่ง ยังมีวัฒนธรรมอื่นด้วยเช่นกัน เช่น วัฒนธรรมเอเชียนไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด”
การแสดงความไม่เห็นด้วยมักเป็นไปด้วยความเคารพและสร้างสรรค์ Credit: xavierarnau/Getty Images
รศ.จอห์นส์กล่าวว่า การเข้าใจวัฒนธรรมเรื่องเวลาทำงานเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
“แม้ว่ามันจะไม่อยู่ในสัญญาจ้าง แต่บ่อยครั้งที่องค์กรต่างๆ มีวิถีปฏิบัติว่าพนักงานทำงานถึงเมื่อไหร่ อาจมีการระบุไว้ว่าเลิกงาน 17.30 น. แต่พนักงานอาจทำงานจนถึง 19.00 น. และหากคุณไม่อยู่ที่ทำงานจนเวลานั้น อาจดูเหมือนว่า ‘คนนี้ไม่ทุ่มเทเท่าไหร่ เพราะเลิกงานตรงเวลา’ แต่ฉันคิดว่าหลายองค์กรพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้”
ช่วงพักดื่มกาแฟหรือ ‘ชาในตอนเช้า’ เป็นเรื่องปกติในสถานที่ทำงานในออสเตรเลีย และนับเป็นโอกาสในการเข้าสังคมและผูกมิตรในทีม
อย่างไรก็ตาม ผู้ย้ายถิ่นบางคนไม่คุ้นชินกับแนวปฏิบัตินี้ โดยอาจมองว่าเป็นเรื่องผิดจริยธรรมและเป็นการเสียเวลา
’ไปดื่มกาแฟกันเถอะ’ หมายความว่าเรามาพูดคุยและสานสัมพันธ์กันเถอะ
"มันกลายเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ ฉันคิดว่ามันคือการทำความเข้าใจว่าคุณจะสร้างความสัมพันธ์อย่างไร”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อะไรคือการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน และคุณควรทำอย่างไรเมื่อตกเป็นเหยื่อ
คาสเทิลลีย์เสริมว่า บางครั้งการไม่เข้าใจถึงวิถีปฏิบัติในที่ทำงานอาจทำให้รู้สึกแปลกแยกได้
แม้ว่าบริษัทจะมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานในเรื่องนี้ พนักงานเองสามารถสอบถาม เสาะหาที่ปรึกษาหรือเพื่อนร่วมงานด้วย
“สิ่งที่ผู้อพยพควรทำเมื่อเริ่มงานใหม่ คือการพูดว่า ‘ฉันอยากเข้าใจวัฒนธรรมในที่ทำงานนี้ เพื่อให้สามารถทำงานได้เต็มความสามารถ มีความช่วยเหลืออะไรที่คุณสามารถให้ฉันซึ่งเป็นพนักงานได้ เพื่อให้แน่ใจว่าฉันสามารถทำงานได้ดีที่สุดให้คุณ?’”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายใหม่อนุญาตให้พนักงานตั้งโหมด 'ห้ามรบกวน' นอกเวลางานในออสเตรเลีย